15.00 น. คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น4 เคาน์เตอร์สายการบินแอร์อินเดีย เจ้าหน้าที่บริษัทต้อนรับและอำนวยความสะดวกเรื่องสัมภาระและเอกสารการเดินทางแก่ท่าน

น้ำหนักกระเป๋า 23 ก.ก. จำนวนชิ้น 1 ชิ้น

สายการบิน FULL SERVICE มีบริการอาหารและเครื่องดื่ม

18.50น. ออกเดินทางจากสู่ เดลลี โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG315

21.50 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิราคานธี เมืองนิวเดลลี (New Delhi) ตามเวลาท้องถิ่น ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและรับสัมภาระ

นำท่านเดินทางสู่โรงแรมโดยรถโค้ช เมืองเดลีเป็นเมืองหลวงของอินเดีย และเป็นศูนย์กลางการบริหารและการปกครองของประเทศเดลีเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญของอินเดีย มีการค้าและการลงทุนมากมาย เวลาที่อินเดียช้ากว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง 30 นาที 

ที่พัก: Country Inn Suites New Delhi หรือเทียบเท่า

"แคชเมียร์" อันแดนสรรค์บบพื้นนิกน มากฎ ใจรแห่งอื่นที่ส่วนที่สุดนที่สุดในโลก เปรียบประดุจสวรรคบนโลกมนุษย์ท่ามกลางกลางอ้อมกอดของเทือกเขาหิมาลัย เมื่อถึงเดือนตุลาคม ย่างเช้าฤดูไปไม้เปลี่ยนสี เราจะได้สัมผัสกับมนต์เสน่ห์ต้นชีนาร์ (Chinar) ต้นไม้ประจำแคว้นแคชเมียร์ ลักษณะคล้ายใบเมเปิ้ล ค่อยๆเปลี่ยนสี ไล่เฉดสีตั้งแต่เหลือง ส้ม แดง น้ำตาล ทั่วทั้งเมือง สวยงามราวกับภาพวาดชิ้นเอก ก่อนที่จะร่วงหล่นลงบนพื้นกลายเป็น ท้องทุ่งสีส้มน้ำตาล บรรยากาศแสนโรมแนติท สวยวยวามเกินคำบรรยาย

เช้า บริการอาหารเช้า (แบบกล่อง) จากโรงแรม เพื่อความสะดวกในการเดินทาง

จากนั้น เดินทางสู่สนามบินเดลลีเพื่อเดินทางสู่แคชเมียร์

07.35น. ออกเดินทางจากเดลลี สู่ ศรีนาคา โดยสายการบินอินดิโก้ แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 6E5102

น้ำหนักกระเป๋า 20 ก.ก. จำนวนชิ้น 1 ชิ้น + ถึงขึ้นเครื่อง 7 กก.

สายการบินไม่มีบริการอาหารและเครื่องดื่ม (มีจำหน่าย)

09.15 น. เดินทางถึง สนามบินศรีนาคา... ตรวจรับสัมภาระหรือที่รู้จักในชื่อท่าอากาศยานนานาชาติชีคอุล-อาลัมและฐานทัพอากาศบัดแกม ซึ่งเป็นของกองทัพอากาศอินเดียและการท่าอากาศยานแห่งอินเดีย ถูกกำหนดให้เป็นสนามบินนานาชาติของ เมืองหลวงของรัฐแคชเมียร์

จากนั้นนำท่านสู่ตัวเมืองศรีนาคาโดยรถเทมโบเข้าสู่ที่พักบ้านเรือ

กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (ศรีนาคา)

