ทัวร์พม่า พาไว้พรทำบุญ ขอพร 2 วัน 1 คืน สายการบินไทยไลอ้อนแอร์

04.30 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินดอนเมือง อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 3 ประตู 7 สายการบิน THAI LION AIR ซึ่งมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกเรื่องสัมภาระและเอกสารการเดินทาง
07.35 น. ออกเดินทางสู่ เมืองย่างกุ้ง โดยเที่ยวบินที่ SL200 สายการบิน THAI LION AIR (SL)
08.25 น. ถึง สนามบินมิงกลาดง เมืองย่างกุ้ง ผ่านการตรวจคนเข้าเมืองและด่านศุลกากร (เวลาท้องถิ่นที่เมียนม่าร์ ช้ากว่าประเทศไทยครึ่งชั่วโมง)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เจดีย์กาบาเอ (Kaba Aye Pagoda) เจดีย์ทรงกลมที่มีความสูงและเส้นผ่าศูนย์กลางเท่ากัน (34 เมตร) สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2493-2495 ในสมัยนายกฯ อูนุ (นายกรัฐมนตรีคนแรกของเมียนมา) เพื่อใช้เป็นสถานที่ในการชำระพระไตรปิฏกครั้งที่ 6 ในช่วงปีพ.ศ.2497-2499 ปัจจุบันเป็นที่ประดิษฐานพระธาตุของพระพุทธเจ้า พระธาตุของพระโมคคัลลา (พระอัครสาวกเบื้องซ้าย) และ พระสารีบุตร (พระอัครสาวกเบื้องขวา) โดยนำพระธาตุมาจากประเทศอินเดีย อยู่ในห้องจำลองเหมือนถ้ำสัตตบรรณคูหาเมืองราชคฤห์ ประเทศอินเดีย ท่านใดได้กราบไหว้พระธาตุทั้งสาม ทั้งชีวิตท่านนั้นจะหมดเคราะห์ ตัดกรรม และมีโชคดี นอกจากนั้นภายในเจดีย์ยังมีพระมหามุนีจำลองอีกด้วย
จากนั้นนำท่านนมัสการ พระพุทธรูปงาทัตจี ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่สวยงามตามแบบฉบับศิลปะของพม่า มีความสูงประมาณ ตึก 5 ชั้น เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่แกะสลักจากหินอ่อน ทรงเครื่องแบบกษัตริย์ เครื่องทรงเป็นโลหะ ส่วนเครื่องประกอบด้านหลังจะเป็นไม้สักแกะสลักทั้งหมด และสลักป็นลวดลายต่างๆ จำลองแบบมาจากพระพุทธรูปทรงเครื่องสมัยยะตะนะโบง (สมัยมัณฑเลย์) ซึ่งมีความงดงามเป็นอย่างมาก
นำท่านสักการะ พระพุทธไสยาสน์เจ๊าทัตจี หรือ พระนอนตาหวาน ซึ่งเป็นพระพุทธไสยาสน์องค์ขนาดใหญ่ที่มีความสูงถึง 6 ชั้น ยาวกว่า 70 เมตร ใช้โครงเหล็กกั้นถึง 65 เมตร มีหลังคาคลุม 6 ชั้น สร้างขึ้นเมื่อปี 1907 ถูกยกย่องให้เป็นพระนอนที่มีขนาดใหญ่และงดงามที่สุดในพม่า ด้วยพระพักตร์ที่งดงามเปื้อนยิ้ม ดวงตาทำจากลูกแก้วที่สั่งผลิตจากต่างประเทศ ทาขอบตาด้วยสีฟ้าและมีขนตาหนายาวทำให้ดวงตาดูหวาน จนถูกเรียกพระนามอีกชื่อคือ “ พระตาหวาน ” บริเวณพระบาทมีภาพวาดลายธรรมจักร ตรงกลางฝ่าพระบาทล้อมรอบด้วยรูปมงคล 108 ประการ ที่แสดงถึงอากาศโลก สัตว์โลก และสังขารโลก อีกทั้งจีวรยังมีลักษณะพริ้วไหวสมจริงและตรงชายประดับด้วยอัญมณีแวววาว ถือเป็นพุทธศิลป์ที่มีความงดงามทรงคุณค่า
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
เจดีย์ซูเล (Sule Pagoda) ตามตำนานถูกสร้างขึ้นก่อนที่พระเจดีย์ชเวดากองประมาณ 2,500 ปีมาแล้ว เป็นเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม ที่มีความสูงประมาณ 46 เมตร ตั้งอยู่ใจกลางกรุงย่างกุ้ง เพื่ออุทิศให้กับซูเล่นัต ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ผีนัตจำนวน 37 ตน ที่เกี่ยวข้องกับตำนานของพระมหาเจดีย์ชเวดากอง ที่ประชาชนชาวพม่านับถือและให้ความเคารพบูชา ภายในองค์เจดีย์บรรจุเส้นพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าเอาไว้ และที่เจดีย์แห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานองค์เทพทันใจองค์โตที่สุดเปรียบเสมือนหัวหน้าเทพทันใจทั้งหมดในพม่า ซึ่งชาวพม่านับถือมากที่สุด และเชื่อกันว่าเมื่อขอพรกับท่าน ท่านจะประทานพรให้รวดเร็วทันใจ
นำท่านกราบนมัสการ เจดีย์โบตาทาวน์ ซึ่งบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าที่พระสงฆ์อินเดีย 8 รูป ได้นำมาเมื่อ 2,000 ปีก่อน ในปี 2486 เจดีย์แห่งนี้ถูกระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตรเข้ากลางองค์จึงพบโกศทองคำบรรจุพระเกศาธาตุและพระบรมธาตุอีก 2 องค์ และพบพระพุทธรูปทอง เงิน สำริด 700 องค์ และจารึกดินเผาภาษาบาลี และตัวหนังสือพราหมณ์อินเดียทางใต้ ต้นแบบภาษาพม่า ภายในเจดีย์ที่ประดับด้วยกระเบื้องสีสันงดงาม และมีมุมสำหรับฝึกสมาธิหลายจุดในองค์พระเจดีย์
นำท่านขอพร เทพทันใจ หรือ นัตโบโบยี เทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ของชาวพม่าและชาวไทย นัตโบโบยี ก็คือ "นัต" หรือวิญญาณเทพผู้คุ้มครองสถานที่ตามความเชื่อของชาวพม่า โดยเทพที่จะถูกจัดว่าเป็น "นัต" นั้น มักจะเป็นคนที่เคยสร้างความดี หรือมีวีรกรรมน่าประทับใจ และมาตายลงด้วยเหตุร้ายแรงที่เรียกว่า ตายโหง ทำให้วิญญาณยังมีความห่วงใยในภาระหน้าที่บ้านเมือง และยังคงผูกพันกับผู้คนเบื้องหลัง ทำให้ไม่อาจไปเกิดใหม่ได้ จึงกลายเป็นนัตที่มาคอยคุ้มครองรักษาบ้านเมือง หรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เช่น พระเจดีย์องค์สำคัญ
วิธีการสักการะรูปปั้นเทพทันใจ (นัตโบโบยี) เพื่อขอสิ่งใดแล้วสมตามความปราถนาก็ให้เอาดอกไม้ ผลไม้ โดยเฉพาะมะพร้าวอ่อน กล้วย จากนั้นก็ให้เอาเงินจะเป็นดอลล่า บาท หรือจ๊าด ก็ได้ แล้วเอาไปใส่มือของนัตโบโบยี 2 ใบ ไหว้ขอพรแล้วดึกกลับมา 1 ใบ เอามาเก็บรักษาไว้ จากนั้นก็เอาหน้าผากไปแตะกับนิ้วชี้ของนัตโบโบยี แค่นี้ท่านก็จะสมตามความปรารถนาที่ตั้งใจไว้
คำบูชาเทพทันใจ เอหิ สักกะ มหานัทโป๊ะโป๊ะจีโปตะถ่องสิทธิมัตถุ อิทังพะลัง เอตัสสะมิงรัตตะนัง พุทธัง ธัมมัง สังฆัง เทวานัง ประสิทธิลาโภ ชยโยนิจจัง วันทามิสัพพะทา สวาโหม
นำท่านข้ามฝั่งถนน สักการะ เทพกระซิบ ซึ่งมีนามว่า “อะมาดอว์เมี๊ยะ” ตามตำนานกล่าวว่า นางเป็นธิดาของพญานาค ที่เกิดศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า รักษาศีล ไม่ยอมกินเนื้อสัตว์จนเมื่อสิ้นชีวิตไปกลายเป็นนัต ซึ่งชาวพม่าเคารพกราบไหว้กันมานานแล้ว การขอพรเทพกระซิบต้องเข้าไปกระซิบเบาๆ ห้ามคนอื่นได้ยิน การบูชาเทพกระซิบ บูชาด้วยน้ำนม ข้าวตอก ดอกไม้ และผลไม้ จากนั้นนำทุกท่านเดินทางกลับเมืองย่างกุ้ง
นำท่านนมัสการ พระมหาเจดีย์ชเวดากอง เจดีย์ทองแห่งเมืองดากอง หรือ ตะเกิง (ชื่อเดิมของเมืองย่างกุ้ง) แห่งลุ่มน้ำอิระวดี เจดีย์ทองคำคู่บ้านคู่เมืองประเทศพม่าอายุกว่าสองพันห้าร้อยกว่าปี มหาเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศพม่า มีความสูงถึง 326 ฟุต สร้างโดยพระเจ้าโอกะลาปะ เมื่อกว่า 2,000 ปีก่อน มหาเจดีย์ชเวดากองมีทองคำโอบหุ้มอยู่เป็นน้ำหนักถึง 1100 กิโลกรัม ยอดฉัตรประดับประดาด้วยเพชรพลอยอัญมณีล้ำค่า กว่า 5,548 เม็ด รวมถึงทับทิม ขนาดเท่าไข่ไก่บนยอดองค์พระเจดีย์ชเวดากองเป็นลานกว้างรองรับแรงศรัทธาของพุทธศาสนิกชนได้จำนวนมาก บริเวณทางขึ้นทั้งสี่ทิศจะมีวิหารโถงสร้างด้วยเครื่องไม้หลังคาทรงปราสาทปิดทองล่องชาดประดับกระจกทั้งหลัง ภายในประดิษฐานพระประธานสำหรับให้ประชาชนมากราบไหว้บูชา เพราะชาวมอญและชาวพม่าถือการกราบไหว้บูชาเจดีย์ชเวดากองเป็นนิตย์ จะนำมาซึ่งบุญกุศลอันเป็นหนทางสู่การหลุดพ้นทุกข์โศกโรคภัยทั้งมวล บ้างนั่งทำสมาธิเจริญสติภาวนานับลูกประคำ และบ้างเดินประทักษัณรอบองค์เจดีย์ จากนั้นให้ท่านชมแสงของอัญมณีที่ประดับบนยอดฉัตรโดยจุดชมแต่ละจุดท่านจะได้เห็นแสงสีต่างกันออกไป เช่น สีเหลือง, สีน้ำเงิน, สีส้ม, สีแดง เป็นต้น
(สถานที่สำคัญของพระมหาเจดีย์ชเวดากอง คือ ลานอธิฐาน จุดที่บุเรงนองมาขอพรก่อนออกรบ ท่านสามารถนำดอกไม้ธูปเทียน ไปไหว้ เพื่อขอพรจากองค์เจดีย์ชเวดากอง ณ ลานอธิษฐานเพื่อเสริมสร้างบารมีและสิริมงคล นอกจากนี้รอบองค์เจดีย์ยังมีพระประจำวันเกิดประดิษฐานทั้งแปดทิศรวม 8 องค์ หากใครเกิดวันไหนก็ให้ไปสรงน้ำพระประจำวันเกิดตน จะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต)
ค่ำ รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร เมนูพิเศษ!! เป็ดปักกิ่ง+สลัดกุ้งมังกร
นำท่านเข้าพักที่ IBIS HOTEL ระดับ 3 ดาว
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองสิเรียม อยู่ห่างจากกรุงย่างกุ้งประมาณ 45 กิโลเมตร โดยรถปรับอากาศใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม. นำชมความแปลกตาของเมืองที่ซึ่งเคยเป็นเมืองท่าของโปรตุเกสในสมัยโบราณ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำย่างกุ้งที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำอิระวดี
จากนั้นชมความสวยงามของ เจดีย์กลางน้ำ หรือ พระเจดีย์เยเลพญา เจดีย์จะตั้งตระหง่านอยู่บนเกาะกลางน้ำเป็นที่สักการะของชาวสิเรียม สร้างโดยเศรษฐีชาวมอญ ในยุคที่อาณาจักรมอญรุ่งเรืองเมื่อประมาณพันกว่าปีมาแล้ว เชื่อกันว่าตอนที่สร้างเจดีย์เศรษฐีชาวมอญได้ทำการอธิษฐานขอให้น้ำอย่าท่วมถึงองค์เจดีย์ ถ้ามีคนมากราบไหว้จำนวนมากเท่าไรก็ขอให้ไม่มีวันเต็มพื้นที่ และผู้ใดมาทำบุญบูรณะต่อเติมองค์เจดีย์ ขอให้ทำการค้าเจริญก้าวหน้าทุกคน ซึ่งทำให้ผู้คนเกิดความเชื่อว่าการมาทำบุญกราบไหว้ ณ เจดีย์แห่งนี้ จะทำให้การค้าการขายเจริญรุ่งเรือง ให้ท่านได้นมัสการพระพุทธรูปเก่าแก่ทรงเครื่องจักรพรรดิประดิษฐานบนบัลลังก์ไม้แกะสลักปิดทองคำทองเปลวที่มีความงดงาม และนมัสการพระอุปคุต ที่ชาวพม่ามีความเชื่อว่าจะบันดาลให้มีกินมีใช้ไม่ขาด และมีโชคลาภ สมควรแก่เวลากลับกรุงย่างกุ้ง
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร เมนูพิเศษ !! บุฟเฟ่ต์ชาบู
จากนั้นให้ท่านอิสระช้อปปิ้ง ณ ตลาดสก๊อต เป็นตลาดเก่าแก่ของชาวพม่า สร้างขึ้นโดยชาวสก๊อตในสมัยที่ยังเป็นอาณานิคมของอังกฤษ เป็นลักษณะอาคารเรียงต่อกันหลายหลัง สินค้าที่จำหน่ายในตลาดแห่งนี้มีหลากหลายชนิด เช่น เครื่องเงิน ที่มีศิลปะผสมระหว่างมอญกับพม่าภาพวาด งานแกะสลักจากไม้ อัญมณี หยก ผ้าทอ เสื้อผ้าสำเร็จรูป แป้งทานาคา เป็นต้น
(หากซื้อสิ้นค้าหรืออัญมณีที่มีราคาสูงควรขอใบเสร็จรับเงินด้วย ทุกครั้ง เนื่องจากจะต้องแสดงให้ศุลกากรตรวจ หมายเหตุ:ตลาดสก๊อต (Scot Market) ปิดทุกวันจันทร์
นำท่านเดินทางไปยัง วัดเอ็งดอยา วัดแห่งนี้ทีชื่อเสียงอย่างมาก ในการขอพร เกี่ยวกับเรื่องอสังหาริมทรัพย์ เช่น ใครที่ต้องการ ซื้อ-ขาย บ้าน, ที่ดิน หรือลงทุนทำธุรกิจ ก็มักจะเดินทางมาขอพรที่วัดแห่งนี้เป็นจำนวนมาก ด้านประตูทางเข้าของวัดจะติดป้ายไว้ สำหรับคนที่เคยมาขอแล้วได้จริง
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดบารมี เพื่อไปกราบสักการะพระเกศาของพระพุทธเจ้า ที่เชื่อว่ายังมีชีวิตอยู่จริง ด้วยองค์พระเกศาธาตุนั้นเมื่อนำมาวางบนจานแก้วจะสามารถเคลื่อนไหวได้ อีกทั้งวัดนี้ยังได้ถือว่าเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันต์ธาตุไว้มากที่สุดด้วย อาทิเช่น พระโมคาลา พระสารีบุตร ฯ
20.45 น. เดินทางกลับ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ SL207 สายการบิน THAI LION AIR (SL)
22.45 น. ถึง สนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ และประทับใจในบริการ