ทัวร์อียิปต์ มหาปีรามิด วิหารคอมออมโบ วิหารลักซอร์ ชมสฟิงซ์ 8 วัน 5 คืน สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์

23.30 น. พร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ สายการบิน Qatar Airways เคาน์เตอร์ M ประตูทางเข้าที่ 7 เจ้าหน้าที่ คอยอำนวยความสะดวก และทำการเช็คอิน
02.30 น. ออกเดินทาง สู่กรุงโดฮา ประเทศ กาตาร์ โดยสายการบิน Qatar Airways เที่ยวบินที่ QR 837
05.30 น. เดินทางถึง สนามบินโดฮา เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง
08.10 น. นำท่านเดินทางสู่ สนามบินไคโร ประเทศอียิปต์ เที่ยวบินที่ QR1303 บริการอาหารเครื่องดื่มบนเครื่องบิน
10.45 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติไคโร กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทยประมาณ 5 ชั่วโมง)
นำท่านเข้าสู่ กรุงไคโร (Cairo) หรือชื่อเรียกในภาษาอาหรับคือ “กอฮิเราะฮ์” หมายความว่า ชัยชนะ โดยระหว่างการก่อนสร้างเมืองได้มีการมองเห็นดาวอังคาร ซึ่งดาวอังคารเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของการทำลายล้าง หรืออีกนัยหนึ่งคือไคโรเป็นเมืองที่รบชนะทุกกองทัพที่มาโจมตีตั้งแต่กองทัพมองโกล, กองทัพครูเสด หรือแม้แต่กองทัพของออตโตมัน ว่ากันว่าไคโรเป็นดินแดนแห่งอารยธรรมและโบราณคดีอันลี้ลับและน่าพิศวง ทั้งยังมีแม่น้ำไนล์ที่ยาวที่สุดในโลกไหลผ่าน ซึ่งในปัจจุบันไคโรได้กลายเป็นเมืองหลวงของอียิปต์ เป็นศูนย์กลางของศาสนาอิสลาม ทั้งยังมีความสำคัญด้านการเมืองและวัฒนธรรมในดินแดนตะวันออกกลาง ปัจจุบันมีประชากรกว่า 20 ล้านคน
กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์แห่งชาติอียิปต์ (EGYPTIAN MUSEUM) ซึ่งตั้งอยู่ในอาคารใหญ่ เรียกโดยทั่วไปว่าพิพิธภัณฑ์อียิปต์โบราณ จัดตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1858 โดยนักโบราณคดี ชาวฝรั่งเศส ชื่อ Auguste Marriette ทั้งอาคารเก่าแก่และการ ตกแต่งภายใน ได้รับการยกย่องว่างดงามสมบูรณ์แห่งหนึ่งของเมืองนี้ ชมหน้ากากทองคำของฟาโรห์ ตุตัง คาเมน และงานศิลปะที่มีค่าไม่ต่ำกว่า 250,000ชิ้น มีอายุเก่าแก่เกือบห้าพันปีมาแล้ว
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่ โรงแรม Radisson Blu Hotel 5*
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม-เช็คเอ้าท์
นำท่านเดินทางสู่ เมืองกีซ่า (Giza)
เพื่อชมยิ่งใหญ่ของมหาพีระมิดกีชา หรือ The Great Pyramid of Giza อายุกว่า 5,000 ปี ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ซึ่งเป็นที่บรรจุพระบรมศพของพระศพของกษัตริย์อียิปต์โบราณ หรือฟาโรห์ พี่ระมิดของฟาโรห์ในยุคราชวงศ์ที่ 4 ซึ่งประกอบไปด้วยพีระมิดของฟาโรห์คูฟู (Khufu) คาเฟร (Khafre) และเมนคาอูเร (Menkaure) ซึ่งพีระมิดที่ใหญ่ที่สุดก็คือของฟาโรห์ดูฟู ซึ่งพระองค์เป็นผู้สร้างขึ้นเองเมื่อก่อนคริสตกาลประมาณ25,800 