13.30 น. นำท่านออกเดินทางสู่ โซนามาร์ค (Sonamarg) ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง โซนามาร์ค (Sonamarg) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในรัฐชัมมูและแคชเมียร์ มีอีกชื่อหนึ่งว่า "ทุ่งแห่งทองคำ" (Golden Meadow) โซนามาร์คมีชื่อเสียงจากทุ่งหญ้าเขียวขจีที่รายล้อมไปด้วยภูเขาหิมาลัยที่สูงตระหง่าน ระหว่างสองข้างทาง ชมวิวความสวยงามตลอดทาง “โซนามาร์ค” ทุ่งทองคำแห่งแคชเมียร์ มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เป็นประตูโบราณเส้นทางสายไหมเชื่อมต่อจัมมูและแคชเมียร์กับทิเบต เป็นจุดเริ่มต้นที่จะมุ่งหน้าไปยังลาดักห์ หรือเป็นรู้จักกันดีในชื่อว่า“ประตูสู่ลาดักห์” เส้นทางนี้จะเป็นเส้นทางที่มีทิวทัศน์สวยงามตลอดสองข้างทาง….ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ช่วงหน้าร้อนของแคชเมียร์ที่สวยงามเกินคำบรรยาย

นำท่านถ่ายภาพที่โซนามาร์ค ชมบรรยากาศของเทือกเขาและป่า จนถึงหุบเขาโซนามาร์ค

นำท่านเข้าที่พักช่วง

18.30 น. นำท่านออกไปชม ตลาดท้องถิ่นของหุบเขาโซนามาร์ค เป็นตลาดที่มีชีวิตชีวาตั้งอยู่ในเมืองโซนามาร์ค ตั้งอยู่ใจกลางเมืองสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคน เลือกซื้อของที่ระลึกทำมือและงานหัตถกรรมท้องถิ่นหลากหลาย

สมควรแก่เวลานำท่านกลับที่พัก

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม

ที่พัก: Hotel Rosewood Sonamarg หรือเทียบเท่า

เช้า บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม

จากนั้น นำท่าน ขี่ม้าแคระชมวิวในหุบเขา โซนามาร์ค ชมทุ่งหญ้า ป่าสนและชมภูเขาหิมะทุกคนที่เคยได้สัมผัส ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการมาเที่ยวแคชเมียร์ เพลิดเพลินกับ กิจกรรมขี่ม้า (ขี่ม้าประมาณ 30 นาทีรวมในค่าทัวร์ –กรณีไม่ขี่ม้าไม่สามารถขอเงินคืนได้) และอิสระเวลาถ่ายรูปเป็นการส่วนตัว

กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย นำท่านเดินทางกลับ ศรีนาคา ใช้เวลาเดินทาง 3-4 ชั่วโมง 

นำท่านชม สวนชาลิมาร์ (Shalimar Garden) เป็นสวนดอกไม้ที่สร้างขึ้นสมัยราชวงศ์โมกุล ก่อสร้างโดยจักรพรรดิ JEHANGIR เพื่อภรรยา Nur Jehan และเมืองศรีนาคา แคชเมียร์ เป็นที่มีชื่อเสียงในการจัดสวนตามแบบสมัยของราชวงศ์โมกุล เนื่องจากภูมิอากาศเย็นเหมาะสมในการเจริญเติบโตของต้นไม้ ดอกไม้เมืองหนาว จึงกลายเป็นที่ประทับพักผ่อนของกษัตริย์ราชวงศ์โมกุลในอดีต ชมต้นเมเปิลอายุกว่า 400 ปี ต้นปอปลาร์ ดอกทิวลิป และดอกไม้ นานาชนิดตามฤดูกาล ต้นไม้ที่มี ความสวยงามและโดดเด่น คือ ต้นชีน่า หรือต้นเมเปิ้ล ซึ่งใบของต้นไม้นี้มีสีแดงเพลิงสวยงามและใบจะเปลี่ยนสีไปตามฤดูกาล

จากนั้นอิสระให้ท่านช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองบริเวณหน้าสวน

จนถึงเวลานัดหมาย ชมสวน Nishat สร้างขึ้นโดยพี่ชายของจักรพรรดินีนูร์ จาฮาน ชื่ออาซิฟ ข่าน ซึ่งเป็นผู้ออกแบบแผนผังของสวนด้วย และเปิดในปี ค.ศ. 1633 และ ครอบคลุมพื้นที่ขนาดมหึมาบน พื้นที่ 46 เอเคอร์ ซึ่งตกแต่งอย่างเป็นธรรมชาติด้วยดอกไม้สีสดใส และเป็นสวนที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากสวนชาลิมาร์ ความเป็นเลิศทางสถาปัตยกรรมของสวน Nishat สวนแห่งนี้สร้างขึ้นครั้งแรกโดยมระเบียง 12 แห่งซึ่งเป็นตัวแทนของราศี 12 ราศี ระเบียงสวนล้อมรอบด้วยต้นไซเปรสและต้นไชนาร์

