23.00 น. พร้อมกันที่ สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ อาคารเดินทางขาออกระหว่างประเทศ (ชั้น 4) เคาน์เตอร์สายการบิน CHINA AIRLINES พบกับเจ้าหน้าที่ที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก ณ บริเวณหน้าเคาน์เตอร์ แจกเอกสารและเตรียมตัว CHECK IN

*** หมายเหตุ : เคาน์เตอร์เช็คอินปิดบริการก่อนเวลาเครื่องออก 60 นาที และไม่มีประกาศเตือนผู้โดยสารขึ้นเครื่อง ดังนั้นผู้โดยสารจำเป็นต้องพร้อม ณ ประตูขึ้นเครื่องก่อนเวลาเครื่องออกอย่างน้อย 45 นาที ***

สายการบิน CHINA AIRLINES ใช้เครื่อง Airbus A321neo จำนวน 180 ที่นั่ง (จัดที่นั่งแบบ 3-3) ตั๋วเครื่องบินเป็นตั๋วกรุ๊ปสำหรับคณะทัวร์ ระบบของสายการบินจะทำการจัดเรียงที่นั่งระบบสุ่ม สำหรับน้ำหนักกระเป๋าโหลดใต้ท้องเครื่องได้ 1 ใบ น้ำหนักไม่เกิน 23 กก./ท่าน กระเป๋าถือขึ้นเครื่องได้ 1 ใบ น้ำหนักไม่เกิน 7 กก./ท่าน

02.40 น. นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินเถาหยวน ไทเป โดยสายการบิน ไชน่าแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ CI 838

07.25 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติเถาหยวน หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรเรียบร้อยแล้ว **รับประทานอาหารเช้าเซ็ทน้ำเต้าหู้+ขนมปังไข่**

เดินทางสู่ เมืองเหมียวลี่ นำทางไปยัง สถานีรถไฟเซิ่งซิง เป็นทางรถไฟที่ตั้งอยู่ทางเหนือสุดของภาคตะวันตกในไต้หวัน สูงกว่าระดับนํ้าทะเล 402.326 เมตร ภายในมีอนุสรณ์สถานที่แสดงตำแหน่งที่ตั้งของสถานีรถไฟเซิ่งซิง โดยสถานีรถไฟนี้มีเส้นทางที่สูงชัน รวมถึงมีวิวทิวทัศน์อันสวยงาม ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีทัศนียภาพสวยงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในเส้นทางรถไฟสายตะวันตก โดยอาคารภายในสถานีนี้ ใช้วัสดุจากไม้ในการก่อสร้างทั้งหมด จึงทำให้อาคารของสถานีรถไฟเซิ่งซิงมีความสวยงามสไตล์อาคารไม้แบบญี่ปุ่น ความพิเศษอยู่ที่อาคารไม้มีลักษณะคล้ายฟันของเสือ ทำให้ชาวไต้หวันมีความเชื่อว่าอาคารที่มีรูปทรงฟันของเสือ จะช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายให้หมดไป รวมถึงทำให้คนที่มาขอพรสมความปรารถนาได้

ด้วยความสวยงามของวิวทิวทัศน์ และบรรยากาศดั้งเดิมแบบสถานีรถไฟเก่า จึงทำให้สถานีรถไฟเซิ่งซิงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสำคัญในเชิงอนุรักษ์ รวมถึงได้รับการแต่งตั้งจากหน่วยงานของเมืองเหมียวลี่ ให้เป็น “เขตโบราณสถาน” ภายในวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2542 เพื่ออนุรักษ์สถานที่และโบราณวัตถุที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ให้คงอยู่สืบไป

หลังจากนั้นนำท่านเดินทางไปยัง สะพานหักหลงเถิง ในเช้าวันที่ 24 เมษายน 2478 ได้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ใกล้กับภูเขากวนเตา ส่งผลให้อาคารบ้านเรือนจำนวนมากในเขตซานอี้เสียหาย ซึ่งสิ่งที่ทำให้ระลึกถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนั้น คือซากปรักหักพังของสะพานข้ามแม่น้ำหลง (Long River) ที่มองเห็นได้จากทางรถไฟระหว่างซานอี้ (Sanyi) และโฮ่วหลี่ (Houli) โดยสะพานหักหลงเถิง กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในเส้นทางจิ้วซาน (Jiushan Tour Route) สะพานประวัติศาสตร์นี้ เคยผ่านเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ถึง 2 ครั้ง จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ท่าเรือเหนือสุดลำดับที่ 5 (fifth northernmost pier) และ เหตุการณ์แผ่นดินไหว 921 ในวันที่ 21 กันยายน 2542

