15.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ ขาออก ชั้น 4 สายการบิน China Airlines โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน

18.20 น. นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติเกาสง สนามบินหลักของภาคใต้ไต้หวัน ตั้งอยู่ในเมืองเกาสง โดยสายการบิน China Airlines เที่ยวบินที่ CI840

22.50 น. ถึง สนามบินนานาชาติเกาสง หลังจากนั้นนำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง รับสัมภาระเรียบร้อย

(เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง)

หมายเหตุ : เนื่องจากตั๋วเครื่องบินของคณะเป็นตั๋วกรุ๊ประบบ Random ไม่สามารถล็อกที่นั่งได้ ที่นั่งอาจจะไม่ได้นั่งติดกันและไม่สามารถเลือกช่วงที่นั่งบนเครื่องบินได้ในคณะ ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขสายการบิน

เกาสง ได้รับการขนานนามว่าเป็นศูนย์กลางทางอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวัน

ที่พัก Jing Shang International Hotel, Kaohsiung หรือเทียบเท่าระดับ 3 ดาว ตามมาตรฐานไต้หวัน

(โรงแรมที่ระบุในรายการเป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลง แต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน)

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 1)

นำท่านถ่ายรูปด้านนอก เจดีย์มังกรและเสือ (Dragon and Tiger Pagodas) แลนด์มาร์กชื่อดังแห่งเมืองเกาสง ที่ตั้งตระหง่านริมทะเลสาบบ่อน้ำสวรรค์ (Lotus Pond) ด้วยความงดงามของเจดีย์สูง 7 ชั้นที่ตั้งเคียงกันอย่างสง่างาม และการออกแบบที่เปี่ยมไปด้วยสัญลักษณ์แห่งโชคลาภ ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดเช็กอินยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวทุกสายไม่ควรพลาด ไม่ว่าจะเป็น สายบุญ ที่มาขอพรเสริมสิริมงคล, สายถ่ายรูป ที่ชื่นชอบมุมเก๋ ๆ และสถาปัตยกรรมจีนสุดอลังการ หรือ สายมูเตลู ที่เชื่อในพลังศักดิ์สิทธิ์และโชคชะตา

เจดีย์แห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของ วัดฉือจี้ (Ciji Temple) โดยมีจุดเด่นคือ “ทางเข้าปากมังกร” และ “ทางออกปากเสือ” ตามความเชื่อแบบจีนว่า เดินเข้าทางมังกร รับโชคดี เดินออกทางเสือ ปล่อยเคราะห์ร้าย เปรียบเสมือนการเปลี่ยนผ่านจากสิ่งไม่ดีไปสู่พลังชีวิตใหม่ที่สดใสและมั่งมี ท่านจะได้สัมผัสเสน่ห์แห่งความเชื่อและความงามที่ผสมผสานกันอย่างกลมกลืน ณ เจดีย์มังกรและเสือ สถานที่ที่จะทำให้ทุกคนอิ่มเอมทั้งสายตาและจิตใจ พร้อมเก็บเกี่ยวความทรงจำอันแสนพิเศษกลับไป

นำท่านเดินทางสู่ วัดจั่วอิ๋งหยวนตี้ (Zuoying Yuandi Temple) ให้ท่านได้สักการะ “เทพเจ้าเสวียนอู่” เทพแห่งโชคลาภและความสำเร็จ ณ วัดจั่วอิ๋งหยวนตี้ ไฮไลท์อยู่ที่สะพานยาวกว่า 120 เมตร เชื่อมสู่รูปปั้นองค์เทพเสวียนอู่องค์ใหญ่กลางน้ำ สูงตระหง่านถึง 72 เมตร ระหว่างทางท่านจะได้ชมประติมากรรมและสัญลักษณ์มงคลแบบจีนโบราณสุดตระการตา สถานที่แห่งนี้ถือเป็นหนึ่งในจุดขอพรยอดนิยมของคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว ทั้งยังเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเก็บภาพสวยๆ ท่ามกลางบรรยากาศวัดริมทะเลสาบที่งดงามเกินบรรยาย

