ทัวร์ญี่ปุ่น นิกโก้ ฟุคุชิมะ เซนได อิสระเล่นหิมะ ชมความน่ารักของสุนัขจิ้งจอก เที่ยวเทศกาลคามาคุระ เมืองยูนิชิงาวะ สัมผัสประสบการณ์แช่ออนเซ็นเท้า 5 วัน 3 คืน สายการบินแอร์เอเชียเอ๊กซ์

23:00 น. พร้อมกันที่ สนามบินนานาชาติดอนเมือง ชั้น 3 อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เคาน์เตอร์ สายการบิน AIR ASIA X เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
02.30 น. เหินฟ้าสู่ เมืองฟุคุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น โดยเที่ยวบินที่ XJ824 **ราคาไม่รวมค่าอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง**
10.30 น. เดินทางถึง สนามบินฟุคุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร เรียบร้อยแล้ว (เวลาที่ญี่ปุ่น เร็วกว่าเมืองไทย 2 ชั่วโมง กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเพื่อความสะดวกในการนัดหมายเวลา) ***สำคัญมาก!! ประเทศญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับและจับ
จากนั้นเดินทางสู่ นิกโก้ (Nikko) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในทิวเขาในจังหวัดโทชิกิ อยู่ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางทิศเหนือประมาณ 140 กิโลเมตร เป็นเมืองท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างประเทศ มีรีสอร์ทน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียง ทิวเขาทางตะวันตกของเมืองเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาตินิกโก เป็นที่ตั้งของน้ำตกและเส้นทางชมทิวทัศน์ที่กล่าวกันว่าสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นมีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องความสวยงามของวัดและศาลเจ้าต่างๆที่ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (1)
นำท่านชม สะพานชินเคียว (Shinkyo Bridge) ตั้งอยู่ ณ ประตูทางเข้าศาลเจ้าและวัดนิกโก้ เป็นของศาลเจ้าฟูตะระซัง เป็น 1 ใน 3 ของสะพานที่สวยที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ร่วมกับสะพานคินไตเคียว ที่อิวาคูนิกับสะพานซารุฮาชิ ที่ยามานาชิ สะพานชินเคียวเป็นสะพานโค้งสีแดง ทอดข้าม แม่น้ำไดยะ (Daiya river) ตรงเชิงปากทางขึ้นสู่แหล่งมรดกโลก มีความยาว 28 เมตร กว้าง 7 เมตร สูงจากระดับน้ำประมาร 10 เมตร สร้างจากไม้ โดยมีเสาหินรองรับน้ำหนัก สมัยก่อนสะพานนี้ใช้เฉพาะเจ้านายชั้นสูงหรือเชื้อพระวงศ์เท่านั้นในการข้ามแม่น้ำไดยะ (ไม่รวมค่าข้ามสะพาน มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมท่านละ 300 เยน)
จากนั้นนำท่านสู่ ศาลเจ้าโทโชกุ (Toshogu Shrine) ศาลเจ้าโทโชกุนั้นก็เป็นศาลเจ้าที่มีความสำคัญต่อนิกโก้และต่อญี่ปุ่นมาก เพราะเป็นสุสานของโชกุน โตกุกาว่า อิเอยาสุ ซึ่งเป็นโชกุนที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น รวมถึงที่นี่ยัง มีการอัญเชิญดวงวิญญาณอีกสองดวงคือโตโยโตมิ ฮิเดโยชิ ไดเมียวคนสำคัญ และมินาโมโตะ โยริโตโมะ ผู้ที่จัดตั้งรัฐบาลทหาร มาสถิตย์ ณ ที่แห่งนี้ด้วย ศาลเจ้านิกโก้โทโชกุ ได้รับการรับรองเป็น มรดกโลก จากองกรณ์ยูเนสโก้ บริเวณทางเข้ามีแผ่นหินจารึกตัวอักษรว่า โทโชกุและโทริอิ หินขนาดใหญ่มหึมาตั้งอยู่ เป็นจุดรับพลังที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 400 ปี ภายในศาลเจ้ามีประติมากรรมสวยงามจำนวนมาก ทั้ง เจดีย์ห้าชั้น สีสันสวยงาม มีความสูงถึง 36 เมตร ที่ใต้หลังคาชั้นแรกจะมีประติมากรรมสิบสองราศี หรือจะเป็น ประติมากรรมลิงสามตัว ที่แสดงความหมายว่าไม่ดู ไม่พูด ไม่ฟังสิ่งที่ไม่ดี นอกจากนี้ยังประติมากรรม แมวนอน ที่ถูกกำหนดให้เป็นสมบัติแห่งชาติของญี่ปุ่น อยู่ที่ประตูซากาชิตะมง ซึ่งแมวนอนนั้นสื่อถึง สันติภาพ นั่นเอง