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

หลังจากรับประทานอาหารกลางวัน นำท่านชม โรงละครแห่งชาติไถจง (National Taichung Theater) ตั้งอยู่ในเขตซีถุน เมืองไถจง ถือเป็นพื้นที่จัดแสดงศิลปะขนาดใหญ่ ถูกออกแบบโดยสถาปนิกชาวญี่ปุ่นชื่อดัง โทโย อิโตะ (Ito Toyo) เจ้าของรางวัล Pritzker (รางวัลอันดับหนึ่งของวงการสถาปัตยกรรมโลก) ภายในอาคารประกอบด้วยโรงละคร 3 แห่ง รวมถึงพื้นที่อเนกประสงค์ “Corner Salon” และสวนลอยฟ้า (Rooftop Sky Garden) จึงทำให้โรงละครแห่งชาติไถจงสวยงาม มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร สำหรับใครที่อยากทำความรู้จักโรงละครแห่งชาติไถจง เราจะพาทุกคนมาชื่นชมความงาม และรู้จักแลนด์มาร์กของเมืองไถจงกันมากขึ้น

แรงบันดาลใจในการออกแบบโรงละครแห่งชาติไถจง ได้รับแนวคิดมาจาก “ถ้ำเสียง” (Sound Cave) ทำให้มีการออกแบบผนังโค้ง รู และท่อที่เป็นเอกลักษณ์ ก่อสร้างให้อาคารทั้งหลังไม่มีคานและเสารองรับ รวมถึงไม่มีจุดใดของกำแพงที่ทำมุมฉาก 90 องศา จึงทำให้ดีไซน์ของโรงละครแห่งนี้แตกต่างจากอาคารทั่วไป ภายหลังจากที่มีการก่อสร้างนานหลายปี ก็ถึงเวลาที่ทุกคนจะได้รับความสวยงามของโรงละครแห่งชาติไถจง ตื่นตาตื่นใจกับพื้นที่ศิลปะอันสวยงาม ตั้งแต่ด้านหน้าของโรงละครที่มี “Bottle the Art” รูปร่างคล้ายไหเหล้าทรงโค้ง แสงไฟยามค่ำคืนสาดส่องเผยความสง่างามและความอบอุ่น รวมถึงการแสดงอันน่าตื่นตาตื่นใจ ถือได้ว่าโรงละครแห่งชาติไถจง เป็นพื้นที่ศิลปะที่เปิดโอกาสได้ผู้คนได้รับแรงบันดาลใจ และพักผ่อนในครั้งเดียวกัน ช่วยฟื้นฟูวัฒนธรรมภาคกลางของไต้หวัน ให้กลับมาเป็นที่รู้จักและได้รับความสนใจอีกครั้ง

จากนั้นทำท่านเดินทางสู่ เมืองไถจง
 

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร **เมนูพิเศษ Moment in Beijing**

หลังรับประทานอาหารค่ำ นำท่านไปยัง Yizhong Night Market เป็นตลาดกลางคืนที่อยู่หลังโรงแรม Stay Hotel ทุกท่านสามารถเดินไปยังตลาดได้

จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักโรงแรมStay Hotel หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

หลังรับประทานอาหารเดินทางสู่ เมืองซินจู๋ นำท่านเข้าสู่ สวนสนุกลิโอฟู ภายในสวนสนุกลิ่วฝูชุน มี 4 โซนใหญ่ ให้นักท่องเที่ยวเล่นได้อย่างสนุกสนาน ประกอบด้วย ดินแดนอาหรับ ถนนคนเดินสไตล์อเมริกัน มหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ และอาณาจักรสัตว์ป่า

นอกจากนี้ยังมีการแสดงอันน่าตื่นตาตื่นใจ เครื่องเล่นต่าง ๆ รวมถึงจุดบริการอาหารและเครื่องดื่มอีกด้วย ทุกคนที่มาเยือนสวนสนุกแห่งนี้ จะได้รับประสบการณ์อันน่าตื่นเต้น และความสุขกลับไปแน่นอน