นำท่านเดินทางสู่ วัดฝอกวงซาน (Fo Guang Shan) เป็นวัดนิกายมหายานสายรินไซเซ็นที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน ตั้งอยู่บริเวณชานเมืองเกาสง ไฮไลท์สำคัญของที่นี่คือ พระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ขนาดยักษ์ สูงกว่า 108 เมตร ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความเมตตาและปัญญา ประกอบกับเจดีย์ขนาดใหญ่จำนวน 8 อาคาร ที่ตั้งเรียงรายอย่างสง่างามสองฝั่งทางเดินภายในพุทธอุทยาน พื้นที่ภายในวัดถูกแบ่งออกเป็นหลายโซน โดยมีพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับศาสนาพุทธที่ใหญ่และครบครันที่สุดแห่งหนึ่งในไต้หวัน นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุสำคัญ ได้แก่ ส่วนพระเขี้ยวหรือฟันของพระพุทธเจ้าอีกด้วย นอกจากเจดีย์และวิหารขนาดใหญ่แล้ว ยังมีอาคารอื่น ๆ ที่ออกแบบอย่างวิจิตรตระการตา เป็นแหล่งรวมความสงบ ศรัทธา และศิลปวัฒนธรรมให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสประสบการณ์พุทธศาสนาอย่างลึกซึ้งและประทับใจ

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางสู่ โดมแห่งแสง (Dome of Light) อีกหนึ่งจุดไฮไลต์สุดล้ำของเมืองเกาสง ตั้งอยู่ภายในสถานีรถไฟฟ้า Formosa Boulevard Station เมื่อท่านเดินเข้าสู่บริเวณสถานีจะพบกับโดมกระจกสีขนาดยักษ์ ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจตั้งแต่แรกเห็น โดมนี้ประกอบขึ้นจากแผ่นกระจกสีมากกว่า 660 แผ่น ครอบคลุมพื้นที่เส้นผ่านศูนย์กลางกว่า 30 เมตร ถ่ายทอดเรื่องราวอันลึกซึ้งของจักรวาล ชีวิต และแสงแห่งความหวัง ผลงานชิ้นเอกนี้สร้างสรรค์โดยศิลปินชื่อดังระดับโลก Narcissus Quagliata ซึ่งถ่ายทอดศิลปะผ่านแสง สี และเส้นสายได้อย่างงดงามลงตัว จุดนี้ถือเป็นแลนด์มาร์กที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่างแวะมาเก็บภาพความประทับใจ และซึมซับแรงบันดาลใจจากศิลปะอันวิจิตรใจกลางเมือง ท่านสามารถเดินเล่น ถ่ายภาพ หรือชมรายละเอียดของงานศิลป์ได้อย่างใกล้ชิด

นำท่านเดินทางสู่ ตลาดกลางคืนลิ่วเหอ (Liuhe Night Market) ที่นี่เป็นตลาดกลางคืนชื่อดังใจกลางเมืองเกาสง เปิดมาตั้งแต่ปี 1950 และถือว่าเป็นหนึ่งในตลาดที่เก่าแก่ที่ยังเต็มไปด้วยแสงไฟสีสันสดใส มีบรรยากาศคึกคัก ภายในตลาดมีร้านอาหารและแผงขายของกว่า 100 ร้าน ทั้งอาหารทะเลสดๆ กุ้งย่าง ซาซิมิ ชานมไข่มุก ขนมท้องถิ่น รวมถึงผลไม้และของฝากน่ารักๆ ท่านสามารถเดินเล่น ชิม ช้อป ได้อย่างอิสระ เต็มอิ่มกับบรรยากาศยามค่ำคืนของตลาดแห่งนี้อย่างจุใจ

ค่ำ อิสระอาหารค่ำ เพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยว

ที่พัก Jing Shang International Hotel, Kaohsiung หรือเทียบเท่าระดับ 3 ดาว ตามมาตรฐานไต้หวัน

(โรงแรมที่ระบุในรายการเป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลง แต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน)

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เจียอี้ (Chiayi) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) ซึ่งถูกล้อมรอบด้วยภูเขาและทะเล ถือเป็นเมืองเดียวในไต้หวันที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากถึง 3 แห่ง ได้แก่ อุทยานแห่งชาติอาลีซาน อุทยานแห่งชาติชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ (Southwest Coast National Scenic Area) และอุทยานแห่งชาติซีลาหย่า โดยทั้ง 3 แห่งนี้ ล้วนมีทัศนียภาพที่โดดเด่นและสวยงาม ตั้งแต่ภูเขาไปจนถึงชายทะเล ทั้งยังเป็นที่ตั้งของยวี่ซัน ยอดเขาที่สูงที่สุดของไต้หวันอีกด้วย ทำให้เจียอี้มีระบบนิเวศทางทะเลที่อุดมสมบูรณ์ เหมาะกับการทำประมงและเพาะเลี้ยงหอยนางรมเป็นอย่างยิ่ง