สวนเริ่มต้นจากริมฝั่งทะเลสาบ Dal และขยายไปจนถึงปลายเนินเขาด้วยช่องหินขัด ระเบียงด้านบนของสวน Nishat เป็นที่ตั้งของสวน Zenana และระเบียงด้านล่างเชื่อมต่ออย่างดีกับทะเลสาบ Dal

จากนั้น นำท่าน ล่องเรือชิคารา (เรือพายแบบแคชเมียร์) พาหนะสำหรับทำมาหากินของชาวแคชเมียร์ที่มีบ้านเรือนอยู่ริมน้ำที่สำคัญใบพายเป็นรูปหัวใจให้ท่านชมความงดงามทะเลสาบ ทะเลสาบได้รับการขนานนามว่า “เพชรยอดมงกุฏของแคชเมียร์” หรือ “อัญมณีแห่งศรีนาคา” ทะเลสาบที่มีความสวยงาม เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาของ ชาวแคชเมียร์..ท่านจะเพลิดเพลินกับการเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองของชาวแคชเมียร์ที่นำของมาขายกันถึงกลางทะเลสาบ! เช่น ผ้าพัชมิน่า, เปเปอร์มาเช่, เครื่องประดับและเครื่องเงินต่างๆมากมาย

มาถึงแคชเมียร์ ต้อง!! เปิดประสบการณ์พักในบ้านเรือ หรือ House Boat หนึ่งในหลายร้อยลำที่อยู่ในทะเลสาบดาล ที่ทำด้วยไม้แกะสลักอย่างประณีตเป็นความรู้สึกที่สงบและมีความสุขในอีกรูปแบบหนึ่ง จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกพากันมาเยือนที่นี่ชมทัศนียภาพรอบ ๆ ทะเลสาบได้ทั้ง 360 องศา และในเรือแต่ละลำจะมีผู้ดูแลที่คอยดูแลอำนวยความสะดวกสบายให้แก่แขกที่มาพักเหมือนกับได้อยู่ที่บ้าน ทำให้สามารถจินตนาการไปถึงความสะดวกสบายสมัยที่ชาวอังกฤษอาศัยอยู่ในบ้านเรือเมื่อในอดีตได้เป็นอย่างดี

“วิมานบนดินแห่งแคชเมียร์” ความใฝ่ฝันของนักท่องเที่ยว เกิดขึ้นในยุค “ควีนส์วิคตอเรีย” ซึ่งอังกฤษได้เข้ามาล่าอาณานิคม แต่มหาราชาโมกุล ได้ตั้งกฎเข้มว่า ...แม้อังกฤษจะมีอำนาจเหนืออย่างไรก็ไม่อาจให้ใช้สิทธิถือครองที่ดินผืนนี้ได้. นักล่าอาณานิคม จึงเลี่ยงโดยนำไม้สนซีดาร์ สร้างเป็นเรือ มีเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมตามแบบของอังกฤษ แกะสลักลวดลายสวยงาม พร้อมเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ หลังอินเดียถูกปลดปล่อยให้เป็นเอกราช บ้านเรือเหล่านี้จึงตกเป็นของรัฐ ถูกปล่อยให้ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ต่อมาได้ตกเป็นของเอกชน จึงปรับเป็นที่พักรองรับนักท่องเที่ยว กลายเป็นสถานที่ได้รับความนิยมจนมาถึงปัจจุบัน