ปี นับอายุจนถึงปัจจุบันก็กว่า 4,500 ปี ถือเป็นพีระมิดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก นับเป็นสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่และเก่าแก่ที่สุดใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 20 ปีก่อสร้างด้วยหินปูนมากว่า 2.5 ล้านก้อน โดยแต่ละก้อนมีน้ำหนัก 2 ถึง70 ต้น และกำลังแรงงานกว่าแสนคนตัดจากแท่งหินขนาดใหญ่มาก หินแต่ละก้อนวางชิดติดกันแบบแนบสนิทมากแม้แต่กระดาษก็สอดไม่ผ่าน
นำท่าน ชมสฟิงซ์ ซึ่งแกะสลักจากเนินหินธรรมชาติมีส่วนหัวเป็นพระพักตร์ของฟาโรห์และลำตัวเป็นสิงโต สฟิงซ์ (Sphinx) ซึ่งแกะสลักด้วยหินก้อนใหญ่เป็นรูปสิงโตหมอบ แต่ศีรษะเป็นมนุษย์ส่วนใบหน้านี้เป็น ใบหน้าของพระเจ้าคีเฟรน ซึ่งได้รับการนับถือพระเจ้าแห่งพระอาทิตย์ สฟิงฆ์นี้สูงถึง 18 เมตร ยาว 73 เมตร อิสระให้ท่านเก็บภาพประทับใจ ***(กรณีท่านใดสนใจขี่อุฐกรุณาติดต่อที่หัวหน้าท้วร์ ราคาประมาณ $ 20 เหรียญต่อท่านต่อหนึ่งตัว)
นำท่านแวะชม ศูนย์กลางการทำกระดาษปาปีรุส ซึ่งเป็นกระดาษชนิดแรกของโลกทำจากต้นกก (Papyrus) ใช้บันทึกข้อความสรรเสริญเทพเจ้าและเหตุการณ์สำคัญต่างๆ นักประวัติศาสตร์เชื่อว่า มีการใช้กระดาษที่ทำจากปาปิรุสมาตั้งแต่ปฐมราชวงศ์ของอียิปต์ หรือราวๆ 3,000 ปีก่อนคริสตกาล จากนั้นนําท่านชมโรงงานผลิตหัวน้ําหอม ซึ่งสืบทอดมาตั้งแต่สมัย พระนางคลีโอพัตรา และที่นี้ยังเป็นศูนย์กลางแหล่งผลิตหัวน้ําหอมขนาดใหญ่ให้กับยี่ห้อแบรนด์เนมดัง ๆหลายยี่ห้อ
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่าน เข้าชม พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งแห่งนครเมมฟิส ซึ่งเป็นที่ตั้งของรูปแกะสลักขนาดยักษ์ ของฟาโรห์รามเสสที่ 2 (ที่ยิ่งใหญ่ครองราชย์ยาวนาน 69 ปี ซึ่งถือว่ายาวนานที่สุดมากกว่าฟาโรห์ทุกองค์) แกะสลักจากหินแกรนิตสีชมพู ที่นำมาจากเมืองอัสวาน และอีกหนี่งสิ่งสำคัญที่จัดแสดงอยู่กลางแจ้งของ พิพิธภัณฑ์เมมฟิส คือสฟิงค์ ขนาดใหญ่ สลักจากหินอาลาบาสเตอร์ สูง 8 เมตร ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด
หลังจากนั้นนำท่านสู่ เมืองซัคคาร่า (Saqqara) ชมพีระมิดขั้นบันได (Step Pyramid) สิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ใช้เป็นสถานที่ฝังพระศพของฟาโรห์ซอเซอร์ (Djoser or Zoser) และได้ใช้เป็นต้นแบบของพีระมิดสามเหลี่ยมในยุคต่อมา เช่น มหาพีระมิดแห่งกีซ่า ท่ามกลางทะเลทรายอันกว้างใหญ่นี้เต็มไปด้วยพีระมิด สุสาน ของฟาโรห์ ชนชั้นสูง และเหล่าเสนาบดี ฟาโรห์ซอเซอร์เป็นฟาโรห์แห่งราชวงศ์ที่ 3 พีระมิดแห่งนี้จึงมีอายุกว่า 4,600 ปี ถือว่าเป็นพีระมิดที่เก่าแก่ที่สุด
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่ โรงแรม Radisson Blu Hotel 5*
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม-เช็คเอ้าท์