จากนั้นนำท่านช้อปปิ้งซื้อของฝากและ DIYพายสับปะรด นำท่านเดินทางไปยัง ร้านขนมพายสับปะรด ซึ่งเป็นร้านที่ได้รับการรับรองคุณภาพจากการท่องเที่ยวแห่งไต้หวัน ซึ่งขนมพายสับปะรด หรือ "เฟิ่งลี่ซู" เป็นขนมพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงของไต้หวัน มีลักษณะเป็นขนมอบขนาดเล็ก รูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส เปลือกนอกกรอบและเนยหอม ภายในบรรจุไส้สับปะรดหวานอมเปรี้ยว ขนมชนิดนี้ไม่เพียงแต่อร่อย แต่ยังมีความหมายมงคลในวัฒนธรรมไต้หวัน

เนื่องจากคำว่า "สับปะรด" ในภาษาฮกเกี้ยนออกเสียงว่า "อ๋องไหล" ซึ่งพ้องเสียงกับคำที่แปลว่า "โชคลาภกำลังมา" ทำให้ขนมพายสับปะรดเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดีและความเจริญรุ่งเรือง ขนมพายสับปะรดไม่เพียงแต่เป็นของฝากยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว แต่ยังมีบทบาทสำคัญในประเพณีและวัฒนธรรมไต้หวัน มักถูกใช้เป็นของขวัญในงานหมั้นหรือเทศกาลต่างๆ เพื่อสื่อถึงความปรารถนาดีและความเจริญรุ่งเรือง โดยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 เป็นต้นมา

เทศบาลกรุงไทเปได้จัดงาน "เทศกาลวัฒนธรรมขนมพายสับปะรด" ประจำปี เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมขนมพายสับปะรดของท้องถิ่น เมื่อมาเยือนไต้หวัน การลิ้มลองและซื้อขนมพายสับปะรดเป็นของฝาก ถือเป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด นอกจากจะได้สัมผัสรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังได้เรียนรู้ถึงความหมายและประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจของขนมชนิดนี้อีกด้วย และที่ร้านยังมีขนมและของฝากขึ้นชื่อของไต้หวันให้ได้เลือกซื้ออีกมากมา

หลังจากนั้นนำท่านชม ตึกไทเป101 คือสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของไต้หวัน ด้วยความสูงของตึกที่ 508 เมตร และจำนวนชั้นถึง 101 ชั้น ทำให้ตึกแห่งนี้เป็นตึกที่สูงที่สุดในโลกช่วงปี 2004-2010 แต่นอกจากความสวยงามและขนาดของตึกแล้ว สถาปัตยกรรมภายในก็ถูกออกแบบมาอย่างประณีตและสวยงามเช่นกัน มากกว่านั้นก็ได้มีการนำเทคโนโลยีต่างๆมาใช้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นลูกตุ้มยักษ์ที่ถูกแขวนอยู่ระหว่างชั้นที่ 87-92 ภายในตึก เพื่อเป็นตัวต้านแรงสั่นสะเทือนที่อาจเกิดจากพายุไต้ฝุ่นหรือแผ่นดินไหว หรือระบบลิฟต์ความเร็วสูงที่ใช้เวลาเพียง 37 วินาทีจากชั้น 1 ไปยังชั้น 89 ซึ่งเป็นชั้นสำหรับชมวิว ที่จะสามารถชมวิวของไทเปได้แบบพาโนราม่า พร้อมกับสกายบาร์ที่คุณสามารถเลือกซื้อเครื่องดื่มมาจิบชมพระอาทิตย์ตกได้อย่างเพลิดเพลินใจ หรือถ้าอยากจะเดินช้อป ที่นี่ก็มีร้านค้ามากมาย ให้ได้เดินช้อป ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์แฟชั่นชั้นนำ ร้านเสื้อผ้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์ หรือแม้กระทั่งร้านอาหารเลิศรสอีกหลากหลายที่สามารถเลือกรับประทานได้อย่างจุใจ

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

หลายคนรู้จักไต้หวันในนาม “สวรรค์ของนักชิมทั่วโลก” เพราะมีอาหารพื้นเมืองและอาหารจีนให้ได้ชิมกัน ด้วยรสชาติของอาหารที่อร่อยเข้มข้น แน่นทั้งเนื้อและเครื่องปรุง ทำให้อาหารไต้หวันติดโผ “สุดยอดเมนูเด็ด” ที่นักชิมจากทั่วโลกต้องมาลิ้มลอง !

