04.00 น. คณะพร้อมกัน ณ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศชั้น 3 ประตู 1 สนามบินนานาชาติดอนเมือง เคาน์เตอร์สายการบิน AIR ASIA (FD) พบเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก

07.00 น. ออกเดินทางสู่ เมืองฮานอย โดยสายการบิน AIR ASIA (FD) โดยเที่ยวบินที่ FD642 (07.00-08.45)

ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1.45 ชั่วโมง (ไม่มีบริการอาหารบนเครื่อง)
 

08.45 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติโหน่ยบ่าย ประเทศเวียดนาม (เวลาท้องถิ่นที่เวียดนามเท่ากับประเทศไทย)

หลังผ่านด่านตรวจตนเข้าเมืองแล้ว

นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองลาวไก (Lao Cai) ระยะทาง 245 กิโลเมตร ระหว่างทางทุกท่านจะได้ชมวิวทิวทัศน์ที่งดงามของประเทศเวียดนาม

ผ่านชม ตลาดชายแดน (Coc Leu) และแวะถ่ายรูปเป็นที่ระลึกบริเวณ หน้าด่านชายแดนเวียดนาม-จีน

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองซาปา (Sapa) ตั้งอยู่ในจังหวัดลาวไก สูงจากระดับน้ำทะเล 1,650 เมตร อากาศหนาวเย็นตลอดปี ทำให้เพาะปลูกพืชผักผลไม้เมืองหนาวได้ดี เป็นดินแดนแห่งขุนเขา มีความหลากหลายของชาติพันธุ์มากที่สุดในประเทศเวียดนาม และยังมีการทำนาขั้นบันไดมากมายท่ามกลางลาดไหล่เขาที่ทอดตัวอย่างสวยงาม ในอดีตเมืองซาปาเคยถูกให้สร้างขึ้นเป็นเมืองตากอากาศสมัยที่ชาวฝรั่งเศสเข้ามาปกครองในปีพ.ศ.2465

บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
 

นำท่านเดินทางสู่ โบสถ์หินซาปา (Sapa Stone Church) เป็นอีกหนึ่งจุดแลนด์มาร์คของเมืองซาปา เป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองซาปา สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1932 ในรูปทรงและสถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้นโดยชาวฝรั่งเศส เนื่องจากครั้งที่เป็นเมืองอาณานิคม มีชาวฝรั่งเศสมาอาศัยอยู่เมืองซาปาจำนวนมาก จึงเป็นโบสถ์สำคัญของเมืองนี้ที่ใช้ในการร่วมพิธีมิสซา ถึงแม้ว่าในตอนนี้ชาวฝรั่งเศสจะย้ายกลับไปแล้ว แต่โบสถ์แห่งนี้ก็ได้รับการอนุรักษ์เอาไว้เป็นอย่างดีและชาวซาปาที่เป็นคาทอลิคก็ยังคงใช้งานอยู่จนปัจจุบัน

บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร พิเศษ!!...สุกี้แซลบ่อน 

หลังรับประทานอาหารนำท่านเดินทางสู่ ถนนคนเดินซาปา (ใจกลางเมืองซาปา) ชมสินค้าท้องถิ่น ร้านอาหาร รวมถึงของใช้ต่างๆ ให้ท่านได้เลือกชมมากมาย

พักที่ PISTACHIO HOTEL หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน

บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ สถานีรถไฟ Sun Plaza ให้ท่าน นั่งรถรางเมืองซาปา ระบบรถรางไฟฟ้าขึ้นเขาจากสถานีรถไฟสู่สถานีกระเช้า Hoang Lien เพื่อขึ้น ยอดเขาฟานซีปัน โดยมีความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร ด้วยความเร็ว 10 เมตร ต่อวินาที สัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติของ หุบเขาเมืองฮวา ระหว่างสองข้างทาง

เมื่อถึงสถานีกระเช้าแล้วนำท่านนั่ง กระเช้าไฟฟ้า เพื่อขึ้นสู่ยอดเขาฟานซีปันยอดเขาสูงสุดแห่งเวียดนาม อิสระให้ท่าน ไหว้พระวัดฟานซิปัน ถ่ายรูป ชมบรรยากาศ วิวทิวทัศน์ บนเขาฟานซิปัน ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในเทือกเขาฮวงเหลียนเซิน ( Hoang Lien Son ) และในภูมิภาคอินโดจีนจนได้รับการกล่าวขานว่าเป็น “หลังคาแห่งอินโดจีน” บนความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 3,143 เมตร ยอดเขาฟานซีปัน มีทิวทัศน์ด้านบนสวยงามและมีอากาศเย็นสบาย สามารถมองเห็นวิวนาขั้นบันไดล้อมรอบด้วยภูเขาแบบสุดลูกหูลูกตาเลยทีเดียว เรียกได้ว่าสวยงามยิ่งราวกับสวรรค์บนดิน จากจุดกระเช้าไฟฟ้า ท่านสามารถเลือกเส้นทางขึ้นไปถึงยอดเขาได้ 2 เส้นทาง โดยท่านสามารถเดินขึ้นบันไดต่อไปประมาณ 600 ขั้น เพื่อพิชิตยอดเขา หรือ ท่านสามารถซื้อตั๋วขึ้นรถรางโมโนเรลสู่ยอดเขาได้เช่นกัน

(ไม่รวมในราคาทัวร์ ค่าตั๋วรถรางโมโนแรลโดยประมาณ 800  บาท/ท่าน ราคาท้วร์รวมค่าตั๋วรถรางจากสถานีรถไฟ SUN PLAZA สู่ สถานีกระเช้า Hoang Lien และค่าตั๋วขึ้นกระเช้าไฟฟ้าจากสถานีกระเช้า Hoang Lien แล้ว)

ราคารวม

จุดที่1 ค่าตั๋วรถไฟจาก สถานีรถไฟ SUN PLAZAZA สู่ สถานึกระเข้าไฟฟ้า Hoang Lien

จุดที่ 2 ค่าตั๋วกระเช้าไฟฟ้า Hoang Lien สู่ สถานี Fansipan

ราคาไม่รวม

จุดที่ 3 คำาตั๋วรกรางไมในเรล จากสถานี Fansipan สู่ ยอดเขาฟานซีปัน ค่าตัวรถรางไมโนเรลโดยประมาณ 800 บาท/ท่าน

หมายเหตุ : กรณีที่กระเช้าไฟฟ้าฟานซิปั้นเปิดให้บริการตามปกติ ไม่มีการประกาศ แจ้งปิดปรับปรุง ณ วันเดินทางหากกระเช้าไฟฟ้าฟานซีปัน มีการปิดปรับปรุง กระท้นหัน โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทางบริษัทฯจะทำการ คืนเงินค่ากระเช้าให้ หน้างาน ท่านละ 1,000 - บาทในกรณีที่ไม่ได้ขึ้นกระเช้าฟานซีปัน

บริการอาหารกลางวันแบบบุฟเฟต์นานาชาติ

นําท่านชม หมู่บ้านชาวเขากั๊ตกั๊ต (Cat Cat Village) เป็นหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้งเก่าแก่แห่งเมืองซาปาซึ่งอพยพมาจากทางตอนใต้ของประเทศจีนเมื่อนานมาแล้ว โดยชาวบ้านที่นี่ยังอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรม และการดํารงชีวิตในแบบดั้งเดิมเอาไว้อย่างเหนียวแน่น เช่น นิยมแต่งกายด้วยผ้าทอมือสีดําหรือนํ้าเงินเข้ม การมาที่หมู่บ้านแห่งนี้ไม่เพียงแต่ได้พบกับวิถีชีวิตชาวเขาเท่านั้น กิจกรรมที่ต้องไม่พลาด คือ การเดินไปชมนาขั้นบันไดและวิวสวย ๆ ในมุมสูงของภูเขา ที่เป็นไฮไลท์ของการมาเที่ยวซาปา

จากนั้นนำสู่ โมอาน่า ซาปา คาเฟ่ (MOANA SAPA CAFÉ) จุดเช็คอินแห่งใหม่ของเมืองซาปา มีการสร้างสถาปัตยกรรมที่คล้ายกับ ประตูสวรรค์ที่บาหลี ให้ท่านได้ถ่ายรูปเก๋ ๆ กับมุมน่ารัก ๆ เช่น บันไดมือ มุมเล่นชิงช้า มุมเล่นเปียโน หรือ โซนนั่งพักบนต้นไม้ที่ สามารถมองวิวได้จากมุมสูง เมื่อมอง ออกไปจะเห็นเป็นวิวภูเขาอันสวยงาม นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มต่างๆจำหน่ายให้ได้ลิ้มลองรสชาติกาแฟเวียดนาม อิสระให้ท่านเก็บภาพบรรยากาศสุดฟินตามอัธยาศัย (ราคาทัวร์ไม่รวมค่าอาหารและเครื่องดื่ม)

บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

พักที่ PISTACHIO HOTEL หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน

บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม (6)

นำท่านเดิบทางสู่ เมืองฮานอย (Hamo) (ใช้เวลาในการเก็บทางกลับสู่ฮายอยประมาณ 4 ชั่วโมง)

ระหว่างทางบ้าท่านท่านแวะ ร้านเพื่อไผ่ ผลิกภัณฑ์ที่ทำมามาจากเชื่อไม่ ตัดแปลงให้เป็นสิ่งของที่สามารถนำมาใช้ใดในชีวิตประจำวัน เช่น ถุงเท้า ผ้าเช็ด จาน หมวกเช็ดผม ผ้าตันคอ แปรงสีฟัน เป็นกัน อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าเพื่อเป็นของฝ่าถกับทางบ้าน

บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร 

นําท่านชม วัดเฉินก๊วก (Tran Quoc Pagoda) ตั้งอยู่บนเกาะกลางทะเลสาบ วัดนี้มีประวัติยาวนานกว่า 1500 ปี ถือเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในฮานอย เป็นสถานที่ศักด์ิสิทธ์ิแหล่งที่ชาวพุทธจำนวนมากมาท่องเที่ยวและกราบไหว้ และมีนักท่องเที่ยวทั้งจากต่างประเทศในเวียดนาม เจดีย์นี้สร้างขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 544-548 เจดีย์เฉินก๊วกตั้งอยู่บนเกาะของทะเลสาบนํ้าจืดที่ใหญ่ที่สุดในฮานอยนั่นคือ ทะเลสาบตะวันตก เป็นทะเลสาบน้ำจืด และสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงใจกลางกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ปัจจุบัน ะเลสาบฮหว่านเกี๊ยมกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแบบพักผ่อนหย่อนใจของชาวฮานอย โดยมีการสร้างเป็นสวนสาธารณะล้อมรอบ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวมีชื่อเสียงอีกแห่งของฮานอย ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวเยี่ยมชมและถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก

นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบคืนดาบ หรือเรียกอีกชื่อ หนึ่งว่า ทะเลสาบฮวาเกี๋ยม (Hoan Kiem) เป็นทะเลสาบน้ำจืด อยู่ในพื้นที่ที่เป็นเขตเมืองเก่า มีตำนานเล่าขานกันถึงสถานที่แห่งนี้ในศตวรรษที่ 15 จักรพรรดิ เล เหล่(Le Loi) ได้รับดาบวิเศษจากสวรรค์และใช้ดาบนั้นต่อสู้ขับไล่ชาวจีนแห่งราชวงศ์หมิงที่เข้ามารุกราน ในขณะที่พระองค์ประทับบนเรือ ณ ทะเลสาบอยู่นั้น ก็มีตะพาบยักษ์ตัวหนึ่งโผล่ขึ้นมาจากผิวน้ำและบอกให้พระองค์ส่งดาบนั้นกลับคืนแด่เจ้ามังกร ดาบนั้นก็ได้พุ่งออกมาจากฝักดาบเข้าไปในปากของตะพาบก่อนที่จะหายกลับลงไปสู่ใต้ผิวน้ำ อันเป็นที่มาของชื่อ ทะเลสาบคืนดาบ กลางทะเลสาบมีสะพานสีแดงสดที่ชื่อว่า สะพานเทฮุก เชื่อมไปยังวัดหง็อกเซินที่อยู่กลางน้ำ นอกจากนี้กลางทะเลสาบค่อนมาทางทิศใต้มี หอคอยเต่า มีลักษณะคล้ายเจดีย์โบราณทรงสี่เหลี่ยม เชื่อกันว่าหากใครได้เห็นเต่าในทะเลสาบคืนดาบจะมีโชค