จากนั้นนำท่านสู่ เทศกาลคามาคุระ ณ เมืองยุนิชิงาวะ (Yunishigawa Kamakura Festival) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.10 ชั่วโมง) เข้าชม กระท่อมหิมะ หรือ บ้านหิมะ สำหรับภาษาญี่ปุ่นเรียกกันว่า คามาคุระ ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้กลายเป็นสถานที่ถ่ายรูป โดยที่เมืองนี้จะพิเศษกว่าตรงที่อื่นๆ คือ นอกเหนือจากได้ชมกระทิ่ชอมหิมะแล้วนั้น ยังถือเป็นเป็นประเพณีฤดูหนาวของชาวยุนิชิงาวะ ที่มีระยะเวลาการจัดงานตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมกราคมถึงต้นเดือนมีนาคมของทุกปี (ปีนี้จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม - 03 มีนาคม 2019) โดยจะมีเหล่าตุ๊กตาหิมะที่ถูกทำขึ้นจากไอเดียและฝีมือตั้งแต่ของเด็กไปจนถึงผู้สูงอายุมาทำการต้อนรับนักท่องเที่ยว โดยในระหว่างวันสามารถเพลิดเพลินไปกับรถเลื่อน ส่วนในตอนกลางคืนจะมีการจุดเทียนมินิคามากุระเรียงรายตามพื้นที่ริมน้ำ ซึ่งแสงไฟที่สว่างทั่ววิวทิวทัศน์ที่ปกคลุมด้วยหิมะทำให้เกิดการแพร่ขยายของภาพทิวทัศน์ราวกับอยู่ในความฝันเลยทีเดียว
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองฟุคุชิมะ (Fukushima) เมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่ภูมิภาคโทโฮคุ แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติอันสวยงามมากมาย ไม่ว่าจะเป็นภูเขา ทะเลสาบ สถานที่ชมซากุระ และใบไม้เปลี่ยนสี
ค่ำ อิสระรับประทานอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก MUKAITAKI RYOKAN FUKUSHIMA หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน จากนั้นให้ท่านได้ผ่อนคลายกับการ แช่น้ำแร่ออนเซ็นธรรมชาติ เชื่อว่าถ้าได้แช่น้ำแร่แล้ว จะทำให้ผิวพรรณสวยงามและช่วยให้ระบบหมุนเวียนโลหิตดีขึ้น
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (2)
นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอกซาโอะ (Zao Kitsune mura หรือ Zao Kitsune mura) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.10 ชม.) มีอาณาบริเวณถึง 18,000 ตารางฟุต รวบรวมเอาสุนักจิ้งจอกหลายหลายสายพันธ์ หลากสี ที่ญี่ปุ่นนั้นเชื่อว่าจิ้งจอกเป็นผู้ส่งสารของ Inari Okami เทพเจ้าชินโตด้านความอุดมสมบูรณ์ ที่นี่แบ่งออกเป็นสองโซน คือโซนสัตว์ที่อยู่ในกรง มีทั้ง แพะ แกะ กระต่าย ม้า สุนัขจิ้งจอก ซึ่งสามารถให้อาหารได้ กับโซนเปิดที่มีจิ้งจอกเดินไปมา อิสระให้ท่านชมความน่ารัก ขนฟูตัวนุ่มของสุนัขจิ้งจอกตามอัธยาศัย
ข้อควรระวัง! เนื่องจากสุนัขจิ้งจอกถึงจะเป็นแบบเลี้ยง แต่บางตัวยังมีสัญชาติญาณเดิมอยู่ ดังนั้น ควรปฏิบัติตามคู่มือการท่องเที่ยวที่ทางเจ้าหน้าที่ของหมู่บ้านแจกให้อย่างเคร่งครัด และหากต้องการถ่ายรูปหรือสัมผัสตัวสุนัขจิ้งจอกจะต้องแจ้งเจ้าหน้าที่หรืออยู่ในสายตาเจ้าหน้าที่ทุกครั้ง ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของตัวนักท่องเที่ยวเอง
นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์โคเคชิ (Kokeshi Museum) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงตุ๊กตาโคชิ จากจังหวัดต่างๆ ทั่วภูมิภาคโทโฮคุ ซึ่งแต่ละตัวจะมีรูปทรงและการออกแบบที่แตกต่างกัน โดยมีตำนานอยู่ว่า คู่สามีภรรยาคู่หนึ่งสูญเสียลูกสาวไป จึงสร้างตุ๊กตาโคเคชิขึ้นมาเพื่อเป็นตัวแทนของลูกสาวของตัวเอง ดังนั้น ญี่ปุ่นเชื่อว่าจึงเป็นเครื่องราง ช่วยปกป้องบ้านจากไฟไหม้ ใช้ขับไล่ภูตผี และช่วยบันดาลให้พืชผลอุดมสมบูรณ์ ภายในพิพิธภัณฑ์ ตุ๊กตาโคเคชิ มีเอกลักษณ์ที่บ่งบอกถึงประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันนิยมซื้อไปเป็นของฝาก หรือเก็บเป็นของที่ระลึก ท่านสามารถเลือกซื้อหาหรือจะทดลองวาดตุ๊กตาเองได้ตามอัธยาศัย (การวาดตุ๊กตามีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ไม่รวมอยู่ในราคาทัวร์)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (3)
เดินทางสู่ เมืองเซนได (Sendai) เป็นเมืองหลวงของ จังหวัดมิยางิ และยังเป็นเมืองที่มีความเจริญและมีขนาดใหญ่ที่สุดของภูมิภาคโทโฮคุ ได้รับฉายาว่า เมืองแห่งต้นไม้ เพราะมีสวนสาธารณะหลายแห่งทั่วเมืองที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น เซนไดมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญหลากหลายทั้งปราสาท วัดวาอาราม ห้างสรรพสินค้า แหล่งช้อปปิ้ง และร้านค้าร้านอาหารต่างๆ อีกมากมาย
จากนั้นนำท่าน อิสระช้อปปิ้ง ดิวตี้ฟรี (Duty Free) ให้ท่านเลือกซื้อสินค้าปลอดภาษี ทั้ง เสื้อผ้า น้ำหอม ต่างๆ ตามอัธยาศัย
เดินทางสู่ ท่าเรือชิโกมะ (Shiogama) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.) เพื่อล่องเรือเฟอรรี่เพื่อชม อ่าวมัตซึชิมะ (Matsushima Bay) ที่ติดอันดับ 1 ใน 3 วิวที่สวยงามที่สุดของประเทศญี่ปุ่น (Nihon Sankei) เป็นอ่าวที่เต็มไปด้วยเกาะหินเล็กๆกระจายตัวกันมากกว่า 200 เกาะและบนเกาะเล็กๆนี้ยังมีต้นสนญี่ปุ่นขึ้นอยู่ด้วยทำให้เกิดภาพที่แปลกตา ใช้เวลาล่องเรือประมาณ 30 นาที
จากนั้น วัดโกไดโดะ (Godaido Temple) เป็นพระอุโบสถขนาดเล็กบนเกาะติดกับท่าเรือมัตสึชิมะ เนื่องจาก ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่น ทำให้วัดแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองมัตสึชิมะ ถูกสร้างขึ้นในปี 807 เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูป 5 องค์ ซึ่งก่อตั้งโดยพระสงฆ์ที่ก่อตั้งวัดซูอิกันจิ โดยรูปปั้นจะถูกนำมาให้ประชาชนได้ชมกันทุกๆ 33 ปี
เดินทางสู่ วัดซูอิกันจิ (Zuiganji Temple) เป็นวัดเซนที่มีชื่อเสียงที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุ ภายในอาคารมีการลงรักปิดทองและเพ้นท์สีประตูบานเลื่อนไว้อย่างสวยงาม ก่อตั้งครั้งแรกในปี 828 เดิมเป็นวัดนิกายเทนได และได้ถูกดัดแปลงให้เป็นวัดเซนในช่วงสมัยคามาคูระ วัดแห่งนี้ได้สะท้อนความสวยงามตามธรรมชาติของเมืองมัตสึชิมะได้เป็นอย่างดี โดยบริเวณทางเข้าห้องโถงใหญ่สองข้างทางจะเรียงรายด้วยไม้สนซีดาร์ และถ้ำต่างๆที่ อดีตเคยเป็นสถานที่ทำสมาธิ ปัจจุบันเต็มไปด้วยรูปปั้นต่างๆ ไม่ไกลกันนัก