นอกจากอาหารจะมีรสชาติอร่อยโดดเด่นแล้ว วัฒนธรรมการกินของคนไต้หวันก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตที่คนไต้หวันชอบไปตะลุยชิมอาหารอร่อย หนีไม่พ้น “ตลาดกลางคืนเหราเหอ” (Raohe Night Market) Street food ย่านดังแห่งเมืองไทเป

ตลาดกลางคืนไทเปแห่งนี้ เป็นตลาดที่เปิดมาอย่างยาวนาน ก่อตั้งเมื่อปี 1987 ถือเป็นแหล่งรวบรวมอาหารพื้นเมืองแสนอร่อยไว้มากมาย อีกทั้งยังเดินสะดวก ทำให้เราสามารถแวะซื้อของกิน พร้อมเดินเล่มชมวิวรอบ ๆ ตลาดได้อย่างเพลิดเพลินใจ หากใครกำลังมองหาตลาดกลางคืนไทเป เพื่อฝากท้องยามค่ำคืนแล้วล่ะก็ วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับเมนูเด็ดจากร้านชื่อดังในตลาดกลางคืนเหราเหอกัน

ตลาดกลางคืนไทเป : ร้าน Dongfahao Fried Rice Noodles ร้านแรก เอาใจคนรักเมนูเส้น พบกับร้าน Dongfahao Fried Rice Noodles ตั้งอยู่ในตลาดกลางคืนเหราเหอ ใครผ่านไปผ่านมาแถวตลาดเหราเหอ เป็นต้องแวะมาชิมความอร่อยของเมนูวุ้นเส้นหอยนางรมแสนอร่อย จากร้าน Dongfahao ซึ่งร้านนี้เป็นร้านที่เปิดให้บริการมานานหลายปี จำหน่ายเพียง 3 เมนูเท่านั้น ทั้งเมนูวุ้นเส้น ซุปเนื้อ และบ๊ะจ่าง (Taiwanese Sticky Rice) ด้วยรสชาติที่อร่อยเข้มข้น และสูตรเฉพาะของทางร้าน จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชิมความอร่อยกันอย่างไม่ขาดสาย หากใครอยากสัมผัสความอร่อยด้วยตัวเอง อย่าลืมทั้ง 3 เมนูที่ร้านนี้ล่ะ รับรองว่าอร่อยจนคุณประทับใจแน่นอน

ค่ำ อิสระรับประทานอาหารค่ำตามอัธยาศัย แนะนำร้าน ฝูโจ่วซาลาเปาอบโอ่ง – ร้านกระดูกหมูชิ้นโต ตุ๋นยาจีน – A KUO LU WEI

หลังรับประทานอาหารค่ำ นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักโรงแรม Midtown Richardson หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

หลังรับประทานอาหารเช้า จากนั้นเดินทางสู่ร้าน COSMETICS SHOP ที่มีสินค้าให้ท่านเลือกสรรมากมายเพื่อเป็นของฝากให้คนที่ท่านรัก และนำท่านชม อุทยานธรณีเกาะเหอผิง (Heping Island Geopark) เกาะเหอผิง ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของไต้หวัน มีสะพานเหอผิงเชื่อมต่อระหว่างเกาะเหอผิงและเมืองจีหลง มีปราสาทซานซัลวาดอร์ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ สร้างขึ้นโดยกองทัพสเปน เตรียมพร้อมสำหรับการทำธุรกิจกับจีนและญี่ปุ่น เป็นปราสาทแห่งแรกและแห่งเดียวในเมืองจีหลง ที่สวยงามและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวในไต้หวันนอกจากเกาะเหอผิงจะเหมาะสำหรับการดำน้ำแล้ว ที่นี่ยังมีหินและชายหาดรูปร่างต่างๆมากมายที่เกิดขึ้นจากการกัดเซาะของลมและน้ำทะเล ทำให้เมืองจีหลงแต่งตั้งให้เกาะเหอผิงเป็นอุทยานธรณีที่มีความสำคัญ ให้ความรู้สึกเหมือนเหมือนได้ไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะริมทะเล

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารอาเหมย

หลังจากรับประทานอาหารกลางวัน นำท่านชม หมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่น ในอดีตจิ่วเฟิ่นเคยเต็มไปด้วยเหมืองทอง จนมีฉายาว่า “เมืองภูเขาทองคำ” เนื่องจากคนงานเหมืองหลั่งไหลเข้ามา จึงทำให้ชุมชนเจริญรุ่งเรืองขึ้น แต่เมื่ออุตสาหกรรมเหมืองทองเริ่มซบเซา ชุมชนก็เงียบเหงาลงมาก ช่วงพ.ศ. 2523 ภาพยนตร์เรื่อง A City of Sadness ได้มาถ่ายทำในจิ่วเฟิ่น วิวสวยงามของทะเลและภูเขา รวมทั้งบ้านเรือนแบบโบราณ และภูมิประเทศลาดชันอันเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงมีการจัดแสดงโบราณวัตถุที่ได้รับการรักษาไว้เป็นอย่างดี ทำให้จิ่วเฟิ่นกลายเป็นหนึ่งในเมืองภูเขาที่นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศหลงใหล

เพลิดเพลินไปกับบรรดาร้านค้า ในตรอกซอกซอยจิ่วเฟิ่น ถนนโบราณจิ่วเฟิ่นทอดยาวไปตามเนินเขา เต็มไปด้วยร้านค้ามากมายบนถนนแคบ ๆ ทุกซอกมุมอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของอาหารพื้นเมือง หากคุณมาเยือนจิ่วเฟิ่น อย่าพลาดที่จะลิ้มลองอาหารทานเล่นสุดคลาสสิกอย่าง บัวลอยเผือก ป้าหวัน (แป้งเหนียวนุ่มยัดไส้หมู ราดน้ำจิ้มรสหวานเผ็ด) เฉ่าอากุ้ย (แป้งสีเขียวยัดไส้คล้ายขนมเทียน) นอกจากอาหารแล้ว จิ่วเฟิ่นยังมีแหล่งชอปปิงหลากหลายให้นักท่องเที่ยวได้เลือกชอปอย่างจุใจ ทั้งของเล่นโบราณ และของที่ระลึกสุดพิเศษจากไต้หวัน นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจตรอกซอกซอย และชื่นชมความงามของจิ่วเฟิ่นได้จากมุมมองที่แตกต่างกัน

หลังจากนั้นนำทุกท่านชม ท่าเรือประมงเจิ้งปิน ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะเหอผิงเป็นท่าเรือประมงเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานสร้างขึ้นโดยชาวญี่ปุ่นในปี 2477 ในช่วงยุคอาณานิคมของญี่ปุ่น ที่นี่เป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน Zhengbin Fishing Port Color House เป็นจุดเช็คอิน IG ยอดนิยมใน Keelung บ้านสีรุ้ง 16 หลังถือเป็นจุดเช็คอินใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไต้หวัน

จากนั้นนำท่านเดินทางไปยังแหล่งช้อปปิ้ง ย่านซีเหมินติง หรือที่คนไทยเรียกว่า สยามสแควร์ไต้หวัน มีทั้งแหล่งเสื้อผ้าแบรนด์เนม สไตล์วัยรุ่น กระเป๋า ของฝากคนที่ท่านรัก รองเท้ายี่ห้อดังต่างๆ ซีเหมินติง (Ximending) เป็นย่าน ช้อปปิ้งที่มีชีวิตชีวาและเต็มไปผู้คนที่มาเลือกซื้อสินค้าต่างๆ ตั้งอยู่ในเขตว่านหัวของไทเป ในไต้หวัน พื้นที่นี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น "ฮาราจูกุแห่งไทเป" หรือ "ชิบูย่าแห่งไทเป" เนื่องจากเป็นศูนย์กลางของแฟชั่นและวัฒนธรรมวัยรุ่น พื้นที่นี้ได้รับการพัฒนาขึ้นในช่วงการปกครองของญี่ปุ่น โดยมีเป้าหมายให้เป็นศูนย์กลางความบันเทิง คล้ายกับย่านอาซากุสะในโตเกียว