ค่ำ บริการอาหารเย็น ณ บ้านเรือ

ที่พัก: Meena Deluxe Houseboat Srinagar หรือเทียบเท่า

เช้า บริการอาหารเช้า ณ บ้านเรือ

จากนั้น นำท่านเดินทางไป กุลมาร์ค (Gulmarg) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมง กุลมาร์คสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตในแคชเมียร์ ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกเป็นภูเขาที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งใน แคชเมียร์ เดิมเรียกเการิมาร์ค ตั้งโดยสุลต่าน ยูซุปชาร์ในศตวรรษที่ 16 เนื่องจากที่นี่เป็นทุ่งหญ้าที่เต็มไปด้วยดอกไม้ป่าตามฤดูกาลและในปัจจุบันยังเป็นสถานที่ตั้งของสนามกอล์ฟ 18 หลุมที่สูงที่สุดในโลก (3,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล) และมีสถานที่เล่นสกีในฤดูหนาวด้วย

ระหว่างทาง ชมมีสวนแอปเปิล (The Apple Orchards) ที่เปิดให้เข้าชมได้ที่กำลังออกผลมากมาย ในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูใบไม้ผลิ นอกจากนี้ ให้ท่านลิ้มลองแอปเปิ้ลสดๆจากสวนด้วยสวนแอปเปิ้ลกุลมาร์คในแคชเมียร์เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นที่นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวทิวทัศน์อันงดงาม

กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย ไฮไลท์ของกิจกรรม และการท่องเที่ยวที่กุลมาร์ค

นำท่านขึ้นเคเบิลคาร์เฟส 1 (กระเช้าลอยฟ้าหรือกอนโดลา) ขึ้นกระเช้ากอนโดล่าเป็นเคเบิลคาร์ไปเฟส1 ระหว่างทางท่านจะได้เห็นวิวของหิมะที่สวยงามพบเห็นหมู่บ้านยิปซีและหมู่บ้านของคนท้องถิ่น มองลงไปข้างล่างต้นสนระหว่างทางและหิมะที่สวยงามมาก เห็นวิวทิวเขาของเทีอกเขาหิมาลัย เมื่อถึงสถานีลงจากกระเช้าแล้ว ท่านจะพบลานขนาดใหญ่  อิสระให้ท่านถ่ายภาพคู่กับภูเขาสวยงามรอบทิศทางจนถึงเวลานัดหมาย

ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางกลับศรีนาคา

กิจกรรมเสริมต่างๆ ท่านสามารถสนุก เช่น ขี่ม้าแคระ ลากเลื่อน หรืออื่นๆ กรุณาสอบถามจากหัวหน้าทัวร์อีกและไกด์ท้องถิ่นของท่าน ราคากิจกรรมต่างๆไม่รวมในค่าทัวร์ 

จากนั้นนำ ท่านเดินทางสู่เมืองศรีนาคา นำท่านไปชม คาเฟ่ลิเบอร์ตี้ ศรีนาคา (Liberty Srinagar) คาเฟ่สุดชิค ย้อนยุค รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ สถานที่ที่แคชเมียร์ยังคงความคลาสสิกไว้ในใจกลางเมืองที่มีการตกแต่งภายในที่เป็นเอกลักษณ์ในศรีนาคา! **ราคาอาหารและเครื่องดื่มไม่รวมในรายการทัวร์**

ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ที่พัก

ค่ำ บริการอาหารเย็น ณ โรงแรม

ที่พัก: Hotel Sejour Luxury Srinagar หรือเทียบเท่า

ชัยปุระ...นครสีชมพูแห่งราชาสถาน เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของนักเดินทางทั่วโลก แหมาะสำหรับมือใหม่ที่จะเริ่มต้นท้องเที่ยวอินเดีย เดินทางสะดวกสบายด้วยเที่ยวบินตรงจากเมืองไทย เมืองที่แสนจะมีสีสันและมีชีวิตชีวา เพียงแค่ก้าวแรกจากสนามบินเท่านั้นจะมีเสียงแตรรถยนต์อันเป็นเอกลักษณ์ค่อยต้อนรับเรา ทำให้เราได้รู้ว่าเรามาถึงอินเดียแล้วจริงๆ ! สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งสวยสุดปังอลังการ ทั้งปราสาทพระราชวัง เสมือนว่าเราสวมบทบาทเป็นมหาราชาและมหารานกันเลยทีเดียว ถ่ายรูปออกมามุมไหนก็สวย โพสต์ภาพลงโชเชียลได้ไม่รู้จบ

06.00 น บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม

07.30 น. เดินทางสู่สนามบินศรีนาคา ภายในประเทศ เพื่อเดินทางสู่เมืองเดลลีประมาณ 1.30 ชม.