นำท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติอาลีซาน (Alishan National Forest) อุทยานที่มีชื่อเสียงที่สุดของไต้หวัน ตั้งอยู่ในเมืองเจียอี้ สัมผัสอากาศบริสุทธิ์และความเขียวขจีของป่าสนอายุพันปี เพลิดเพลินกับการเดินป่าท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงามและเงียบสงบ

นำท่าน สักการะเจ้าพ่อเสือ ณ ศาลเจ้าพ่อเสือกลางอุทยานอาลีซาน ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันร่มรื่น เชื่อกันว่าเจ้าพ่อเสือเป็นเทพผู้ปกปักรักษา คอยปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย และให้โชคลาภกับผู้ศรัทธา ผู้คนมักจะขอพรเรื่องความปลอดภัย การเดินทางราบรื่น การงานราบรื่น และปัดเป่าสิ่งไม่ดี จากนั้นให้ท่านได้สัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษกับ การนั่งรถไฟโบราณสีแดง หรือที่รู้จักกันในชื่อ รถไฟอาลีซาน (Alishan Forest Railway) (รวมนั่งรถไฟโบราณ 1 เที่ยว) หนึ่งในเส้นทางรถไฟที่ได้รับการยกย่องว่าสวยที่สุดติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลกเส้นทางรถไฟสายนี้โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว รถไฟสีแดงสดจะพาท่านวิ่งลัดเลาะผ่านผืนป่าสนและภูเขาอันอุดมสมบูรณ์ ตลอดสองข้างทาง พร้อมไต่ระดับขึ้นสู่ยอดเขาอย่างช้าๆ ให้ท่านได้ดื่มด่ำกับทัศนียภาพธรรมชาติที่งดงามอลังการตลอดเส้นทาง

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านสู่ ร้านชา (Tea Shop) สัมผัสวัฒนธรรมการดื่มชาของไต้หวัน พร้อมชมการสาธิตพิธีชงชาแบบดั้งเดิม และเรียนรู้ถึง ประโยชน์ของการดื่มชา ที่นี่เป็นแหล่งปลูกชาคุณภาพเยี่ยม ด้วยสภาพอากาศบนพื้นที่สูงและอุณหภูมิที่เย็นสบายตลอดทั้งปี จึงทำให้ใบชามีรสชาติหอม นุ่ม ละมุนลิ้น อิสระให้ท่านชิมชาและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากชา เป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านตามอัธยาศัย

นำท่านช้อปปิ้ง ตลาดกลางคืนเหวินฮั่ว (Wenhua Night Market) อิสระให้ท่านเพลิดเพลินกับการเดินเล่นและเลือกชิมของอร่อยแบบสตรีทฟู้ดแท้ๆ สไตล์ไต้หวัน ณ ตลาดกลางคืนเหวินฮั่ว แหล่งรวมอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อ พร้อมบรรยากาศคึกคักยามค่ำคืนที่สะท้อนวิถีชีวิตคนไต้หวันอย่างแท้จริง

ค่ำ อิสระอาหารค่ำ เพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยว

ที่พัก Renyi Lake Hotel, Chiayi หรือเทียบเท่าระดับ 3 ดาว ตามมาตรฐานไต้หวัน

(โรงแรมที่ระบุในรายการเป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลง แต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน)

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ หนานโถว (Nantou) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เมืองใหญ่ที่สุดของไต้หวัน และเป็นจังหวัดเดียวที่ไม่ติดทะเล ตั้งอยู่ใจกลางเกาะ โอบล้อมด้วยขุนเขาและธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ เมืองนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศสงบงาม สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ และดื่มด่ำกับวัฒนธรรมพื้นเมืองอย่างลึกซึ้ง ระหว่างทาง ท่านจะได้ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ทั้งป่าไม้ หมู่บ้านพื้นเมือง และไร่ชาเขียวชอุ่ม หนานโถวยังเป็นแหล่งรวมสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังมากมาย ทั้งธรรมชาติ วัดวาอาราม และจุดชมวิวบนภูเขาที่งดงามเกินบรรยาย

นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบสุริยัน จันทรา (Sun Moon Lake) ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวันและยังมีเส้นทางจักรยานรอบทะเลสาบมีความยาวถึง 33 กิโลเมตร ทะเลสาบแห่งนี้มี เกาะลาลู (Lalu Island) ตั้งอยู่กลางทะเลสาบ โดยทางตอนใต้ของเกาะลาลู มีรูปร่างกลมคล้ายกับพระจันทร์ ส่วนทางตอนเหนือของเกาะ มีรูปร่างคล้ายกับพระอาทิตย์ จึงเป็นที่มาของชื่อทะเลสาบสุริยันจันทรานั่นเอง และยังเป็นตำแหน่งฮวงจุ้ยทีดีมีมังกรล้อมรอบ พื้นที่บริเวณนี้ถือว่าเป็นจุดรับพลังมังกรที่สมบูรณ์ที่สุดของไต้หวัน

จากนั้นนำท่าน นั่งเรือยอร์ชล่องทะเลสาบสุริยัน จันทรา ชมความงามสัมผัสทัศนียภาพอันงดงามรอบทะเลสาบ ที่สองฟากฝั่งรายล้อมด้วยขุนเขาสีเขียวชอุ่มสะท้อนผืนน้ำใสราวกระจกของทะเลสาบแห่งนี้

นำท่านเดินทางสู่ วัดสวนกวง (Xuanguang Temple) วัดขนาดเล็กเงียบสงบ ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบสุริยันและทะเลสาบจันทรา สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1955 ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำของพระภิกษุเสวียนจั้ง นักปราชญ์แห่งราชวงศ์ถัง ผู้เดินทางไปอินเดียเพื่ออัญเชิญพระไตรปิฎกกลับมาจีนตามพระบัญชาจักรพรรดิ ด้านหน้าวัดมีท่าเรือเล็กๆ ริมทะเลสาบ พร้อมบันไดขึ้นสู่วัดโดยมีฉากหลังเป็นภูเขางดงาม บรรยากาศร่มรื่น เหมาะแก่การถ่ายภาพและสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พร้อมข้อความใต้พระรูปว่า “ปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งชาติ” เป็นอีกหนึ่งจุดแวะสำคัญบนเส้นทางแห่งศรัทธาในเมืองหนานโถว

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร  เมนูพิเศษ!! ปลาประธานาธิบดี

นำท่านเดินทางสู่ วัดเหวินหวู่ (Wenwu Temple หรือ วัดกวนอู) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) ตั้งอยู่ระหว่างเขาทางทิศเหนือของทะเลสาบสุริยันจันทรา สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1938 ภายในวัดมีรูปปั้นของขงจื้อและเทพกวนอู (เทพเจ้าแห่งปัญญา และเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์) ซึ่งชาวไต้หวันเชื่อกันว่า หากได้บูชาเทพเจ้ากวนอู จะได้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานมีแต่คนจงรักภักดี หรือหากวางแผนสิ่งใดก็จะประสบความสำเร็จตามปารถนา เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่งของไต้หวัน แต่เดิมในอดีตริมฝั่งทะเลสาปสุริยันจันทราเป็นที่ตั้งของ 2 วัดเก่า คือวัดหลงฟิง และวัดหัวถัง ชาวบ้านกลัวว่าน้ำจากทะเลสาบสุริยันจันทราจะทะลัก เข้ามาท่วมวัดหลงเฟิงและวัดหัวถัง จึงได้มีการก่อสร้างวัดเหวินหวู่ขึ้น และรวมวัดดั้งเดิมทั้งสองแห่งไว้ในวัดเหวินหวู่เพียงแห่งเดียว พร้อมทั้งเสริมสร้างกำแพงให้แข็งแรงมั่นคงยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันน้ำจากทะเลสาบสุริยันจันทราที่มักหนุนสูงขึ้น ในปัจจุบัน วัดเหวินหวู่มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นด้วยงานแกะสลักหินอันประณีตงดงาม โดยเฉพาะสิงโตหินอ่อนคู่หน้าวัด ที่ประดิษฐานต้อนรับผู้มาเยือนอย่างสง่างาม ซึ่งแต่ละตัวมีมูลค่าสูงถึง 1 ล้านเหรียญไต้หวัน ตัววิหารหลักแบ่งออกเป็นสามชั้น รายล้อมด้วยวิหารย่อยด้านข้าง วัดแห่งนี้ยังเป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่งดงามของทะเลสาบสุริยันจันทรา ซึ่งสามารถมองเห็นทัศนียภาพของทะเลสาบและขุนเขาโดยรอบได้อย่างชัดเจน