เมื่อเดินเข้าสู่ซีเหมินติง คุณจะพบกับถนนคนเดินที่เต็มไปด้วยร้านค้าหลากหลาย ตั้งแต่บูติกแฟชั่นที่นำเสนอเสื้อผ้าและเครื่องประดับตามเทรนด์ล่าสุด ไปจนถึงร้านขายของที่ระลึกที่มีเอกลักษณ์ นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหาร คาเฟ่ และแผงขายอาหารริมทางที่นำเสนอเมนูท้องถิ่นและนานาชาติ ทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับประสบการณ์การช้อปปิ้งและได้เลือกลิ้มชิมอาหารที่หลากหลายของไต้หวัน

ค่ำ รับประทารอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร **เมนู MALA HOTPOT**

หลังรับประทานอาหาร นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักโรงแรม Midtown Richardson หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

หลังรับประทานอาหารเช้า นำท่านสู่ ร้านสร้อยสุขภาพ GERMANIUM ให้ท่านได้เลือกซื้อสร้อยสุขภาพ ซึ่งทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น

หลังจากนั้นนำทุกท่านชม อนุสรณ์สถานเจียงไคเชค อนุสรณ์สถานที่ตั้งอยู่ตรงใจกลางของเมืองไทเป ที่มีพื้นที่ 2,500 ตารางกิโลเมตรแห่งนี้ถูกตกแต่งและประดับเป็นอย่างดี โดยตัวอาคารของอนุสรณ์สถาน ถูกสร้างขึ้นมาตามแบบสถาปัตยกรรมจีนโบราณ บันไดทั้งสี่ด้านถูกสร้างด้วยหินอ่อนสีขาวเป็นขั้นตามแบบพีระมิดอียิปต์ หลังคาสีน้ำเงิน รวมทั้งยังมีสวนดอกไม้สีแดง ที่เป็นการแสดงออกทางสัญลักษณ์ให้เห็นถึงอิสรภาพ ความเท่าเทียม และความเป็นหนึ่งเดียอิสวกัน ตามสีของธงชาติไต้หวัน

เที่ยง อิสระ รับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัย

หลังจากรับประทานอาหารกลางวัน นำท่านชม วัดหลงซาน (Longshan Temple) วัดหลงซาน (Longshan Temple) ตั้งอยู่ในย่านว่านหัว ของกรุงไทเป ในไต้หวัน เป็นวัดพุทธที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทเป วัดนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2281 โดยผู้อพยพจากเมืองฉวนโจว มณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน พวกเขาได้นำองค์เจ้าแม่กวนอิมจากวัดหลงซานในเมืองอันไห่มาประดิษฐานที่นี่ เพื่อเป็นศูนย์กลางทางศาสนาและวัฒนธรรมของชุมชน

ในสมัยก่อนวัดนี้มีขนาดใหญ่และก่อสร้างด้วยความประณีต หลังจากเกิดพายุและแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี พ.ศ. 2358 วัดได้รับการบูรณะหลายครั้ง จนในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ปี พ.ศ. 2488 วัดถูกโจมตีทางอากาศ อาคารโถงกลางถูกทำลาย แต่รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมยังคงอยู่ ชาวบ้านเชื่อว่านี่คือปาฏิหาริย์และทำให้ความศรัทธาเจ้าแม่กวนอิมในไต้หวันแรงกล้ายิ่งขึ้น

วัดนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ผสมผสานความเชื่อทางศาสนาพุทธ เต๋า และขงจื๊อ โดยภายในวัดมีการประดิษฐานเทพเจ้าหลายองค์ที่ผู้คนเคารพนับถือ องค์ประธานของวัดคือพระโพธิสัตว์กวนอิม เทพแห่งความเมตตา ซึ่งเป็นศูนย์กลางแห่งศรัทธาของผู้มาเยือน นอกจากนี้ยังมีเทพเจ้าอื่นๆ ที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัด เช่น เจ้าแม่มาจู่ เทพธิดาแห่งท้องทะเลที่ชาวประมงและนักเดินทางทางน้ำให้ความเคารพ เทพเจ้ากวนอู เทพแห่งสงครามและความซื่อสัตย์สุจริต เทพเหวินชาง เทพแห่งวรรณกรรมที่นักเรียนและนักวิชาการกราบเพื่อความสำเร็จในการศึกษา และเทพเยว่เหล่า หรือที่รู้จักกันในนามเทพเจ้าด้ายแดง เทพแห่งการจับคู่และความรัก ที่ผู้คนมักมาขอพรเพื่อความสมหวังในความรัก

