ทัวร์ยุโรป อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี ออสเตรีย WINTER ZERMATT 8 วัน 5 คืน สายการบินอีวีเอ แอร์เวย์

14.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เคาน์เตอร์สายการบิน อี.วี.เอ.แอร์ ประตู 9 แถว T พบเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก
17.10 น. ออกเดินทางสู่สนามบินไทเป โดยเที่ยวบินที่ BR068
21.45น. เดินทางถึงสนามบินไทเป รอเปลี่ยนเครื่อง
23.10 น. ออกเดินทางต่อสู่สนามบินมิวนิคด้วยเที่ยวบินที่ BR071
07.55 น. ถึงสนามบินมิวนิค ประเทศเยอรมนี (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง และจะเปลี่ยนเป็น 5 ชั่วโมงในวันที่ 31 มีนาคม 2566) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง
ออกเดินทางสู่ ฮัลสตัท (Hallstatt) หมู่บ้านมรดกโลกแสนสวย อายุกว่า 4,500 ปี ประเทศออสเตรีย ซึ่งเมืองนี้นั้นเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีสวยงามราวกับภาพวาด กล่าวกันว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดใน Salzkammergut เขตที่อยู่บนอัพเพอร์ออสเตรีย และมีทะเลสาบสวยถึง 76 แห่ง ออสเตรียให้ฉายาเมืองนี้ว่าเป็นไข่มุกแห่งออสเตรีย และเป็นพื้นที่มรดกโลกของ UNESCO Cultural-Historical Heritage เพียงเดินเที่ยวชมเมืองเสมือนหนึ่งท่านอยู่ในภวังค์แห่งความฝัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ปลาเทร้าท์จากทะเลสาบฮัลสตัทย่าง)
**ถ้าในกรณีไม่สามารถหาปลาเทร้าท์ได้ ทางบริษัทขอเปลี่ยนเป็นปลาชนิดอื่นจากทะเลสาบฮัลสตัทแทน**
บ่าย หลังจากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองซาลส์บวร์ก (Salzburg) ประเทศออสเตรีย เมืองที่เป็นบ้านเกิดของนักดนตรีเอก “วูล์ฟกัง อมาดิอุส โมสาร์ท” ที่มีชื่อเสียงก้องโลก โดยงเมืองซาลส์บวร์กมีความหมายว่า “ปราสาทเกลือ” เยี่ยมชมเขตเมืองเก่าศิลปะบาโรกที่ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำซัลซาค เมืองซาลส์บวร์กเคยเป็นที่ประทับถาวรของอาร์คบิชอป และ เป็นศูนย์กลางทางศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกที่สำคัญยิ่งของบรรดาประเทศที่ใช้ภาษาเยอรมัน
นำท่านชม สวนมิราเบลล์ (Mirabel Garden) ซึ่งเป็นฉากหนึ่งในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “มนต์รักเพลงสวรรค์” (The Sound of Music) ที่โด่งดังไปทั่วโลก
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
นำท่านเข้าสู่ที่พัก BEST WESTERN PLUS AMEDIA ART หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
ออกเดินทางกลับสู่ เมืองมิวนิค (Munich) อยู่ทางใต้ของประเทศเยอรมนี และเป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย ยังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ (รองจากเบอร์ลินและฮัมบูร์ก) และเป็นหนึ่งในเมืองมั่งคั่งที่สุดของยุโรป ซึ่งมีพรมแดนติดเทือกเขาแอลป์ โดยรัฐบาวาเรียเคยเป็นรัฐอิสระปกครองด้วยกษัตริย์มาก่อน ก่อนที่จะผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเยอรมนี จึงมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง ทั้งด้านศิลปวัฒนธรรม และอาหารอันเลื่องชื่อ ซึ่งได้แก่ ไส้กรอกเยอรมัน ขาหมูทอด เพรทเซล และเบียร์