นำท่านสู่ ถนน 36 สาย (The Old Quarter’s 36 Street) ที่มาของชื่อ ถนน 36 สาย นั้นมาจาก 36 อาชีพอันเก่าแก่ที่มาค้าขายกันในย่านนี้แม้ว่าจะมากไปด้วยความเก่าแก่ แต่ถนนสายนี้กลับคึกคักไปด้วยผู้คนหลากหลายเชื้อชาติที่ต่างพร้อมใจกันมุ่งหน้ามาจับจ่ายใช้สอยสินค้านานาชนิด โดยถนนแต่ละสายก็จะขายของที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่นขายรองเท้าถนนสายนั้นก็จะขายรองเท้าตลอดสาย ขายของที่ระลึกก็ขายของที่ระลึกตลอดสาย เป็นต้นแต่ปัจจุบันถนนแต่ละสายจะขายสินค้าคละกันไปมีทั้งของกิน เสื้อผ้า และของที่ระลึกที่เป็นทั้งผ้าไหม กระเป๋า หรือเครื่องเงินที่มีลวดลายปราณีตสวยงามมากมาย อิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย

บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร (8)

พักที่ WESTERN SKYLINE HOTEL หรือเทียบเก่าระดับเดียวกัน

บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ สุสานโฮจิมินห์ (ถ่ายรูปด้านนอก) สุสานแห่งนี้ตั้งอยู่ที่จัตุรัสบาดิงห์ เป็นจัตุรัสที่อยู่กลางเมืองที่มีประวัติศาสตร์เกี่ยวข้องกับประธานาธิบดีโฮจิมินห์ หลังจากที่ท่านประธานาธิบดีเสียชีวิต 4 ปี ให้ทุกท่านได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกบริเวณด้านนอกสุสานโฮจิมินห์ตามอัธยาศัย

นำท่านสู่ เจดีย์เสาเดียว (One Pillar Pagoda) เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมเป็นเอกลักษณ์ สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าลีไทตง เมื่อปี พ.ศ. 1592 วัดโบราณแห่งนี้สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมที่น่าประทับใจและเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก นี่คือวัดรูปทรงดอกบัวตั้งอยู่กลางน้ำ ว่ากันว่าถูกสร้างขึ้นเพื่อถวายเจ้าแม่กวนอิมที่ท่านได้ให้พระโอรสแก่พระเจ้าหลีไทตง ชาวเมืองเลยนิยมมาขอพรให้ได้ลูกชาย

บริการอาหารกลางวัน (BUN CHA HANOI) 

จากนั้นนำท่านสู่ ถนนรถไฟฮานอย (Hanoi Train Street) เป็นหนึ่งชุมทางรถไฟที่มีอายุกว่า 100 ปีวิ่งผ่าน บริเวณโดยรอบจะมีร้านค้ารวมไปถึงร้านกาแฟมากมายเปิดให้บริการ และให้ท่านได้ถ่ายรูปคู่กับรถไฟใกล้ ๆ

บริการขนมปังสไตล์เวียดนาม (BANH MI) 

ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่สนามบินนานาชาติโหน่ยบ่าย เพื่อเดินทางกลับสู่ประเทศไทย

20.55 น. เดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดย สายการบิน AIR ASIA (FD) เที่ยวบินที่ FD645 (20.55-22.45)

(ไม่มีบริการอาหารบนเครื่อง) ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1.45 ชั่วโมง

22.45 น. คณะเดินทางถึง สนามบินนานาชาติดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ และความประทับใจ...
 

หมายเหตุ

**โปรแกรมการเดินทางและมื้ออาหารที่ระบุในโปรแกรม อาจจะมีการสลับปรับเปลี่ยนขึ้นอยู่กับความเหมาะสมเป็นหลัก รบกวนแจ้งเซลล์ก่อนทำการจองทุกครั้งเพื่ออัพเดทโปรแกรม ณ ปัจจุบัน ในวันนั้นๆโดยจะคำนึงถึงประโยชน์ของผู้เดินทางเป็นสำคัญ**

***ในกรณีที่ลูกค้าต้องออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (เครื่องบิน ,รถทัวร์ ,รถไฟ) กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ เพื่อเช็คว่ากรุ๊ปมีการคอนเฟิร์มเดินทางก่อนทุกครั้ง เนื่องจากสายการบินอาจมีการปรับเปลี่ยนไฟล์ทบิน หรือเวลาบิน โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทางบริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใด ๆ ในกรณี ถ้าท่านออกตั๋วภายในโดยไม่แจ้งให้ทราบและหากไฟล์ทบินมีการปรับเปลี่ยนเวลาบิน เพราะถือว่าท่านยอมรับในเงื่อนไขดังกล่าว***