​วัดเหวินหวู่ถือเป็นจุดรวมพลังศรัทธาที่ครอบคลุมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน การเงิน หรือการเรียน ขอเพียงตั้งจิตศรัทธาให้มั่น สิ่งดีๆ จะตามมาในไม่ช้า

จุดไหว้หลักใน "วัดเหวินหวู่"

จุดที่ 1: องฮเทพเจ้ากวนอู องค์เทพเจ้ากวนอูประทับนั่งบนบัลลังก์ เป็นเทพเจ้าที่ขาวจีนและชาวได้หวันเคารม บูชาอย่างสูง ผู้คนมักมาขอพรเพื่อความสำเร็จในหน้าที่การงาน ความเจริญ ธุรกิจ รวมถึงความปลอดภัยและแคล้วคลาดจากอันตรายต่างๆ ที่จุดนี้ นักท่องเที่ยวและชาวใต้หวันนับใช้ พยกตาแมว หรือ กระน้ำเงิน มาวนรอบ กระถางรูปเป็นจำนวน 3 รอบ เพื่อเสริมบารมีและเรียกโรคลากเป็นทองให้ให้ไทธมาเทรมาเทมา

จุดที่ 2: วิหางอูเฉิง วิหารแห่งนี้ปรมดิษฐาน องค์เทพเจ้ากวนอู ในท่านักบบัลลังก์ พร้อมด้วย องค์เทพเย่ว เฟย ซึ่งเป็นเทพเจ้าผู้เป็นสัญลักษณ์แห่งความชื่อสัตย์และความกล้าหามคำนามตำนาน จีน ตำนานเล่าว่า เทพเอว์เฟยเป็นศึกปางหนึ่งของเจ้ากวนอู ผู้ที่มีความเฉสียว ฉลาดและซื่อสัตธ์ดูศที่จดนี้นักทองเที่ยวนิยมมาขอพรเกี่ยวกับ สติปัญญา ความชื่อศัตย์ และความมั่นคงในชีวิต

จุดที่ 3: วิหางฮาเฉิง วิหารแข็งนี้ป็นที่ประทัษฐาน อเสีเททเราขงจื่อ เทพเป็งควาเป็นธรมะปัญญา บัสฮ่องเที่ยวและขาวโฮ่พวันนิยมมาขอพรเพื่อเสริม การศึกษา การเรียนรู้ และ เพิ่มพูน สติปัญญา เพื่อความสำเร็จทั้งในเส้นทางชีวิตและการทำงาน

จากนั้นนำท่านเดินทากลับสู่ ไทเป (Taipei) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) เมืองหลวงของเกาะไต้หวัน ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ เป็นศูนย์รวมของทุกสิ่ง ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของชาวไต้หวันอย่างแท้จริงกรุงไทเปเป็นมหานครที่ผสานความเก่าและใหม่ไว้ได้อย่างน่าทึ่ง ท่ามกลางตึกสูงระฟ้า ห้างสรรพสินค้า และระบบขนส่งอันทันสมัย ยังแฝงไว้ด้วยเสน่ห์ของตลาดพื้นเมือง ศาลเจ้าจีนโบราณ และตรอกซอกซอยที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของวิถีชีวิตดั้งเดิม นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นชมเมือง หรือแวะไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอพรในศาลเจ้าที่อยู่ใกล้กัน ไม่เพียงเท่านั้นไทเปยังขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งของกิน ไม่ว่าจะเป็นสตรีทฟู้ดราคาย่อมเยาในตลาดกลางคืน ไปจนถึงอาหารระดับภัตตาคารดาวมิชลิน ล้วนแต่สร้างประสบการณ์ที่หลากหลายให้กับนักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองอย่างจุใจ ด้วยความหลากหลายทั้งทางวัฒนธรรม ผู้คน และไลฟ์สไตล์ ทำให้ไทเปเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยพลังชีวิต มีความเคลื่อนไหวตลอด 24 ชั่วโมง และเป็นจุดหมายปลายทางที่นักเดินทางจากทั่วโลกต่างหลงใหล ไม่ว่าจะมาเยือนครั้งแรกหรือครั้งที่เท่าไหร่ เมืองนี้ก็ยังมีอะไรให้ค้นหาเสมอ จึงทำให้ที่นี่มีชีวิตชีวา ดึงดูดให้ผู้คนที่รักการท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนไม่รู้เบื่อ อย่างไม่ขาดสาย