09.45 น. ออกเดินทางสู่ เดลลี โดยสายการบินอินดิโก้ แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 6E-5103

น้ำหนักกระเป๋า 20 ก.ก. จำนวนชิ้น 1 ชิ้น + ถึงขึ้นเครื่อง 7 กก.

สายการบินไม่มีบริการอาหารและเครื่องดื่ม (มีจำหน่าย)

11.20 น. เดินทางถึง สนามบินเดลลี รับกระเป๋าสัมภาระเรียบร้อบนำท่านเดินทางโดยรถโค้ช

12.30 น. บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน

13.30 น. ออกเดินทางสู่ เมืองชัยปุระ เมืองหลวงของรัฐราชสถาน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4-5 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับการจารจร) “เมืองชัยปุระ”นครสีชมพู เป็นเมืองหลวงของรัฐราชสถาน ประเทศอินเดีย และยังเป็นเมืองที่มีจำนวนประชากรมากเป็นอันดับที่ 10 ของประเทศอินเดีย เที่ยวได้ตลอดทั้งปี ถ่ายรูปสวยอลังและความเจริญมั่งคั่งมากที่สุดของรัฐราชสถาน ได้ชื่อว่าเป็น 'นครแห่งสีชมพู' จุดเริ่มต้นของนครสีชมพูเกิดขึ้นจากมหาราชา ซาราม ซิงห์ (Maharaja Ram Singh) "นครสีชมพู" ในปี ค.ศ. 1876 ในรัชสมัยของมหาราชาสวาอี ราม สิงห์ (Sawai Ram Singh) ได้มีพระบัญชาให้ทาสีอาคารบ้านเรือนต่าง ๆ ในเมืองเป็นสีชมพูเพื่อเป็นการต้อนรับเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด เจ้าชายแห่งเวลส์ในคราที่เสด็จเยือนชัยปุระอย่างเป็นทางการ ซึ่งสีชมพูนั้นก็ยังคงไว้จนถึงปัจจุบันและได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของชัยปุระจนทุกวันนี้

นำท่านไปจุดเช็คอินสุดชิค ประตูปาตริก้า (Patrika gate) ประตูเมืองลำดับที่ 9 ของนครชัยปุระ ตั้งอยู่บริเวณวงเวียนจาวาฮาร์ (Jawahar Circle) ประตูสีพาสเทลสดใส สะบัดส่าหรีกันให้เต็มที่รับรองรูปออกมาปังแน่นอน!

จากนั้นท่านเช็คอิน สัญลักษณ์เมืองชัยปุระพระราชวังแห่งสายลม (Hawa Mahal) ถ่ายรูปด้านนอกเท่านั้น หนึ่งในหลายพระราชวังที่อยู่ในกำแพงเมืองของนครสีชมพูแห่งนี้ พระราชวังสายลมเคยเป็นฮาเร็มของมหาราชา มีลักษณะเป็นอาคาร 5 ชั้น สร้างด้วยหินทรายออกแดง รูปแบบของสถาปัตยกรรม สไตล์เปอร์เซียกับโมกุล ที่สวยเด่นคือลวดลายฉลุหินตามหน้าต่าง ช่องระบายอากาศที่บรรดา นางสนมในวังใช้เป็นที่แอบดูชีวิต ความเป็นอยู่ของสามัญชนทั่วไปด้านนอก และประโยชน์อีกอย่างคือเป็นช่องแสงและช่องลมมีช่องหน้าต่าง จำนวนมากถึง 152 ช่อง เลยทีเดียว