นำท่านเข้าชม วัดเอนสึอิน (Entsuin Temple) วัดแห่งนี้รู้จักคุ้นเคยกันในชื่อ วัดแห่งกุหลาบ มีการวาดรูปดอกกุหลาบตะวันตกที่ว่ากันว่าเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นเอาไว้ด้านในบานประตูขวาของตู้ประดิษฐานพระพุทธรูป วัดสร้างขึ้นในปี 1646 เพื่อไว้ทุกข์และบูชาเทพ Mitsumune เทพแห่งความเมตตาที่เสียชีวิตเมื่ออายุเพียง 19 ปี ทางเข้าวัดมีสวนมอสและหินตั้งอยู่ และด้านหลังวัดเป็นป่าไม้สนซีดาร์สำหรับนั่งทำสมาธิ บริเวณพื้นที่วัดเป็นที่ตั้งของหลุมฝังศพ และรูปปั้นของขุนนางดาเตะหนุ่มขี่ม้าขาวล้อมรอบด้วยองค์รักษ์ผู้ภักดีที่ปลิดชีพตายตามไป
เดินทาง กลับสู่เมืองเซนได จากนั้นนำท่านชม ซากปราสาทเซนได หรือ ปราสาทอาโอบะ (Aoba Castle) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) สร้างขึ้นในปี 1600 โดยขุนนางนามว่า ดาเตะ มาซามูเนะ สร้างขึ้นสำหรับป้องกันเมือง ปราสาทแห่งนี้ล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำ ภูเขาและป่าซึ่งยังคงอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติ แม้ปัจจุบันเหลือเพียงเศษซาก แต่กำแพงหินและประตูนั้นได้รับการบูรณะขึ้นใหม่อีกครั้ง จากทำเลที่ตั้งของบริเวณปราสาท ท่านสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่งดงามของเมืองเซนไดได้
จากนั้นอิสระช้อปปิ้ง ถนนคลิสโรด (Clis Road) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที) ถนนสายช็อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดของเมือง มีสินค้าให้เลือกหลากหลายตั้งแต่อาหารท้องถิ่นหรือฟาสต์ฟู้ด ร้านคาเฟ่เก๋ๆ ศูนย์เกมส์ ไปจนถึงแบรนด์เนมระดับไฮเอนด์ อิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
ค่ำ อิสระรับประทานอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก HOTEL ROUTE INN SENDAI HIGASHI หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (4)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองยูโนะคามิ ออนเซน (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) เป็นเมืองตากอากาศออนเซนเล็กๆ ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดฟูกุชิมะ ที่เดินทางได้ค่อนข้างสะดวกเพราะอยู่ติดกับ สถานีรถไฟยูโนคามิ ออนเซ็น Yunokami Onsen Station โดยเป็นสถานีรถไฟเพียงแห่งเดียวของญี่ปุ่นที่มีอาคารสถานีทำจากหลังคาแบบญี่ปุ่นโบราณ !!!ไฮไลท์ อิสระให้ท่านเพลิดเพลินกับการแช่เท้าผ่อนคลายตามอัธยาศัย ณ จุดออนเซนเท้าที่สถานีแห่งนี้
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านโออุจิ จูคุ (Ouchi Juku) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที) บ้านโบราณที่อดีตเคยเป็นเมืองสำคัญในยุคเอโดะถูกสร้างเมื่อหลายร้อยปีก่อน เป็นบ้านชาวนาญี่ปุ่นโบราณที่มุงหลังคาทรงหญ้าคาหนาๆ เรียงรายกันสองฝั่งกินระยะทางประมาณ 500 เมตร โดยรวมมีบ้านโบราณประมาณ 40 - 50 หลัง ในอดีตสมัยเอโดะ การคมนาคมยังไม่สะดวกสบาย หมู่บ้านแห่งนี้เป็นเสมือนแหล่งที่พัก ตั้งขนาบข้างถนนหลักที่มีชื่อว่าถนนชิโมสึเคะ ถนนเส้นนี้เคยเป็นเส้นทางหลักในการคมนาคมและการค้า เมื่อ พ.ศ.2524 หมู่บ้านโออุจิจูคุได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์สิ่งปลูกสร้างอันทรงคุณค่าของชาติ ซึ่งในปัจจุบันหมู่บ้านโบราณหลายหลังในโออุจิ จูคุได้รับการบูรณะใหม่ จนกลายเป็นร้านขายของที่ระลึก ร้านค้าขายสินค้าพื้นเมือง ร้านอาหารและที่พักแบบญี่ปุ่นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ปัจจุบันมีนักท่องมาเยี่ยมชมหมู่บ้านนี้กว่า 1.2 ล้านคนต่อปี