หลังจากนั้น นำท่านเดินทางสู่ สนามบินภายในประเทศ
นำท่านเดินทางสู่ สนามบินอัสวาน ประเทศอียิปต์ โดยเที่ยวบินในประเทศ
ถึงสนามบิน อัสวาน ประเทศอิยิปต์ ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองและรับกระเป๋าที่เมืองอัสวาน
นําท่านไปชม เขื่อนยักษ์อัสวานหรืออีกชื่อหนึ่งเรียกว่า High Dam ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1960 เพื่อช่วยให้มีนํ้าหล่อเลี้ยงไร่นาตลอดปี อีกทั้งยังใช้พลังนํ้าเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของคนทั้งประเทศและเพื่อป้องกันนํ้าไหลท่วมจากแม่นํ้าไนล์เวลาฝนตกหนัก ซึ่งเขื่อนนี้มีความยาว 36,000 เมตร ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นทะเลสาบที่เกิดจากการสร้างเขื่อนสร้างแม่นํ้าไนล์ คือ ทะเลสาบนัสเซอร์ (Nasser) มีความลึก 80 เมตรและกว้าง 10 เมตร
หลังจากนั้นนำท่าน ชมแหล่งหินแร่แกรนิตที่เก่าแก่และเสาหินโอเบลิก (The Unfinished Obelisk) ที่ยังสร้างไม่เสร็จ หากสร้างเสร็จเมื่อยกขึ้นตั้งจะเป็นเสาโอเบลิกที่สูงที่สุดในอียิปต์
ได้เวลาพอสมควรนำท่านเช็คอินท์ขึ้น เรือสำราญ Blue Shadow
นำท่านชม วิหารฟิเล (Philae Temple หรือ Temple of Isis) เป็นวิหารที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพีไอซิส เป็นวิหารที่มีความสําคัญและงดงามมาก ในอดีตวิหารนี้เคยถูกสร้างขึ้นบนเกาะฟิเลกลางแม่น้ำไนล์ แต่เมื่อเขื่อนอัสวานสร้างเสร็จ วิหารทั้งวิหารก็จมอยู่ใต้ระดับน้ำ นานาชาติจึงเข้ามาช่วยเหลือโดยการทำทำนบกั้นน้ำ และค่อยๆย้ายหินทีละก้อนขึ้นมาสร้างวิหารแห่งใหม่ที่เกาะอากิลเกียแทนที่วิหารเดิมแห่งนี้
จากนั้นนําท่านชมโรงงานผลิตหัวน้ําหอม ซึ่งสืบทอดมาตั้งแต่สมัย พระนางคลีโอพัตรา และที่นี้ยังเป็นศูนย์กลางแหล่งผลิตหัวน้ําหอมขนาดใหญ่ให้กับยี่ห้อแบรนด์เนมดัง ๆหลายยี่ห้อ
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนเรือแบบบุฟเฟต์
นําท่านเช็คอินลงเรือสําราญที่พักซึ่งเป็นเรือสําราญขนาดใหญ่
นําท่านเปลี่ยนบรรยากาศ ลงเรือใบโบราณ ล่องไปตามแม่นํ้าไนล์ หรือที่เรียกกันว่า เรือเฟลุคกะ (Felucca)
ผ่านชมสวนพฤกษศาสตร์ (Botanical Gardens) เป็นที่ศูนย์รวมพันธ์ไม้นานาชนิด ผ่านชมสุสานอากาข่าน(Agha Khan Tomb) รวมไปถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเมืองอัสวานที่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยที่เทคโนโลยีเริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารบนเรือแบบบุฟเฟต์
ที่พักบนเรือสำราญ ล่องแม่น้ำไนล์ Blue Shadow
เช้า รับประทานอาหารเช้าบนเรือ
จากนั้นนำท่านถึงเมืองคอม ออมโบ เรือเทียบท่าแล้ว
