ทัวร์ยุโรป คาบสมุทรไอบีเรีย ชายหาดริเวียร่า สเปน อันดอร์รา ฝรั่งเศสตอนใต้ อิตาลี 10 วัน 7 คืน สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์

20.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศประตู 8 เคาน์เตอร์ S ของสาย การบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ พบเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก
23.00 น. ออกเดินทางสู่งอิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยเที่ยวบินที่ TK069
05.15 น. เดินทางถึงประเทศตุรกี ให้ท่านแวะพักเปลี่ยนเครื่อง
07.40 น. ออกเดินทางสู่บาร์เซโลน่า ประเทศสเปน โดยเที่ยวบินที่ TK1853
10.20 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและด่านศุลกากรเรียบร้อยแล้ว
นำท่านเดินทางชมความงามของ “เมืองบาร์เซโลน่า” แวะบันทึกภาพกับ สนามกีฬาโอลิมปิค 1992 และชมทิวทัศน์รอบตัวเมืองบนยอดเขา “มองต์จูอิค”Mont Juic
จากนั้นผ่านชม อนุสาวรีย์ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส นักเดินเรือผู้ยิ่งใหญ่ ที่ออกเดินทางจากกรุงบาร์เซโลนา ไปพบหมู่เกาะแคริบเบียน และทวีปอเมริกาในปี ค.ศ.1492
นำท่านเก็บภาพมหาวิหารซากราด้า ฟาอมิเลียร์ (Sagrada Familia) (ชมภายนอก) สัญลักษณ์แห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สูงใหญ่ถึง 170 เมตร ออกแบบก่อสร้างอย่างสวยงามแปลกตา ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1882 เป็นผลงานชั้นยอด ที่แสดงถึงอัจฉริยภาพของ อันโตนี เกาดี้ สถาปนิกผู้เลื่องชื่อ มหาวิหารแห่งนี้
จากนั้นนำท่านเข้าชมภายใน ปาร์ค กูเอล (Park Guell) สวนมหัศจรรย์ แห่ง บาร์เซโลนา เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในบาร์เซโลนาที่พลาดไม่ได้ ที่นี่โดดเด่นไปด้วยศิลปะงานโมเสค ซึ่งออกแบบโดย อันตอนี เกาดี อี กูร์เนต (Antoni Gaudi i Cornet) สถาปนิกชาวคาตาลัน ประเทศสเปน ภายในสวนนั้นถูกตกแต่งไปด้วยงานปฎิมากรรม สถาปัตยกรรม ศิลปกรรมที่ประดับตกแต่งลวดลายด้วยเครื่องกระเบื้องโมเสคนับล้านชิ้น จุดเด่นของสวนสาธารณะแห่งนี้คือ "มังกรโมเสค" (Mosaic dragon) ที่ไต่คลานบนบันไดน้ำพุ อันเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ปัจจุบันสวนสาธารณะปาร์ค กูเอลได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ.2005 โดยสวนแห่งนี้เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีความสำคัญมากแห่งหนึ่งของเมืองบาร์เซโลนา
บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ถนนช้อปปิ้งสายใหญ่ของบาร์เซโลนา “ถนนลารัมบลา” Larambla ย่านที่มีชื่อเสียงที่สุดของบาร์เซโลนาแหล่งท่องเที่ยวอันเป็นที่ชื่นชอบของคนทุกวัยถนนสายเล็กๆที่มีความ ยาวเพียง1.2 กิโลเมตรแต่มีสีสันเสน่ห์น่าประทับใจทั้งกลางวันและกลางคืนอิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้ง ตามอัธยาศัย ท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าและเสื้อผ้าแบรนด์เนมทั้ง H&M, ZARA, BENETON, TOPSHOP หรือจะช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำซึ่งมีร้านตั้งอยู่ตลอดแนวถนน “Passeig de gracia” ท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าอาทิ LOUIS VUITTON, CHANEL, GUCCI, LOEWE และอื่นๆ อีก
บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่: Fira Congress หรือที่พักระดับใกล้เคียง
บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่ “มอนต์เซอร์รัต” (Montserrat) แคว้นคาตาโลเนีย เสน่ห์ความเก่าแก่แห่งสเปน สถานที่ท่องเที่ยวและโบราณสถานที่มีชื่อเสียงหลายแห่งมักจะมีเสน่ห์และเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างกันไป
นำท่านขึ้นสู่ “ยอดเขามอนต์เซอร์รัต” ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ (โดยกระเช้า) เพื่อชมความงดงามของมหาวิหาร “ซานตามาเรีย เดอ มอนต์เซอร์รัต” (Benedictine monastery of Santa Maria de Montserrat ) มีความพิเศษคือตั้งอยู่ในหุบเขาที่มีระดับความสูงประมาณ 1,200 เมตร และลักษณะของภูเขาที่มีรูปร่างหยักและสูงใหญ่ ความแปลกนี้คงเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้ผู้คนหลั่งไหลกันมาท่องเที่ยว
บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ “อันดอร์รา ลา เวลลา” Andorra la Vella เป็นเมืองหลวงกลางหุบเขาของประเทศอันดอร์ราซึ่งตั้งอยู่บนความสูงถึง 1,023 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล กลางเทือกเขาพิเรนีสระหว่างประเทศฝรั่งเศสกับประเทศสเปน อุตสาหกรรมหลักของเมืองนี้การท่องเที่ยว ถึงแม้ว่าประเทศจะมีรายได้นำเข้าจากการเป็นแหล่งหลบภาษี นอกจากนั้นยังมีสินค้าพื้นเมืองอย่างเฟอร์นิเจอร์และบรั่นดี มีเวลาให้ท่านเดินเลือกสินค้าที่ระลึกต่างๆ ในเขตบาร์รี อันติก (Barri Antic) เขตเมืองเก่าที่ทีชื่อเสียงของเมือง
บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่: Hotel Roc Blanc หรือที่พักระดับใกล้เคียง
บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่ “เมืองการ์กาซอน” (CARCASSONNE) คืออีกเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของแคว้นล็องก์ดอค-รูซียง และยังเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์อันเก่าแก่มาตั้งแต่ยุคสมัยก่อนโรมัน ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นเมืองป้อมปราการยุคกลางที่โดดเด่นแห่งหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส
นำท่านเที่ยวชม เมืองการ์กาซอน แยกออกเป็นสองส่วน “CITÉ DE CARCASSONNE” เมืองเก่าล้อมรอบด้วยกำแพงเมือง และ “VILLE BASSE” เป็นเมืองใหม่เป็นบริเวณปริมณฑลรอบตัวเมืองเก่านั่นเองป้อมปราการยุคกลางประจำเมือง แต่ก่อนจะเข้าไปสู่อาณาเขตป้อมปราการนั้น ผ่านชมสะพานวิเยอร์ (PONT VIEUX) ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการข้ามแม่น้ำโอด (AUDE) ป้อมปราการกาการ์ซอน (FORTRESS OF CARCASSONNE) ป้อมปราการยุคกลางที่โดดเด่น ซึ่งภายในป้อมปราการนั้นประกอบไปด้วยถนนและโบสถ์สมัยโกธิค ซึ่งอยู่เขตของกำแพงขนาดใหญ่จำนวนสองชั้นและหอ 53 หอ เพื่อล้อมรอบปราสาทและอาคารโดยรอบกำแพง ปราสาทการ์กาซอน (CARCASSONNE CASTLE) เป็นปราสาทที่ตั้งอยู่ภายในรั้วกำแพงเมือง อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางของกาการ์ซอนยุคกลาง ซึ่งต่อมาได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1997
บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ “เมืองตูลูซ” (Toulouse) เป็นเทศบาลในจังหวัดโอต-การอน ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส เป็นเมืองหลวงของแคว้นมีดี-ปีเรเน ซึ่งติดกับประเทศสเปน แต่มีพรมแดนธรรมชาติ คือ เทือกเขาพิเรนีสคั่นไว้ ตูลูซเป็นเมืองใหญ่อันดับที่สี่ของประเทศฝรั่งเศส เป็นศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมการบินของโลก โดยเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่และโรงงานของแอร์บัส นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของอินเทลภาคพื้นยุโรปตลอดจนหน่วยงานด้านอวกาศของฝรั่งเศส
บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่: Mercure Toulouse Campans Caffa Hotel / หรือที่พักระดับใกล้เคียง
บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่ “เมืองนีม” (Nimes) หรือ นีเมส เป็นเมืองหลวงของจังหวัดการ์ ในแคว้นล็องก์ด็อก-รูซียง ประเทศฝรั่งเศส เมืองนีมเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานนับพันปี นับตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโรมันเป็นต้นมา และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักอีกแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส เมืองนีมเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญในสมัยโรมโบราณ รวมทั้งอัฒจันทร์แบบโรมันโบราณ วิหารโรมัน (แมซงกาเร) และหอคอยมาญ ซึ่งสถานที่ทั้งสามยังคงอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ จนเมืองนีมได้ถูกเรียกเป็น “กรุงโรมแห่งฝรั่งเศส”
นำท่านแวะถ่ายรูปกับ สะพานปงต์ ดู การ์ (Pont du Gard) สะพานส่งน้ำโรมันโบราณ เพื่อใช้เป็นสะพานส่งน้ำของเมืองนีมส์ (Nimes) ระยะทางยาวเกือบ 50 กิโลเมตร ทอดผ่านแม่น้ำการ์ด (Gard) ซึ่งองค์การยูเนสโกได้ยกย่องให้เป็นมรดกโลก ในปี ค.ศ.1985
บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ “เมืองอาวีญง” (Avignon) เป็นเมืองหลักของเขตจังหวัดโวกลูซ แคว้นโพรว็องซาลป์โกตดาซูร์ ทางภาคใต้ของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโรน ในปัจจุบันเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และยังเป็นเมืองหลวงของจังหวัดโวกลูซ อาวีญง ได้ถูกขนานนามว่า “เมืองแห่งพระสันตะปาปา” เนื่องจากในอดีตนั้นเคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสันตะปาปา (รวมทั้งพระสันตะปาปาเท็จ) ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1309 - ค.ศ. 1423 ในช่วงของการแตกแยกครั้งใหญ่ของคริสตจักร (Catholic Schism) นอกจากนี้อาวีญงยังเป็นหนึ่งในไม่กี่เมืองในประเทศฝรั่งเศสที่ยังมีกำแพงเมืองเก่าที่ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ และยังมีศูนย์ประวัติศาสตร์ พระราชวังพระสันตะปาปา สะพานอาวีญง ซึ่งยังอยู่ในสภาพดี ซึ่งทั้งหมดนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เมื่อปีค.ศ. 1995
ได้เวลาอันสมควร จากนั้นเดินทางสู่ “เมืองมาร์เซย์” (Marseille) เมืองท่าที่สำคัญของประเทศฝรั่งเศส เป็นเมืองชายหาดริเวียร่าที่งดงาม ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นประตูเมดิเตอร์เรเนียนของฝรั่งเศส
บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่: Novotel Marseille Est, Hipark Design Suites Hotel / หรือที่พักระดับใกล้เคียง
บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นำท่านออกเดินทางสู่ “หมู่บ้าน มูสติเยร์ส แซงต์ มารี” “หมู่บ้านที่สวยที่สุดในประเทศฝรั่งเศส” หมู่บ้าน มูสติเยร์ส แซงต์ มารี Moustiers-Sainte-Marie หรืออีกชื่อหนึ่งคือ หมู่บ้านแห่งดวงดาว ตั้งอยู่ระหว่างหน้าผา 2 หน้าผาด้วยกันใน Provence-Alpes-Côte d'Azur หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่ 760 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มีผู้อยู่อาศัยเพียง 694 คนเท่านั้น เป็นหมู่บ้านที่สวยงามมากที่สุดจนได้รับเลือกให้เป็น Un Les Plus Beaux Village De France (One of the most beautiful villages of france)
จากนั้น นำชมจุดสำคัญที่สุดของเมืองนี้ อันได้แก่ ดวงดาว (I’Etoile) ซึ่งมีเรื่องเล่าขานต่อกันมาว่า อัศวินคนหนึ่งซึ่งตกไปเป็นเชลยศึกในช่วงสงครามครูเสด ได้ตั้งอธิษฐานว่า “หากมีโอกาสได้กลับบ้านอีกครั้ง จะนำดวงดาวไปแขวนไว้ระหว่างยอดเขา ณ หมู่บ้านของข้า” แสดงว่าคำอธิษฐานของเขาคงเป็นจริง จึงมีดาวแขวนให้เราเห็นอยู่จนทุกวันนี้ สำหรับ I’Etoile ถือเป็นสัญลักษณ์ของความสมหวังในการขอพร มีขนาดวัดได้ 1.25 เมตร ส่วนโซ่ที่แขวนดาวไว้ยาว 135 เมตร น้ำหนัก 150 กิโลกรัม และมิได้คงทนถาวรตลอดไปในรอบหนึ่งร้อยปี จะมีอันตกลงมา แล้วต้องเปลี่ยนขึ้นไปใหม่อยู่ 2 ครั้งด้วยกัน เนื่องจากเมืองนี้ตั้งอยู่บนภูเขา ความสวยงามอีกอย่างหนึ่งคือ การได้เห็นบ้านเรือนสวยๆ โดยมีฉากหลังเป็นภูเขา ท้องฟ้า และแน่นอน เมื่อมองดีๆ จะมีดาวดวงนั้นปรากฎให้เห็นอยู่ด้วย ไฮไลท์ของหมู่บ้านแห่งนี้อีกหนึ่งอย่างคือ เครื่องปั้นดินเผาที่เรียกว่า Faïence เป็นภาชนะที่ทำจากดินเผา เครื่องเซรามิก ที่นี่ทำกันมาเนิ่นนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ได้ชื่อว่าเป็นเครื่องดินเผาที่ทำได้ประณีตที่สุดในประเทศ ถึงขนาดพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ยังโปรดให้สั่งเข้าไปใช้ภายในวังอีกด้วย
บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ “เมืองคานส์” (CANNES) เป็นเมืองที่สองของการท่องเที่ยวฝรั่งเศสตอนใต้ เป็น เมืองที่จัดงานที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก คือ เทศกาลเมืองคานส์ (CANNES FILM FESTIVAL) เป็นเทศกาลที่มีมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1946 ถือเป็นเทศกาลภาพยนตร์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเทศกาลหนึ่ง อาคารที่ใช้ในการจัดงานเป็นอาคารขนาดเล็กสูง 2-3 ชั้นในช่วงเทศกาล อาคารจึงจะได้รับการตกแต่งให้ดูเลิศหรูอลังการสักครั้งหนึ่งที่ ลานด้านหน้าอาคาร มีรอยประทับเท้าพร้อม ลายเซ็นของดาราฮอลลีวู๊ด มีชื่อหลายคน หากใครที่คลั่งไคล้ดาราแล้วละก็พลาดไม่ได้ที่กับการวัดรอยมือดาราคนโปรดที่หน้าปาเล่ เด เฟสติวาล PALAIS DES FESTIVALS ที่เหล่าดาราชื่อดังทั้งหลายได้ประทับรอยมือไว้ให้เป็นที่ระลึก เมืองคานส์ยังเต็มไปด้วยโรงแรมหรูหราริมชายหาดริเวียร่า และถนนที่ทอดยาวริมชายหาดที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ลาโพรมานาด เดอ ลา ครัวเซท LA PROMENADE DE LA CROISETTE นอกจากนี้ยังมีท่าจอดเรือยอร์ชลำงาม ๆ ของบรรดามหาเศรษฐีทั้งหลายด้วย
นำท่านออกเดินทางสู่ “เมืองนีซ” (NICE) เมืองตากอากาศในเขตโก๊ตดาชูร์ นำท่านเที่ยวชม “เมืองเก่านีซ” Old Nice ถ่ายรูปคู่กับ จัตุรัสเมสซิน่า จัตุรัสซึ่งประดับด้วยไม้ดอกนานาพันธุ์ เช่น ดอกกุหลาบ ทิวลิป เจเรเนียม ฯลฯ ผลัดเปลี่ยนไปตามฤดูกาล นอกจากนั้นยังมีน้ำพุสวยงามและอาคารทรงคลาสสิกตั้งอยู่เรียงราย ซึ่งนิยมทาสีสันสดใสตามแบบอาคารสถาปัตยกรรมทางตอนใต้ของฝรั่งเศสเป็นย่านซื้อของฝากจากนีซในราคาถูก มีไอศกรีมแบบอิตาเลี่ยนให้ชิม เป็นที่อยู่ของพวกคนพื้นเมือง มีโบสถ์เก่าสมัยคริสศตวรรษที่18
บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่: Novotel Nice Arenas, Park Inn By Radisson Hotel หรือที่พักระดับใกล้เคียง
บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นำท่านแวะ “หมู่บ้านกราซ” (Grasse) เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นจุดกำเนิดของความโด่งดัง ที่ทำให้ฝรั่งเศสนั้นกลายเป็นดินเเดน เเห่งน้ำหอม กราซเป็นเเหล่งผลิตน้ำหอมที่ใหญ่ที่สุดของ มีเวลาให้ท่านเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องหอมท้องถิ่น ณ โรงงานกัลลิมาร์ด (Galimard) โรงงานผลิตน้ำหอมที่เก่าแก่ที่สุดของแคว้นโพวองซ์ พร้อมรับส่วนลด และของที่ระลึกจากโรงงาน
นำท่านออกเดินทางสู่ แซงต์ปอล เดอ วองซ์ เมืองโบราณบนยอดเขา ที่สวยและสมบูรณ์ที่สุดในโพวองซ์ เคยถูกโรมันยึดครอง ในยุคกลางเมืองถูกรุกรานจากสเปน กษัตริย์ฟรองซัวส์ที่ 1 แห่งฝรั่งเศส โปรดให้สร้างกำแพงหินล้อมรอบเมือง ความขลังและสวยงามดึงดูดศิลปินมารังสรรค์งานที่นี่ ทั้งนักเขียน นักกวี นักแสดง กองถ่ายภาพยนตร์ ล้วนแต่หลงเสน่ห์แซงต์ปอล เดอ วองซ์
นำท่านเดินทางสู่กรุงมอนติ คาร์โล มลรัฐโมนาโค รัฐอิสระที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส
บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านชม “กรุงมอนติ คาร์โล” เมืองหลวงของประเทศโมนาโค ซึ่งเป็นที่ประทับของเจ้าผู้ครองแคว้นตั้งอยู่บนหน้าผาสูง 60 เมตร ตามสไตล์ชัยภูมิของอัศวินในยุคกลาง นำท่านชมลานพระราชวังแห่งโมนาโค ซึ่งเป็นที่ประทับของประมุขแห่งรัฐโมนาโคในปัจจุบัน
นำท่านเข้าชมภายในวิหารโมนาโค ที่สร้างในรูปแบบนี้โอโรมานซ์ เป็นที่ฝังพระศพของเจ้าหญิงเกรซแห่งโมนาโกและเจ้าชายเรนิเยร์ พระสวามี ชมความหรูหราของคาสิโน และโรงแรมเดอะปารีส โรงแรมสุดหรูของมอนติ คาร์โล (หากท่านต้องการเข้าชมด้านในกรุณาใส่เสื้อสูท) เดินเล่นไปตามทางเดินในเมือง ซึ่งสองข้างทางเต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนร้านค้า ที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมอันงดงามตื่นตาตื่นใจมากมาย ชมวิวทิวทัศน์โดยรอบของโมนาโค และสามารถมองเห็นท่าเรือซึ่งมีเรือยอร์ช จอดอยู่เรียงราย เมืองโมนาโคแม้จะเป็นเมืองเล็กๆที่มีธรรมชาติรายล้อม มากมายแต่ก็เต็มไปด้วยวัฒนธรรม และความงามของสถานที่อันยิ่งใหญ่มากมายกลมกลืนไปกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ “เมืองเจนัว”
บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคารภายในที่พัก
พักที่: Mercure Genova Hotel, NH Hotel Genoa หรือที่พักระดับใกล้เคียง
บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นำท่านนั่งรถโค้ชชมเมืองโดยรอบ ซึ่งบริเวณกำแพงเมือง เป็นศิลปะที่มีมาตั้งแต่สมัยยุคกลาง ปัจจุบันเจนัวได้กลายเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียง และยังมีตึกรามโบราณในแบบสถาปัตยกรรมชาวโรมัน ซึ่งล้วนแต่มีอายุมากกว่า 500 ปี ขึ้นไป
นำท่านผ่านชม “อนุสาวรีย์คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส” Columbus monument นักเดินเรือที่มีบ้านเกิดที่เมืองเจนัวแห่งนี้ หรือที่เชื่อกันว่าเป็นชาวยุโรปคนแรกที่ค้นพบทวีปอเมริกา ผ่านชมชายฝั่งทะเลที่ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้แก่เมืองนี้
อิสระอาหารกลางวันเพื่อความสะดวกในการช้อปปิ้ง
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ SERRAVALLE DESIGNER OUTLET ที่มีพื้นที่ช้อปปิ้งมากที่สุดของยุโรป และบริหารงานโดย McArthurGlen Group เครือธุรกิจ Outlet ชั้นนำของยุโรป ซึ่งมี 13 แห่งในสหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ ออสเตรีย และอิตาลี ร้านค้าใน Serravalle มีทั้งหมดกว่า 180 ร้าน แหล่งช้อปปิ้งที่พร้อมมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบหรูหรา ด้วยร้านค้าที่นำเสนอแฟชั่นแบรนด์อิตาลีและแบรนด์ระดับโลกอื่นๆ อาทิ Gucci, Prada, Armani, Burberry, Nike, Adidas, Michael Kors, Calvin Klein, Benetton, Guess ฯลฯ
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ “เมืองมิลาน” เมืองสำคัญในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลอมบาร์ดี
บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่: Holiday Inn Hotel / หรือที่พักระดับใกล้เคียง
บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นำท่านชม“ ปราสาทสฟอร์เซสโก้ ” ปราสาทสวยงามหลังนี้ได้เคยเป็นป้อมปราการของพวกตระกูลวิสคอนติ ต่อมาเป็นที่พำนักของผู้นำเผด็จการในช่วงศตวรรษที่ 15 คือ ตระกูลสฟอร์ซา มีเวลาให้ท่านได้ถ่ายภาพกับมุมสวยๆ ของน้ำพุที่โพยพุ่งบริเวณด้านหน้าปราสาทสฟอร์เซสโก้
นำท่านชม “มหาวิหารแห่งมิลาน หรือดูโอโม” สัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของเมือง อันมีขนาดใหญ่โ ตมโหฬาร สร้างขึ้นด้วยหินอ่อนสีขาวในศิลปะแบบโกธิค ใช้เวลาสร้างนานกว่า 500 ปี ปัจจุบันเป็น “โบสถ์แคธอลิกที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก” ลานด้านหน้าเป็นที่ตั้งของพระราชานุสาวรีย์พระเจ้าวิคเตอร์เอ็มมานูเอลที่ 2 ทรงม้า รายล้อมด้วยอาคารที่เก่าแก่คลาสสิคหรือ อิสระเลือกช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังนานาชนิด อาทิ Gucci ,Louis Vuitton ,Prada ,Bally ,Chanel ฯลฯ
19.40 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯโดยเที่ยวบินที่ TK1876
23.40 น. เดินทางถึงอิสตันบูล (แวะพักเปลี่ยนเครื่อง)
01.45 น. เหิรฟ้าสู่กรุงเทพฯโดยเที่ยวบินที่ TK068
15.25 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