เที่ยง อิสระรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
เดินทางสู่ โทโนะเฮทสึริ (Tonohetsuri) หรือ หน้าผาล้านปี (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที)เป็นความสวยงามที่ธรรมชาติสร้างขึ้น โดยหน้าผาริมแม่น้ำโอคาวะนี้ ถูกกัดเซาะโดยน้ำที่ไหลผ่าน กว่าจะสึกกร่อนเป็นเวลานานเป็นล้านปี จนกลายมาเป็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ชื่อ โทโนะเฮทสึริ เป็นภาษาถิ่นของไอสึ แปลว่า หน้าผา และด้วยรูปร่างหน้าตาของหน้าผาชันๆ ที่ดูคล้ายกับเจดีย์ จึงเป็นที่มาของชื่อโทโนะเฮทสึริ หรือ หน้าผารูปเจดีย์ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองไอสุ (Aizu) เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมซามูไร ไม่ว่าจะเป็นปราสาทหรือตัวเมืองที่ยังคงสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของยุคสมัยโบราณ นอกจากนี้ไอสุยังมีมนต์เสน่ห์เรื่องของออนเซ็น อีกด้วย
นำท่านถ่ายรูปหน้า ปราสาทสึรุงะ (Tsuruga Castle) หรือ ปราสาทนกกระเรียน (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที) เป็นเพียงแห่งเดียวที่ยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมของญี่ปุ่นไว้ ปราสาทหลังคาสีเเดงอันเป็นสัญลักษณ์แห่งเมืองไอสุวาคามัทซึ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟไอสุวาคามัทซึ เดิมมีชื่อว่า ปราสาทคุโระคะวะ Kurokawa Castle สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1384 โดยตระกูลอะชินะ แต่เกิดแผ่นดินไหวในปี ค.ศ. 1611 ทำให้ปราสาทเสียหายหนักและได้มีการบูรณะและปรับจากปราสาท 7 ชั้น เหลือเพียง 5 ชั้นเท่านั้น HILIGHT!!! ปราสาทแห่งนี้ ถือเป็นอนุสรณ์สถานที่ยังทิ้งร่องรอยของเหล่านักรบซามูไรกลุ่มสุดท้ายในญี่ปุ่น ที่ได้เลือกปลิดชีพตัวเองลง ณ สถานที่นี้ **ราคานี้ไม่รวมค่าเข้าปราสาท หากลูกค้าสนใจเข้าชมด้านใน มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมท่านละ 410 เยน**
นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบอินะวะชิโระ (Inawashiro Lake) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เป็นทะเลสาบใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศญี่ปุ่น เกิดขึ้นจากการระเบิดของภูเขาไฟ มีแร่ธาตุกรดเจือปนอยู่ จึงไม่มีสิ่งชิวิตใดๆ อาศัยอยู่ใต้น้ำได้ น้ำในทะเลสาบแห่งนี้จึงมีความใสจนได้รับฉายาว่า ทะเลสาบแห่งกระจกสวรรค์ หรือ เทนเคียวโค (Tenkyoko) ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน จะมีบรรดาฝูงหงส์อพยพมาอาศัยกันอยูมากมาย
ค่ำ อิสระรับประทานอาหารค่ำตามอัธยาศัย
พัก MUKAITAKI RYOKAN FUKUSHIMA หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน จากนั้นให้ท่านได้ผ่อนคลายกับการ แช่น้ำแร่ออนเซ็นธรรมชาติ เชื่อว่าถ้าได้แช่น้ำแร่แล้ว จะทำให้ผิวพรรณสวยงามและช่วยให้ระบบหมุนเวียนโลหิตดีขึ้น
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (5)
หลังอาหารนำท่านออกเดินทางสู่สนามบิน ฟุคุชิมะ
11.45 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน แอร์เอเชีย เอ็กซ์ เที่ยวบินที่ XJ825
16.55 น. เดินทางถึง สนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ **ราคาไม่รวมค่าอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง**