21.00 น. พร้อมกันที่ ณ ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศขาออก ชั้น 3 เคาน์เตอร์สายการบิน AIR ASIA X (XJ) มีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยอำนวยความสะดวกก่อนขึ้นเครื่อง

01.00 น. เดินทางสู่ ประเทศญี่ปุ่น โดยสายการบิน AIR ASIA X (XJ) เที่ยวบินที่ XJ612 (ค่าทัวร์ไม่รวมค่าอาหารบนเครื่อง บนเครื่องมีจำหน่าย)

08.50 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ ประเทศญี่ปุ่น (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง กรุณาปรับนาฬิกา ของท่านเป็นเวลาท้องถิ่น เพื่อความสะดวกในการนัดหมาย) นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร สำคัญ!!! ประเทศญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศ หากฝ่าฝืนจะมีโทษจับและปรับ

นำท่านเดินทางสู่ โอซาก้า (Osaka) (เดินทางโดยประมาณ 30 นาที) เป็นเมืองสำคัญทางประวัติศาสตร์ ทั้งการค้าและวัฒนธรรม มีสมญาว่า “ครัวของชาติ”

อิสระท่องเที่ยว หมู่บ้านท่าเรือเทมโปซาน (Tempozan Harbor Village) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวริมน้ำที่มีชื่อเสียงในโอซาก้า จะเดินเล่นถ่ายรูปชิลๆ กับสวนดอกไม้และวิวอ่าวโอซาก้าก็สวยสุดๆ หรือจะช้อปปิ้งก็มีร้านค้า เสื้อผ้า ร้านขายของฝากและร้านอาหารต่างๆ เช่น สเต็ก อาหารทะเล พาสต้า อาหารจีน และอาหารญี่ปุ่นประเภท ซูชิ อุด้ง โอโคะโนะมิยากิ(พิซซ่าญี่ปุ่น) เป็นต้นที่คอยให้บริการ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมขึ้นชื่อมากมาย ทั้งการนั่งชิงช้าชมวิว พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีชื่อเสียงหรือกิจกรรมอื่นๆ (ค่าทัวร์ไม่รวมค่ากิจกรรมต่างๆ บริเวณ Tempozan Harbor Village)

เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง  เมนูพิเศษ บุฟเฟ่ต์นานาชาติ

ให้ท่านเช็คอินจุดไฮไลท์ของเมืองโอซาก้า ถ่ายภาพด้านหน้ากับ ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่พำนักของโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ผู้รวมญี่ปุ่นให้เป็นหนึ่งเดียว ใช้เวลาก่อสร้างยาวนานกว่า 16 ปี เป็นปราสาทขนาดใหญ่ที่กลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของญี่ปุ่น (ค่าทัวร์ไม่รวมค่าเข้าปราสาท)

Highlight! เมนูบุฟเฟต์นานาชาติที่ถูกคัดสรรอย่างใส่ใจ มีให้เลือกมากมายหลากหลายเมนูทั้งคาวหวาน รวมไปถึงผลไม้ ที่น่าลิ้มลองทุกเมนู

เดินทางสู่ เกียวโต (Kyoto) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) มีความสำคัญในฐานะอดีตเมืองหลวงที่รุ่งเรืองอย่างยาวนานร่วมหนึ่งพันปี เป็นเสมือนจุดกำเนิดของความเป็นญี่ปุ่นที่ทุกคนรู้จัก ทั้งวัดวาอารามศาลเจ้าเก่าแก่ เกอิชา และย่านเมืองเก่าที่เรียงรายด้วยบ้านเรือนไม้ เพลิดเพลินไปกับถนนสำหรับคนรักชาเขียวที่

ถนนชาเขียวเบียวโดอิน โอโมเตะซันโด (Byodo-in Omotesando) เป็นถนนสายเส้นเล็กๆ ตั้งอยู่หน้าวัด และตลอดสองข้างทางจะเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่ต่างๆ มากมาย ที่จะเสิร์ฟเมนูที่มีส่วนผสมหลักคือ ชาเขียวอุจิ ซึ่งเป็นชาเขียวที่มีชื่อเสียงของเมืองและดึงดูดผู้ที่หลงรักชาเขียวจากทั่วโลกมาลิ้มลองชาจากย่านนี้

Highlight! กินตามรีวิว!! ร้าน Nakamura Tokichi คือร้านที่เขาว่าชาเขียวดีที่สุดในญี่ปุ่น ที่นี่เปรียบเสมือนสวรรค์ของคนรักชาเขียวเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นเมนู ชาเขียวมัทฉะลาเต้ ซอฟต์ครีมมัทฉะ พาร์เฟต์มัทฉะ เค้กมัทฉะ ดังโงะมัทฉะ ก็น่าลองไปหมด