การมีเทพเจ้าหลากหลายในวัดหลงซานสะท้อนถึงความหลากหลายและการผสมผสานของความเชื่อทางศาสนาในไต้หวัน ทำให้วัดนี้เป็นสถานที่ที่ผู้คนสามารถมาขอพรและสักการะเทพเจ้าต่างๆ ตามความเชื่อและความศรัทธาของแต่ละบุคคล ทั้งได้สัมผัสกับวัฒนธรรมพื้นบ้านดั้งเดิม นับเป็นประสบการณ์ทางธรรมที่ท่านหาได้ยากในปัจจุบัน

หลังจากนั้นนำทุกท่านไปยัง ตลาดหัวซี หรือที่หลายคนเรียกกันว่า ตรอกงู อยู่ใกล้กับวัดหลงซาน เป็นตลาดกลางคืนที่มีสินค้าหลากหลายประเภท และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ตลาดกลางคืนหัวซี ถือได้ว่าเป็นตลาดขนาดใหญ่ เมื่อรวมเข้ากับตลาดกลางคืนแห่งอื่นบนถนนก่วงโจวไปจนถึงถนนซีชาง ทางเข้าของตลาดกลางคืนหัวซี จะประดับไปด้วยเสาไฟแบบจีนโบราณ มีโคมไฟจีนห้อยอยู่ตามถนนตลอดทั้งสาย โดยถนนทั้งสายนั้นเต็มไปด้วยร้านอาหารมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ซุปเนื้อ ซุปปลาหมึก น้ำแข็งไส น้ำผลไม้คั้นสด และอาหารจีนสูตรต้นตำรับ ดึงดูดนักชิมให้มาลิ้มลองอาหารพื้นเมืองแสนอร่อยของที่นี่

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ GLORIA OUTLET เป็นเอาท์เล็ทมอลล์กลางแจ้งขนาดใหญ่ในเมืองเถาหยวน ไต้หวัน ซึ่งถือเป็นแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่ต้องการซื้อสินค้าแบรนด์เนมในราคาส่วนลด ตัวศูนย์การค้าออกแบบสไตล์หมู่บ้านอเมริกัน ผสมผสานกับภูมิทัศน์ที่สวยงามและบรรยากาศผ่อนคลาย เหมาะแก่การเดินเล่นช้อปปิ้ง และพักผ่อนตลอดทั้งวัน ใน Gloria Outlet มีร้านค้ามากกว่า 285 ร้าน ครอบคลุมแบรนด์ระดับโลก เช่น Armani, Coach, Jimmy Choo, Loewe และ Valentino รวมถึงร้านอาหารและคาเฟ่หลากหลายให้เลือก ทั้งแบบท้องถิ่นและนานาชาติ ทำให้ Gloria Outlets เป็นจุดหมายยอดนิยมของทั้งนักช้อปและครอบครัว

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ตามอัธยาศัย

ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ สนามบินเถาหยวน

22.40 น. ออกเดินทางกลับสู่ ประเทศไทย โดยสายการบิน ไชน่าแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ CI 837

01.25 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
 

หมายเหตุ

**โปรแกรมการเดินทางและมื้ออาหารที่ระบุในโปรแกรม อาจจะมีการสลับปรับเปลี่ยนขึ้นอยู่กับความเหมาะสมเป็นหลัก รบกวนแจ้งเซลล์ก่อนทำการจองทุกครั้งเพื่ออัพเดทโปรแกรม ณ ปัจจุบัน ในวันนั้นๆโดยจะคำนึงถึงประโยชน์ของผู้เดินทางเป็นสำคัญ**

***ในกรณีที่ลูกค้าต้องออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (เครื่องบิน ,รถทัวร์ ,รถไฟ) กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ เพื่อเช็คว่ากรุ๊ปมีการคอนเฟิร์มเดินทางก่อนทุกครั้ง เนื่องจากสายการบินอาจมีการปรับเปลี่ยนไฟล์ทบิน หรือเวลาบิน โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทางบริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใด ๆ ในกรณี ถ้าท่านออกตั๋วภายในโดยไม่แจ้งให้ทราบและหากไฟล์ทบินมีการปรับเปลี่ยนเวลาบิน เพราะถือว่าท่านยอมรับในเงื่อนไขดังกล่าว***