นำท่านชม วิหารคอม ออมโบ วิหารคู่โบราณ (Temple of Kom Ombo) ตั้งอยู่เหนือเขื่อนอัสวานประมาณ 50 กิโลเมตร เป็นวิหารศิปละกรีก-โรมัน ทสร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้าสององค์คือ เทพโซเบค มีเศียรเป็นจระเข้ วิหารแห่งนี้อยู่ด้านขวามือ ส่วนวิหารทางด้านซ้ายบูชาเทพฮอรัส(Horus) มีเศียรเป็นเหยี่ยวเทพเจ้าแห่งการต่อสู้และความกล้าหาญ ถัดไปจากทางซ้ายมือ จะเห็นบ่อน้ำที่มีปากบ่อเป็นรูปกุญแจโบราณหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Key of life สร้างขึ้นมาด้วยภูมิปัญญาของคนโบราณเอาไว้ใช้วัดความสูงของแม่น้ำไนล์เพื่อเก็บภาษีประจำปี
กลางวัน รับประทานอาหาร ภัตตาคารบนเรือแบบบุฟเฟต์
จากนั้นนั่งรถเทียมม้าไปชม วิหารเอ็ดฟู (Temple of Horus of Edfu) ซึ่งได้รับการยกย่องว่า เป็นวิหารอียิปต์โบราณที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ที่สุด ตั้งอยู่ศูนย์กลางของบริเวณที่อยู่อาศัย สร้างขึ้นเพื่อบูชา เทพเจ้าฮอรัส มีเศียรเป็นเหยี่ยว เป็นเทพเจ้าแห่งความดีและฉลาดรอบรู้มองได้ไกลเหมือนตาเหยี่ยว อดีตวิหารถูกปกคลุมด้วยทรายเกือบถึงยอดตัวเสาและหัวเสาเป็นเวลานาน ปี ค.ศ. 1860 มีการขนทราย ปรากฏว่าตัววิหารยังแข็งแรง แน่นหนาขนาดของวิหารยาว 137 เมตร มีเสาใหญ่แบบไพรอนที่วัดได้ 79 เมตรตรงด้านหน้าและสูง 36 ม. วิหารนี้มีขนาดใหญ่และสวยงาม
จากนั้นเดินทางกลับขึ้นเรือล่องสู่ เมืองอีสนา Esna เพลิดเพลินและพักผ่อนกีบบรรยากาศบนเรือ ชมวิวสองฝั่งแม่น่ำไนล์
นำท่านผ่านชม ประตูน้ำอีสน่าล๊อค (Esna Lock) การเปิดประตูน้ำจากระดับน้ำที่สูงกว่าจนถึงการนำเรือลงสู่ระดับน้ำที่ต่ำกว่า
ค่ำ รับประทานอาหาร ภัตตาคารบนเรือแบบบุฟเฟต์
นำท่านเพลิดเพลินกับการชมแสดงพื้นเมืองของชาวอิยิปต์ (Galabia Party)
ที่พักบน เรือสำราญ ล่องแม่น้ำไนล์ Blue Shadow
เช้า รับประทานอาหารเช้าบนเรือ
นำท่าน เดินทางถึง เมืองลัคซอร์ (Luxor)
จากนั้นนำท่านไปชม หุบผากษัตริย์ (Valley of The Kings) ซึ่งเป็นสถานที่ฝังพระศพของฟาโรห์ 62 พระองค์ แยกตามสุสานต่างๆในบริเวณหุบผา ซึ่งตั้งอยู่บริเวณหน้าผาธีบัน ที่บริเวณนี้เป็นภูเขาหินทรายสีแดง ในแต่ละสุสานต้องใช้การขุดเจาะภูเขาเข้าไปทำเป็นช่องทางลับภายใน จะทำทางเดินเป็นช่วงๆ และทำเป็นห้องสำหรับวางโลงศพ สมบัติ ข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวของฟาโรห์ ชมความอัศจรรย์ของภาพวาดตามผนังจากสีธรรมชาติที่มีอายุเป็นพันๆปีจากยุคฟาโรห์แต่ยังคงความสวยงามไว้จนถึงยุคปัจจุบันนี้
นำท่านชม วิหารฮัคเชฟซุต (Temple of Queen Hatshepsut) ออกแบบโดยสถาปนิก ชื่อ “เซเนมุท” กว่า 3,500 ปีมาแล้วที่ประดิษฐานพระศพของ ฟาโรห์หญิงฮัตเชพซุต รู้จักในนาม “ราชินีหนวด” ฟาโรห์หญิงองค์เดียวในประวัติศาสตร์อียิปต์ ที่รุ่งเรืองมากในสมัยของพระองค์
ชม อนุสาวรีย์แห่ง เมมนอน (Colossi of Memnon) หรือสุสานของฟาโรห์อาเมนโฮเทปที่ 3 อดีตเคยใช้เป็นวิหารประกอบพิธีศพของอาเมนโฮเทปที่ 3 ประมาณ 2,000 กว่าปี ก่อน เกิดเหตุแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง ทำให้ตัววิหารพังลงมา เหลือเพียงรูปสลักหินทรายขนาดใหญ่ 2 รูป สูง 20 เมตร