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม

ที่พัก: Ramada Jaipur หรือเทียบเท่า

ทัชมาฮาล สิ่งมหัศจรรย์ของโลก...สุสานหินอ่อนสีขาวที่สวยที่สุดในโลก ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำยมุนาในเมืองอัดรา เริ่มสร้างขึ้นในปี 1632 โดยจักรพรรดิโมกุล "จักรพรรดิชาห์ชะอัน" เพื่อฝังศพของพระสนมผู้เป็นที่รัก มุมตัชมาฮาล ทัชมาฮาลได้รับสถานะเป็นแหล่งมรดกโลก ของยูเนสโกในปี 1983 ในฮานะ "เพชรน้ำเอกของศิลปะมุสติมในอินเดีย"

07.00 น. บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม (บุปเฟต์)

08.00 น. นำท่านไป พระราชวังแอมเบอร์ฟอร์ท (Amber fort) ชมพระราชวังโดยรถจี๊ป “พระราชวังแอมเบอร์ฟอร์ท” หรือที่รู้จักในชื่อ อาเมอร์ฟอร์ท (Amer Fort) เป็นป้อมปราการและพระราชวังเก่าแก่ ตั้งอยู่ในเมืองชัยปุระ รัฐราชสถาน สร้างขึ้นบนเนินเขา โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบผสมผสานระหว่างศิลปะฮินดูและศิลปะราชปุต พระราชวังแอมเบอร์ฟอร์ทเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของชัยปุระ และเป็นสัญลักษณ์ของเมือง สถาปัตยกรรม พระราชวังแอมเบอร์ฟอร์ทสร้างด้วยหินทรายสีแดงและหินอ่อน โดดเด่นด้วยลวดลายและงานศิลปะที่วิจิตรบรรจง ความสำคัญทางประวัติศาสตร์ พระราชวังแห่งนี้เป็นที่ประทับของมหาราชาแห่งชัยปุระในอดีต ชมภายในพระราชวังมีสถานที่สำคัญหลายแห่ง เช่น ประตู Ganesh Pol, Sheesh Mahal (ห้องกระจก), Sukh Mahal และ Diwan-i-Khas (ห้องโถงส่วนพระองค์)

นำท่านเดินทางชมภายในประราชวังและอิสระให้เก็บภาพความสวยงามให้เต็มที่ได้เวลาอันสมควรนำท่านนั่งรถจี๊บกลับ

จากนั้น นำท่านไปชม บ่อน้ำขั้นบันได พานนา มีนา กา คุนด์ (Panna Meena Ka Kund) หรือ บ่อน้ำโบราณแบบขั้นบันไดใจกลางเมือง ตั้งอยู่ใกล้กับแอมเบอร์ฟอร์ต ออกแบบเป็นแนวทแยงแปดชั้นจากปากบ่อลงไปด้านล่างก้นบ่อนับเป็นสถาปัตยกรรมสวยงาม ที่เป็นเสมือนอัญมณีที่ซ่อนอยู่ของ นครชัยปุระแห่งนี้

แวะถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ณ จาลมาฮาล (Jal Mahal) หรือพระราชวังสายน้ำ (Water Palace) ซึ่งตั้งเด่นสง่าอยู่กลางทะเลสาบมันสกา (Man Sagar) โดยพระราชวังแห่งนี้ถูกต่อเติมและปรับปรุงโดยมหาราชาสะหวายจัยสิงห์ที่ 2 ตัวพระราชวังนั้นสร้างได้อย่างสวยงามตามสถาปัตยกรรมราชปุตและโมกุลซึ่งสามารถพบได้ทั่วไปในสิ่งก่อสร้างในรัฐราชสถาน โดยมีเทือกเขานหาร์การห์ตั้งอยู่เบื้องหลัง ตัวอาคารสร้างโดยใช้หินทราย ประกอบด้วยทั้งหมด 5 ชั้นซึ่ง 4 ชั้นล่างจะถูกน้ำท่วมเมื่อทะเลสาบมีระดับน้ำสูงสุด โดยเหลือเพียงชั้นบนสุดซึ่งจะเผยขึ้นมาเหนือน้ำเท่านั้น