นำท่านเดินทางสู่ ซีเหมินติง (Ximending) แหล่งช้อปปิ้งชื่อดังและเป็นที่นิยมมากที่สุดของไต้หวัน ที่ได้รับฉายาว่า “สยามสแควร์เมืองไทย” เพราะเต็มไปด้วยสีสันของแฟชั่นวัยรุ่นสุดฮิป ร้านเสื้อผ้าแบรนด์เนมชื่อดัง กระเป๋า รองเท้า และสินค้าไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัยมากมายมีให้เลือกอย่างจุใจ ลิ้มรสความอร่อยกับชานมไข่มุกต้นตำรับ และเมนูสตรีทฟู้ดที่มีให้เลือกชิมกันแบบไม่ซ้ำ เช่น ไก่ทอดไต้หวัน ไส้กรอกไต้หวัน และขนมพื้นเมืองหลากหลายชนิด ดังนั้นซีเหมินติง คือ จุดหมายที่ผสมผสานทั้งวัฒนธรรมท้องถิ่นและความทันสมัยเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว แหล่งรวมตัวของวัยรุ่นไต้หวันและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ที่มาเดินเล่น

ช้อป ชิม ที่มาเก็บความประทับใจ สายสะสมของน่ารักห้ามพลาด! แวะชมและชอปที่ POP MART สาขาซีเหมินติง ซึ่งปืน สาขาให้ผู้ที่สุดในในโสหวัน รวมดาวดังจงการ ART TOY ทั้ง LABU, MOLLY, CRYBABY, SKULLPANDA, DIMOO, HIRONO uระอีกมากมาย

ค่ำ อิสระอาหารค่ำ เพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยว

ที่พัก Hotel Riverview, Taipei หรือเทียบเท่าระดับ 3 ดาว ตามมาตรฐานไต้หวัน

(โรงแรมที่ระบุในรายการเป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลง แต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน)

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านช้อปปิ้งที่ ร้านสร้อยสุขภาพ (Germanium Shop) ที่ขึ้นชื่อเรื่องสร้อยข้อมือ ที่ประกอบไปด้วยแม่เหล็กแร่ธาตุเจอมาเนี่ยม ที่มีคุณสมบัติ ทำให้เลือดลมเดินดีขึ้น เพิ่มความกระปรี้กระเปร่า และคลายความเครียด รวมถึงปะการังแดง ปะการังน้ำลึกที่เป็นอัญมณีล้ำค่าที่หายากซึ่งมีอยู่ไม่กี่ที่ในโลก

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่แลนด์มาร์กสำคัญใจกลางกรุงไทเป อนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค (Chiang Kai-Shek Memorial Hall) โดยตัวอาคารของอนุสรณ์สถานถูกสร้างขึ้นมาตามแบบสถาปัตยกรรมจีนโบราณ บันไดทั้งสี่ด้านถูกสร้างด้วยหินอ่อนสีขาวเป็นขั้นตามแบบพีระมิดอียิปต์ หลังคาสีน้ำเงิน รวมทั้งยังมีสวนดอกไม้สีแดง ที่เป็นการแสดงออกทางสัญลักษณ์ให้เห็นถึงอิสรภาพ ความเท่าเทียม และความเป็นหนึ่งเดียวกัน ตามสีของธงชาติไต้หวัน อนุสรณ์สถานแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่รำลึกถึงอดีตประธานาธิบดีเจียงไคเช็ค ซึ่งเป็นบุคคลที่มีความสำคัญต่อไต้หวัน ภายในห้องมีการจัดแสดงประวัติและสิ่งของต่างๆเกี่ยวกับท่านนายพลเจียงไคเช็ค ตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นลูกศิษย์ ดร. ซุนหยัดเซ็น จนก้าวสู่ตำแหน่งผู้นำประเทศ เป็นแหล่งรวมชีวประวัติและรูปภาพประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่หาดูได้ยาก

หมายเหตุ : ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฏาคม 2567 เป็นต้นไป กระทรวงวัฒนธรรมไต้หวัน ได้ประกาศ ยกเลิกพิธีเปลี่ยนเวรของทหารรักษาการณ์ ซึ่งปกติจะจัดขึ้นทุก 1 ชั่วโมง ณ บริเวณหน้ารูปปั้นท่านนายพลเจียงไคเช็ค บนชั้น 4 ของอนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค แต่นักท่องเที่ยวยังสามารถเข้าชมบริเวณอนุสรณ์สถานได้ตามปกติ

นำท่านแวะถ่ายภาพด้านนอก ตึกไทเป 101 (Taipei 101 Tower) ตึกระฟ้าใจกลางกรุงไทเป แลนด์มาร์กสำคัญของ ประเทศไต้หวัน ที่มีความสูงถึง 508 เมตร โดดเด่นด้วยดีไซน์ภายนอกอันเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ตัวอาคารได้รับแรงบันดาลใจจาก รูปทรงของปล้องไม้ไผ่ ซึ่งตามคติความเชื่อของชาวจีน สื่อถึง ความมั่นคง ความแข็งแกร่ง และความเจริญรุ่งเรือง ตึกไทเป 101 ถือเป็นตัวอย่างของการออกแบบทางสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างนวัตกรรมสมัยใหม่กับวัฒนธรรมจีนดั้งเดิมได้อย่างกลมกลืน การออกแบบที่รองรับภัยธรรมชาติได้อย่างยอดเยี่ยม ภายในอาคารมีลูกตุ้มถ่วงสมดุลขนาดใหญ่ที่ช่วยลดแรงสั่นไหวจากแผ่นดินไหวและลมพายุได้อย่างมีประสิทธิภาพ จุดถ่ายภาพยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกต่างแวะมาบันทึกความประทับใจกับฉากหลังตึกไทเป 101 อันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองไทเป

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร  เมนูพิเศษ!! เสี่ยวหลงเปา

นำท่านเดินทางสู่ วัดหลงซาน (Lungshan Temple) เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิง ที่มีความสวยงามและมี คุณค่าทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างมาก ที่นี่เต็มไปด้วยรูปแกะสลักมากมาย มีเสาคู่มังกรทองแดงอันโดดเด่นที่ประตูหน้า และเสาอีกสี่คู่ที่โถงกลางนอกจากนี้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 วัดหลงซันซื่อถูกทิ้งระเบิดจนพระอุโบสถได้รับความเสียหาย แต่ปรากฏว่า "พระโพธิสัตว์กวนอิม" ที่สถิตอยู่ด้านในนั้นกลับไม่ได้รับความเสียหายเลย ยิ่งทำให้ผู้คนเลื่อมใสพากันมากราบไหว้มากขึ้นๆในทุกวัน นอกจากจะมี "พระโพธิสัตว์กวนอิม" เป็นพระประธานหลักแล้ว ด้านหลังของพระอุโบสถยังมีเทพเจ้าต่างๆ ของลัทธิเต๋าอีกนับหลายสิบองค์ มีผู้กล่าวเอาไว้ว่าวัดหลงซานเป็นที่รวมเทพเจ้าองค์ต่างๆไว้มากที่สุดแห่งหนึ่งของไต้หวัน และที่วัดหลงซานแห่งนี้ยังมีเทพเจ้าที่หนุ่มสาวทั้งชาวไต้หวัน และชาวต่างชาติให้ความนิยมมาไหว้ขอพรก็คือ "ผู้เฒ่าจันทรา" เทพเจ้าแห่งตำนานด้ายแดงผู้กุมชะตาบุพเพสันนิวาส โดยเชื่อว่าหากไปขอด้ายแดงกับผู้เฒ่าจันทราก็จะสมหวังในเรื่องความรักและจะได้พบเนื้อคู่

สายมูต้องรู้

เคล็ดลับการขอพรความรักจากผู้เฒ่าจันทรา ให้บอกชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด พร้อมบอกที่อยู่ ให้บอกลักษณะของเนื้อคู่ ที่ต้องการให้ชัดเจน พร้อมกับอธิษฐานขอด้ายแดงขอให้ผู้เฒ่าจันทราบันดาลให้การขอพรสมหวัง หลังจากนั้นให้หยิบ ไม้ปวย หรือ เซ้งปวย ที่มีลักษณะเป็นไม้ประกบคู่สีแดงขึ้นมาโยนเสี่ยงทาย โดยจะต้องประกบคู่แล้วโยนเสี่ยงทายลงบนพื้น ให้โยนไม้ปวยให้สูงเหนือศีรษะของผู้เสี่ยงทาย หรือโยนให้สูงกว่าโต๊ะ หรือแท่นบูชา โดยมีโอกาสโยนไม้ปวยเสี่ยงทายได้ถึง 3 ครั้ง และถ้าได้คำตอบแล้ว ไม่ควรถามซ้ำในคำถามเดิมอีก ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาตรงใจหรือไม่ก็ตาม

1. คว่ำ 1 ข้าง หงาย 1 ข้าง หมายถึง ใช่ ได้ ถูกต้อง

2. คว่ำทั้ง 2 ข้าง หมายถึง ไม่ใช่ ไม่ได้ ไม่ถูกต้อง

3. หงายทั้ง 2 ข้าง หมายถึง ไม่แน่ใจ ไม่สามารถให้คำตอบได้

นำท่านเลือกซื้อของฝากที่ ร้านขนมพายสับปะรด (Pineapple Cake Shop) ขนมสัญลักษณ์ของไต้หวัน ที่ได้รับความนิยมจนเปรียบเสมือนขนมประจำชาติ โดยเฉพาะ พายสับปะรด รสชาติหวานหอม เนื้อแน่นกำลังดี นอกจากนี้ยังมีขนมหลากหลายให้เลือกสรร ไม่ว่าจะเป็น ป๊อปคอร์น, นูกัส, และเห็ดทอด เป็นต้น อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อเป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับไปฝากคนทางบ้านหรือเพื่อนๆ ได้ตามใจชอบ

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ MITSUI OUTLET PARK สัญชาติญี่ปุ่น แบ่งเป็น 2 โซน คือ In Mall และ Out Mall และเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2567 ได้ทำการเปิดเฟส 2 เพิ่ม จึงทำให้ที่นี่เป็นแหล่งรวมสินค้าครบครัน ทั้งจากญี่ปุ่น ไต้หวัน และนานาชาติไว้หลากหลายกว่า 300 ร้านค้า มีตั้งแต่แบรนด์เนมสุดหรูจนถึงแบรนด์ราคาย่อมเยา, ร้านอาหารชื่อดังจนถึง food court, มีกระทั่งร้านหนังสือ Eslite และ พื้นที่สำหรับเด็ก เรียกได้ว่าเหมาะกับทุกเพศทุกวัย และยังมีร้าน POP MART ซึ่งเพิ่งจะเปิดในโซนเฟส 2 ให้ท่านได้เลือกซื้อตุ๊กตาต่างๆ อาทิเช่น LABUBU, MOLLY, CRYBABY, SKULLPANDA, DIMOO, HIRONO และอื่นๆ อีกมากมาย

ค่ำ อิสระรับประทานอาหารเย็นตามอัธยาศัย

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติเถาหยวน สนามบินนานาชาติหลักของไต้หวัน

22.40 น. นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบิน China Airlines เที่ยวบินที่ CI837

(มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)

01.25+1 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ
 

หมายเหตุ

**โปรแกรมการเดินทางและมื้ออาหารที่ระบุในโปรแกรม อาจจะมีการสลับปรับเปลี่ยนขึ้นอยู่กับความเหมาะสมเป็นหลัก รบกวนแจ้งเซลล์ก่อนทำการจองทุกครั้งเพื่ออัพเดทโปรแกรม ณ ปัจจุบัน ในวันนั้นๆโดยจะคำนึงถึงประโยชน์ของผู้เดินทางเป็นสำคัญ**

***ในกรณีที่ลูกค้าต้องออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (เครื่องบิน ,รถทัวร์ ,รถไฟ) กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ เพื่อเช็คว่ากรุ๊ปมีการคอนเฟิร์มเดินทางก่อนทุกครั้ง เนื่องจากสายการบินอาจมีการปรับเปลี่ยนไฟล์ทบิน หรือเวลาบิน โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทางบริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใด ๆ ในกรณี ถ้าท่านออกตั๋วภายในโดยไม่แจ้งให้ทราบและหากไฟล์ทบินมีการปรับเปลี่ยนเวลาบิน เพราะถือว่าท่านยอมรับในเงื่อนไขดังกล่าว***