นำชม จัตุรัสมาเรียนพลาสท์ (Marienplatz) ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์และธุรกิจของนครมิวนิค บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่งดงามซึ่งสร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ใช้เวลาสร้างถึง 42 ปี มีหอระฆังสูง 85 เมตร ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวรอคอยเฝ้าชมตุ๊กตาไขลานที่จะออกมาเต้นรำ เมื่อนาฬิกาตีบอกเวลา 11.00 น. และ 17.00 น. อิสระท่านเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนม และของฝากตามอัธยาศัย
อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
บ่าย จากนั้นเดินทางสู่ เมืองฟุสเซ่น (Fussen) เป็นเมืองเก่ามาตั้งแต่ครั้งจักรวรรดิโรมัน เป็นที่ตั้งปราสาทของกษัตริย์บาวาเรีย ล้อมรอบไปด้วยทะเลสาบน้อยใหญ่ที่มีความงดงามทางด้านทัศนียภาพ เป็นเมืองสุดท้ายบนถนนสายโรแมนติกที่เคยมีความรุ่งเรืองในอดีตตั้งแต่ยุคโรมัน และได้ใช้เมืองนี้เป็นจุดแวะพักขนถ่ายสินค้า และซื้อขายเกลือมาแต่โบราณ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก HIRSCH หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านสู่ เมืองโฮเฮนชวานเกา (Hohenschwangau) เมืองเล็กๆที่สวยงามบริเวณเขตชายแดนของประเทศเยอรมนีและออสเตรีย จากนั้นเดินทางขึ้นปราสาทเพื่อเข้าชมความสวยงามของปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) นำชมต้นแบบของปราสาทเจ้าหญิงนิทราในดิสนีย์แลนด์ ซึ่งปราสาทนอยชวานสไตน์ ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาดุจปราสาทในเทพนิยาย ซึ่งเป็นปราสาทของพระเจ้าลุดวิคที่ 2 หรือ เจ้าชายหงส์ขาว ชมความวิจิตรพิสดารของห้องต่างๆ ที่ได้รับการตกแต่งอย่างงดงามด้วยการออกแบบของริชาร์ด ว้ากเนอร์ ซึ่งเป็นนักประพันธ์เพลงที่ทรงโปรดปรานยิ่ง
*** หากคณะไม่สามารถเข้าชมปราสาทนอยชวานสไตน์ได้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์คืนเงินหน้างานท่านละ 13 ยูโร และถ่ายรูปด้านนอกกับปราสาทนอยชวานสไตน์ เป็นการทดแทน ***
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ขาหมูเยอรมัน)
บ่าย ออกเดินทางสู่ เมืองซูก (Zug) เมืองแห่งศูนย์กลางการคมนาคมของประเทศ โดยตัวเมืองตั้งอยู่บนที่ราบเชิงเขาริมทะเลสาป ที่มีแม่น้ำ Lorze ไหลผ่านทำให้เมืองนี้ได้รับการกล่าวขานว่ามีทัศนียภาพที่งามดั่งเทพนิยาย
นำท่านชม เมืองชมหอนาฬิกาเมืองซุก (Clock Tower) แลนด์มาร์กที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง ด้วยความสูงของหอถึง 52 เมตรและความโดดเด่น ของหลังคาซึ่งเป็นสีน้ำเงินขาวโดนเด่นตัดกับสีหลังคาสีน้ำตาลของบ้านเมืองสวยงามอย่างยิ่ง มีเวลาให้ท่านเดินขึ้นบันไดสู่จุดชมวิวด้านบนของหอนาฬิกา ที่ท่านจะสามารถเห็นวิวที่สวยงามโดยรอบของเมืองซุก
นำท่านเข้าชม โบสถ์เซนท์ออสวอร์ล (St Oswald's church) โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญของเมือง ตัวโบสถ์สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1478 ใช้เวลาการก่อสร้างนานถึง 6 ปี ถือเป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่สำคัญที่สุดในช่วงโกธิคตอนปลายแห่งหนึ่งในสวิตเซอร์แลนด์ นอกจากนี้ ชาวสวิสยังมีความเชื่ออีกว่า ถ้าใครมีเรื่องทุกข์ร้อนใดๆ หรือเจ็บป่วย ถ้าได้มาขอพรกับโบสถ์แห่งนี้ จะช่วยบรรเทาให้ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว (กรณีถ้ามีพิธีภายในโบสถ์ อาจไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าชม)
นำท่านเข้าชม ร้านทำทองที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป (The Oldest house of goldsmiths in Europe) ของครอบครัว Lohri เปิดทำการตั้งแต่สมัยศัตวรรตที่ 16 ภายในตัวอาคารมีการตกแต่งในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยจักวรรดินโปเลียน มีซุ้มประตูและเสาโรมัน มีรูปปั้นและจิตรกรรมฝาผนัง ด้วยการวาดลายหินอ่อนด้วยมือ ในปี 1971 ได้เปิดร้านนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายาก และบางชิ้นมีเพียงชิ้นเดียวในโลก มีเวลาให้ท่านเดินชื่นชมอาคาร งานศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายากแล้ว ในส่วนของ Lohri Store ยังมีนาฬิกาชั้นนำระดับโลกให้ท่านเลือกซื้อเลือกชมอาทิ เช่น Patek Philippe, Franck Muller Cartier , Piaget, Parmigiani Fleurier, Panerai, IWC , Omega, Jaeger-LeCoultre, Blancpain, Tag Heuer ฯลฯ และไม่ควรพลาดเค้กเชอร์รี่ Zug Cherry Cake (Zuger Kirschtorte) จากร้าน Speck เค้กที่มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และมีขายมากว่าร้อยปี
ออกเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น (Lucerne) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา
จากนั้นพาท่านชม สิงโตหินแกะสลัก (Dying Lion of Lucerne) ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิสที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792
ชมสะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ำรอยส์ (Reuss River) อันงดงามซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิส ตลอดแนวสะพาน
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก IBIS STYLES LUZERN หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
ออกเดินทางสู่ เมืองกรินเดอวาลด์ (Grindelwald) เมืองตากอากาศที่สวยงาม เพื่อขึ้นกระเช้าEiger Express กระเช้าลอยฟ้าตัวใหม่ สู่สถานี Eigergletscher โดยกระเช้าตัวนี้นอกจากจะให้ท่านได้เห็นวิวความสวยงามของจุงเฟราโดยรอบแล้วยังจะช่วยให้ท่านลดเวลาลงกว่า 40 นาที เมื่อเทียบกับการขึ้นสู่ยอดเขาแบบเดิม
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางต่อด้วยรถไฟเพื่อขึ้นสู่ สถานีรถไฟจุงเฟรายอร์ค (Jungfraujoch) สถานีรถไฟที่อยู่สูงที่สุดในยุโรป (Top of Europe) ระหว่างเส้นทางขึ้นสู่ยอดเขาท่านจะได้ผ่านชมธารน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่ โดยเมื่อปี คศ.2001 องค์การยูเนสโกประกาศให้ยอดเขาจุงเฟรา เป็นพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของยุโรป มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 11,333 ฟุตหรือ 3,454 เมตร
หลังจากนั้นนำท่านเข้าชม ถ้ำน้ำแข็ง (Ice Palace) ที่แกะสลักให้สวยงาม อยู่ใต้ธารน้ำแข็งลึกถึง 30 เมตร อิสระให้ท่านได้สนุกสนานกับการถ่ายรูป เล่นหิมะบนยอดเขาและเพลิดเพลินกับกิจกรรมบนยอดเขา และที่ไม่ควรพลาดกับการส่งโปสการ์ดโดยที่ทำการไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในยุโรป
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนยอดเขา
นำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองอินเทอร์ลาเกน (Interlaken) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่าง ทะเลสาบทูน (Lake Thun) และทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) อันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ และ มีความสำคัญประหนึ่งเมืองหลวงของแบร์นเนอร์โอเบอลันด์ มีภาพของยอดเขาจุงเฟราเป็นฉากหลัง อิสระให้ท่านเดินเล่นในเมืองตามอัธยาศัย
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองแทซ (Taesch) เมืองทางตอนใต้ของสวิตเซอร์แลนด์ติดกับเมืองเซอร์แมต(Zermatt)
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก ELITE หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ สถานีรถไฟเมืองแทซ (Teasch) เพื่อเดินทางสู่เมืองเซอร์แมท (Zermatt) เมืองที่ไม่อนุญาตให้รถยนต์วิ่งและเป็นเมืองที่ได้รับการยกย่องว่าปลอดมลพิษที่ดีของโลก เซอร์แมท (Zermatt) เมืองแห่งสกีรีสอร์ท ยอดนิยมที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากเป็นเมืองที่ปลอดมลพิษทางอากาศเพราะยานพาหนะในเมืองไม่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง แต่ใช้แบตเตอรี่เท่านั้น และยังมีฉากหลังของตัวเมืองเป็นยอดเขาแมททอร์ฮอร์น (Matterhorn) ที่ได้ชื่อว่าเป็นยอดเขาที่มีรูปทรงสวยที่สุดในสวิส
นำท่าน นั่งรถไฟฟันเฟืองสู่สถานีรถไฟกรอนเนอร์แกรต (Gornergrat railway) เดินทางสู่จุดชมวิวที่ท่านจะได้เห็นทัศนียภาพที่สวยงามของยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์นที่สวยงาม โดยท่านสามารถเดินเท้าสู่บริเวณทะเลสาบที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 2,757 เมตร โดยบริเวณทะเลสาบนี้เป็นเงาสะท้อนภาพเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn's reflect) อันสุดสวยงามยิ่งนัก ( โดยปกติน้ำในทะเลสาบ จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำฝน และ สภาพอากาศ ถ้าช่วงฤดูหนาวทะเลสาบจะกลายเป็นน้ำแข็ง)
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย จากนั้นเดินทาง ข้ามพรหมแดนสวิตเซอร์แลนด์ – อิตาลี สู่ตัวเมืองมิลาน (Milan) เมืองที่เรียกได้ว่า เป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่นของโลก
นำท่าน ถ่ายรูปด้านนอกของมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน (Duomo di Milano) ที่สร้างด้วยศิลปะแบบนีโอโกธิค ผสมผสานกัน ชมความงดงามอันน่าอัศจรรย์ ของสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ
นำท่านชม แกลเลอรี วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล (Galleria Vittorio Emanuele II) ซึ่งนับว่าเป็นช้อปปิ้งมอลล์ที่สวยงาม หรูหราและเก่าแก่ที่สุดในเมืองมิลาน อนุสาวรีย์ ของกษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล ที่ 2 ผู้ริเริ่มการรวมชาติหัวเมืองต่างๆในอิตาลี และอนุสาวรีย์ของศิลปินชื่อดังในยุคเรเนซองส์อีก 1 ท่าน คือลีโอนาร์โด ดาร์วินซี่ ที่อยู่ในบริเวณ ด้านหน้าของโรงละครสกาล่า
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก HOLIDAY INN MILAN NORD ZARA หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
ได้เวลาอันสมควรนำเดินทางสู่สนามบิน เพื่อให้ท่านมีเวลาในการทำการคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาในการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน
11.00 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสารเที่ยวบินที่ BR096
06.15 น. เดินทางถึงสนามบินไทเป รอเปลี่ยนเครื่อง
08.50 น. ออกเดินทางต่อสู่กรุงเทพด้วยเที่ยวบินที่ BR067
11.50 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