กลางวัน รับประทานอาหาร ภัตตาคารบนเรือแบบบุฟเฟต์
นำท่านชม มหาวิหารคาร์นัค (The Temple of Karnak) เป็นวิหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตัววิหารหลังเดียวมีเนื้อที่ถึง 60 เอเคอร์ ซึ่งใหญ่พอที่จะนำโบสถ์ขนาดใหญ่ของยุโรปไปวางได้ถึง 10 หลัง มหาวิหารแห่งนี้เริ่มก่อสร้างในสมัยฟาโรห์ทุตโมซิสที่ 1 เพื่อถวายแด่เทพอมอน-รา เมื่อกว่า 3,600 ปีมาแล้ว หลังจากนั้นฟาโรห์องค์ต่างๆ ก็เริ่มสร้างเพิ่มเติม ทำให้วิหารมีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างมาก แต่เห็นความยิ่งใหญ่ของวิหารแล้ว ขอให้ทุกท่านลองจินตนาการดูว่าชาวอียิปต์โบราณใช้วิธีใดในการขนย้ายเสา และหิน พร้อมทั้งการแกะสลักลวดลาย ซึ่งเมื่อท่านเห็นความสูงแล้วก็จะยิ่งทำให้นึกไม่ออกก็เป็นได้ ว่าเขาใช้วิธีทำอย่างไร อิสระให้ท่านเก็บภาพประทับใจตามอัธยาศัย
นำท่านชม วิหารลักซอร์ (The Temple of Luxor) ซึ่งสร้างถวายแก่เทพอมอนรา กษัตริย์แห่งเทพ เช่นกัน วิหารแห่งนี้ได้รับการบูรณะในปี ค.ศ. 1883 ภายในบริเวณวิหารประกอบด้วยซุ้มประตูขนาดใหญ่และรูปสลักหินแกรนิตขนาดมหึมาสลักเป็นรูปฟาโรห์รามเซสที่ 2 และมหาราชินีเนเฟอตารี ชมเสาโอบิลิสก์ เสาหินแกรนิตขนาดใหญ่ซึ่งแกะสลักด้วยอักษรอียิปต์โบราณ(เฮโรกริฟฟิค) เพื่อสรรเสริญเทพเจ้าอมอนรา ซึ่งท่านอาจจะได้เห็นเสาเช่นนี้อีกที่ ปลาซเดอลาทริออง (Place de la Triamph) เมืองปารีสประเทศฝรั่งเศส ภาพสลักที่วิหารแห่งนี้ก็ถือได้ว่าน่าสนใจไม่น้อย เช่น ภาพขบวนนักรบเดินแถว ที่สลักอย่างแตกต่างกันว่าเป็นนักรบชนชาติใดบ้าง เห็นแล้วก็ชวนให้นึกถึงภาพสลักขบวนนักรบที่ปราสาทหินในเขมร (ที่ว่าของกลุ่มเสียมสยาม จะเดินแตกแถวกัน) นอกจากนั้น ด้านหน้าวิหารจะมีถนนสฟิงซ์หน้าแพะ (Sphinx Avenue) ยาว 3 กิโลเมตรใช้เป็นทางเชื่อมระหว่างวิหารลักซอร์กับวิหารคาร์นัค
ได้เวลาอันสมควรนำท่าน เช็คอินเรือสำราญ Kon Tiki Nile Cruise
นำท่าน เข้าชม3สุสานที่สวยที่สุดและสมบรูณ์ที่สุด
ค่ำ รับประทานอาหาร ภัตตาคารค่ำในเรือ หลังจากนั้น
นำท่านเข้าสู่ที่พักบน เรือสำราญ ล่องแม่น้ำไนล์ Moon Shadow
เช้า รับประทานอาหารเช้าบนเรือ
นำท่านเช็คเอ้าท์ออกจากเรือ
นำท่านเดินทางสู่ สนามบินกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ โดยเที่ยวบินที่ SM053
เดินทางถึงสนามบินไคโร
หลังจากนั้น เดินทางเข้าสู่กรุง ไคโร
นำท่าน ผ่านชม Salah EL Din Citadel & Mohamed Ali Mosque ป้อมปราการแห่งไคโร หรือ ป้อมปราการแห่งศอลาฮุดดีน เป็นป้อมปราการสมัยอิสลามในยุคกลางในกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ สร้างโดย Salah ad-Din (Saladin) และเป็นที่ตั้งของรัฐบาลในอียิปต์และเป็นที่พำนักของผู้ปกครองมาเกือบ 700 ปีตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ถึงศตวรรษที่ 19 สถานที่ตั้งบนแหลมของเนินเขา Mokattam ใกล้ใจกลางกรุงไคโรมีตำแหน่งทางยุทธศาสตร์ที่มองเห็นเมืองและเหนือเส้นขอบฟ้าในปี 2519 ได้รับการประกาศโดยยูเนสโกให้เป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกไคโรแห่งประวัติศาสตร์ (อิสลาม) ชมมัสยิดใหญ่ของ Muhammad Ali Pasha หรือ Alabaster Mosque เป็นมัสยิดที่ตั้งอยู่ใน Citadel of Cairo ในอียิปต์ สร้างโดยMuhammad Ali Pasha ระหว่างปี 1830 ถึง 1848 เป็นมัสยิดออตโตมันตั้งอยู่บนยอดของป้อมปราการ ซึ่งเป็นมัสยิดที่มองเห็นได้ชัดเจนที่สุดในไคโร
นำท่านเดินทางสู่ สุเหร่า มูฮัมหมัด อาลี ปาชา (Mosque of Muhammad Ali Pasha) เป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยม สถาปัตยกรรมยุคออตโตมาน มีหอมินาเรต์หรือหอเรียกสวดเป็นเสาสูงรูปแปดเหลี่ยม มี Blue Mosque ที่อิสตันบูลเป็นต้นแบบด้านนอกมีหอนาฬิกา สุเหร่าแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อ ปี ค.ศ. 1830 โดย “มูฮัมหมัด อาลี ปาชา” ซึ่งเป็นผู้นำเอาความเจริญสมัยใหม่มาสู่ประเทศอียิปต์ โดยใช้เวลาสร้างถึง 18 ปีลักษณะเป็นสุเหร่าใหม่มาก สร้างบนพื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างด้านละ 41 เมตร มีกลุ่มโดมหรือหลังคากลมซ้อนกันลดหลั่นลงมาแบบตุรกี (Turkish style) โดมใหญ่สุดที่อยู่ตรงกลางนั้น สูงถึง 52 เมตร มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 21 เมตร และถูกรายล้อมไปด้วยหลังคากึ่งโดมใหญ่เล็กหลายลูก ทั้งนี้สุเหร่านี้สร้างในพื้นของป้อมซิทาเดล (Citadel) ซึ่งเป็นป้อมปราการที่สร้างขึ้นเพื่อปกป้องกรุงไคโรในระหว่างสงครามครูเสด ป้อมปราการที่อยู่บนยอดเขา บริเวณที่ก่อสร้างซิทาเดลเป็นชัยภูมิที่เหมาะสมเพราะเป็นจุดที่สามารถมองเห็นกรุงไคโรได้ทั้งเมืองและยากต่อการที่ศัตรูจะบุกเข้าโจมตีซิทาเดลมีบริเวณกว้างและตั้งอยู่ภายในกำแพงที่แข็งแกร่ง
กลางวัน รับประทานอาหารไทย ณ ภัตตาคาร (พิเศษ เมนูอาหารไทย)
นำท่านเดินทางสู่ ตลาดข่านแอลคาลิลี่ (KHAN EL KHALILI) ซึ่งที่นี่มีร้านค้าจำนวนมากจำหน่ายจิวเวลรี่, ของที่ระลึก,เครื่องเทศ,เสื้อผ้า เยอะแยะมากมาย เดินช็อปปิ้งกันสนุกมากครับที่นี่ มาถึงวันสุดท้าย แล้วก็อยากให้เป็นเวลาของทุกท่านอิสระให้เต็มที่ ซื้อของฝาก หรือจะหาร้านเก๋ๆนั่งทอดอารมณ์มองผู้คนตมอัธยาศัย
18.00 น. เดินทางสู่สนามบินไคโร มีเวลาให้ท่านเช็คอินสัมภาระ และเลือกซื้อสินค้าปลอดภาษีก่อนกลับไทย
20.45 น. เดินทางสู่ กรุงโดฮา ประเทศ กาตาร์ เที่ยวบิน QR 405 สายการบิน Qatar Airways เพื่อเปลี่ยนเครื่อง
01.40 น. ถึงกรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ รอเปลี่ยนเครื่อง เพื่อเดินทางกลับ กรุงเทพฯ
08.10 น. ออกเดินทางสู่งกรุงเทพ เที่ยวบิน QR 832 โดยสายการบิน Qatar Airways
19.05 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ด้วยความประทับใจ