12.30 น. บริการอาหารกลางวัน ณ โรงแรม

13.30 น. นำท่านชม พระราชวังหลวงหรือพระราชวังซิตี้พาเลซ (City Palace) ในเมืองชัยปุระ “พระราชวังซิตี้พาเลซ” เป็นพระราชวังขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของราชวงศ์ชัยปุระและยังคงเป็นที่อยู่อาศัยของเชื้อพระวงศ์บางส่วนในปัจจุบัน พระราชวังแห่งนี้เป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงงานศิลปะ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของราชวงศ์ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 โดยมหาราชาสวาอี ไจ สิงห์ที่ 2 เพื่อเป็นที่ประทับและศูนย์กลางการปกครองของเมือง ผสมผสานสถาปัตยกรรมแบบราชปุตและโมกุล มีลานกว้าง สวนสวยงาม และอาคารสำคัญต่างๆ เช่น จันทรามาฮาล (Chandra Mahal) และ มูบารักมาฮาล (Mubarak Mahal)มีความสำคัญเป็นสัญลักษณ์ของเมืองชัยปุระและเป็นตัวแทนของวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของราชวงศ์ ชมสถาปัตยกรรมอันงดงาม

ชมงานศิลปะและงานฝีมือโบราณ เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ของราชวงศ์ ภายในเขตพระราชฐานมีศาลาว่าราชการที่มหาราชาใช้ปรึกษางานกับข้าราชบริพาร ตั้งอยู่กลางผังพระราชวังและเหยือกเงิน (Silver Urms) แท้ๆ 2 ใบของมหาราชามัดโฮซิงห์ที่ 2 (Maharaja Madho Singh II) ซึ่งเหยือกสีเงินนี้จะวางอยู่ของประตูทางเข้า ที่มีความสูงถึง 1.6 เมตร บรรจุน้ำได้ 900 ลิตร ในอดีตเคยถูกใช้บรรจุน้ำจากแม่น้ำคงคาเพื่อนำไปใช้ในพิธีราชาภิเษกของกษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 7

16.00 น. ออกเดินทางสู่ อัครา (Agra) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4-5 ชั่วโมง อัคราอดีตเมืองหลวงของอินเดียในสมัยที่ยังเรียกว่า "ฮินดูสถาน" (Hindustan) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำยมุนา (Yamuna) ทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย ถึงอัคระนำท่านเข้าสู่ที่พักอิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม

ที่พัก: Hotel Golden Tulip Agra หรือเทียบเท่า

07.00 น. บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม

08.00 น. นำท่านชม ทัชมาฮาล (TajMahal) อนุสรณ์สถานแห่งความรัก เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคใหม่ เป็นสถาปัตยกรรมในรูปแบบสถาปัตยกรรมอินโด-อิสลาม ที่ผสมผสานระหว่างศิลปะเปอร์เซีย, อินเดีย และอิสลาม สร้างขึ้นในสมัยจักรวรรดิโมกุล เพื่อเป็นสุสานหินอ่อนสีขาวขนาดใหญ่สำหรับพระนางมุมตัซ มาฮาล พระมเหสีของจักรพรรดิชาห์ จาฮาน และทัชมาฮาลถือเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ และเป็นสัญลักษณ์ของความรักอันยิ่งใหญ่และความจงรักภักดีของจักรพรรดิชาห์ จาฮานที่มีต่อพระมเหสี ทัชมาฮาลได้รับสถานะเป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโกในปี 1983 ในฐานะ "เพชรน้ำเอกของศิลปะมุสลิมในอินเดีย และเป็นหนึ่งในงานชิ้นเอกที่ได้รับการชื่นชมในระดับสากล"

จากนั้น ชมพระราชวังอัคราฟอร์ด (Agra Fort) เป็นป้อมปราการทางประวัติศาสตร์สำคัญของราชวงศ์โมกุลในอินเดีย มีความสำคัญทั้งในฐานะที่ประทับหลักของจักรพรรดิแห่งราชวงศ์โมกุลก่อนย้ายไปเดลี และเป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรโมกุลเคยเป็นที่ที่ประทับหลักของจักรพรรดิแห่งราชวงศ์โมกุลจนถึงปี 1638 ก่อนที่เมืองหลวงจะถูกย้ายไปเดลี เป็นสัญลักษณ์แสดงความยิ่งใหญ่ ความเจริญรุ่งเรือง และชัยชนะของอาณาจักรโมกุล ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการปกครอง การบริหารประเทศ และการทหารของอาณาจักรโมกุล มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศิลปะและวัฒนธรรมของราชวงศ์โมกุลได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี 1983 เนื่องจากมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ภายในแบ่งเป็นพระราชวัง อาคาร ห้องหอ และมัสยิดจำนวนมาก บางหลังสร้างจากหินอ่อนล้วนๆ อีกด้วย

13.00 น. บริการอาหารกลางวัน ณ โรงแรม

14.30 น เดินทางกลับ เดลลี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมง (แล้วแต่การจารจร) “เดลี” มีความสำคัญในฐานะเมืองหลวงของอินเดียและศูนย์กลางทางการเมือง วัฒนธรรม และเศรษฐกิจที่สำคัญ มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,500 ปี และเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และแหล่งท่องเที่ยวมากมาย นอกจากนี้ เดลียังเป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและมีบรรยากาศของ "Incredible India" เดินทางถึงเดลลี

ผ่านชม ประตูอินเดีย (Indian Gate) เป็นอนุสรณ์สถานสงครามที่ตั้งอยู่ในกรุงนิวเดลี สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงทหารอินเดียที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและสงครามอื่นๆ นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของอินเดีย โดยเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญและความเสียสละของทหารอินเดีย แม้จะสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานสงคราม แต่ประตูอินเดียยังเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคีของชาวอินเดียอีกด้วย

นำท่านผ่านชมราชปาติภาวัน (Rashtrapati Bhavan) ทำเนียบรัฐบาล ที่ก่อสร้างด้วยหินทรายรูปร่างผสมแบบอังกฤษและโมกุล “ราษฏรปติภวัน” หรือที่รู้จักกันในชื่อเดิมคือ ไวซ์รอยส์เฮาส์ (Viceroy's House) มีความสำคัญในฐานะที่เป็นที่พำนักอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีอินเดีย และเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจและความสง่างามในประวัติศาสตร์อินเดีย นอกจากนี้ยังเป็นอาคารที่สร้างขึ้นอย่างสวยงามและมีประวัติศาสตร์ยาวนาน โดยเป็นที่ประทับของอุปราชอังกฤษมาก่อนที่จะเป็นที่พำนักของประธานาธิบดีอินเดีย

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน

เดินทางสู่สนามบินเดลลี

01.40 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพ โดยสายการบิน AIR INDIA เที่ยวบินที่ AI2336

07.40 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
 

หมายเหตุ

**โปรแกรมการเดินทางและมื้ออาหารที่ระบุในโปรแกรม อาจจะมีการสลับปรับเปลี่ยนขึ้นอยู่กับความเหมาะสมเป็นหลัก รบกวนแจ้งเซลล์ก่อนทำการจองทุกครั้งเพื่ออัพเดทโปรแกรม ณ ปัจจุบัน ในวันนั้นๆโดยจะคำนึงถึงประโยชน์ของผู้เดินทางเป็นสำคัญ**

***ในกรณีที่ลูกค้าต้องออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (เครื่องบิน ,รถทัวร์ ,รถไฟ) กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ เพื่อเช็คว่ากรุ๊ปมีการคอนเฟิร์มเดินทางก่อนทุกครั้ง เนื่องจากสายการบินอาจมีการปรับเปลี่ยนไฟล์ทบิน หรือเวลาบิน โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทางบริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใด ๆ ในกรณี ถ้าท่านออกตั๋วภายในโดยไม่แจ้งให้ทราบและหากไฟล์ทบินมีการปรับเปลี่ยนเวลาบิน เพราะถือว่าท่านยอมรับในเงื่อนไขดังกล่าว***