หรืออิสระเดินเล่น วัดเบียวโดอิน (Byodoin Temple) มีสถาปัตยกรรมแบบโจโดที่สวยงามและโดดเด่นอย่างมาก เป็นวัดที่ถูกทำลายและได้ถูกรักษาบูรณะซ่อมแซมให้กลับมาดูดี และที่นี่มีสวนที่สวยงามสไตล์ญี่ปุ่นที่ถูกออกแบบให้มีความสงบ สวยงามและผ่อนคลาย (ค่าทัวร์ ไม่รวมค่าเข้าวัดและชมวิหาร)

พาทุกท่านไปตะลุยช้อปปิ้งที่ Mitsui outlet Park Shiga Ryuo หนึ่งเอาท์เลตที่มีใหญ่มาก และเป็นที่นิยมอย่างมาก ด้วยจำนวนร้านค้าที่มีกว่า 230 ร้าน ทั้งแบรนด์เสื้อผ้าเด็กจนถึงผู้ใหญ่ รองเท้า และเครื่องประดับมากมาย จึงยกให้เป็นเอาท์เลตที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ซึ่งรวมทั้งแบรนด์ดัง แบรนด์หรูมากมายทั้งในและต่างประเทศ ในส่วนกลางห้างยังมีพื้นที่สำหรับนั่งเล่น อีกทั้งยังมีร้านอาหาร ศูนย์อาหาร ร้านซูชิ ร้านราเมน หรือร้านอาหารตะวันตกก็มีให้เลือกมากมาย ท่านสามารถรับประทานอาหารเย็นได้ที่นี่

เย็น อิสระอาหารเย็น ตามอัธยาศัย เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาของท่าน

เดินทางสู่ จังหวัดกิฟุ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่มีธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ พื้นที่ส่วนใหญ่ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาและแม่น้ำ อีกทั้งยังมีวัฒนธรรมโบราณที่สืบทอดต่อกันมา บ้านทรงโบราณที่ยังคงหลงเหลืออยู่มาจนถึงปัจจุบัน เป็นเมืองที่มีเสน่ห์ในตัวเองอย่างมาก

ที่พัก: Koyo Hotel 3* หรือระดับใกล้เคียงกัน (ชื่อโรงแรมที่ท่านพัก ทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วัน ก่อนเดินทาง)

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม 

เยี่ยมชมหมู่บ้านมรดกโลกของญี่ปุ่น หมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยบ้านเรือนที่มีอายุเก่าแก่กว่า 200-300 ปี จุดที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาชิราคาวาโกะ คือบ้านเก่าแก่ประจำหมู่บ้านอย่าง Wada House หรือ Kanda House ที่ถือว่าเป็นบ้านทรงกัสโซ่แบบโบราณที่อนุรักษ์เอาไว้จวบจนปัจจุบันอันเป็นสมบัติของชาติ และพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงวิถีชีวิตการเป็นอยู่ของคนในหมู่บ้าน นอกจากชิราคาวาโกะจะมีบ้านเก่าแก่ดั้งเดิมของญี่ปุ่นให้เราได้เดินชม ก็ยังมีบ้านหลายๆ หลังที่เปิดเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก อิสระถ่ายภาพตามอัธยาศัย

Highlight! บ้านทรงกัสโซ่ หรือ กัสโซซึริคุ คือบ้านหลังคาสามเหลี่ยมสูง ตัวบ้านไม่มีการตอกตะปู แต่ใช้วิธีการเข้าไม้ เข้าลิ่ม เข้าเดือย ใช้การมัดแทน

เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง 

ให้ท่านเดินเล่นบนเส้นทางศึกษาธรรมชาติพร้อมถ่ายรูปสุดชิคกันที่ คามิโคจิ (Kamikochi) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง)เป็นที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการพักผ่อน สายรักธรรมชาติ หรือสายคอนเทนต์ที่จะได้ภาพที่สวยงามอวดลงโซเชียล ที่นี่ถือเป็นสถานที่สวยงามมีแม่น้ำอาซุสะ (Azusa River) สายสำคัญและน้ำที่ใสแจ๋ว พร้อมเทือกเขาอลังการอย่าง Japan Alps ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น สวิตเซอร์แลนด์แดนญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ และอย่าลืม ไฮไลท์สะพานคัปปะ (Kappa Bridge) ที่ใครมาก็ต้องแวะ

**กรณีที่ไม่สามารถไปเที่ยวชม คามิโคจิได้ เนื่องจาก สถานที่ยังไม่เปิดให้บริการ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ รวมไปถึงรัฐบาลประกาศสั่งปิด หรือเหตุขัดข้องอื่นใดก็ตาม ทั้งนี้ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ปรับเปลี่ยนสถานที่ท่องเที่ยวไปเช็คอินเมืองเก่าอายุกว่า 100 ปีที่ ย่านเมืองเก่าทาคายาม่า (Takayama Old Town) ย่านที่เต็มไปด้วยอาคารบ้านไม้โบราณและได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีจนถึงทุกวันนี้ เดินชม หมู่บ้าน LITTLE KYOTO หรือย่านซันมาชิซูจิ (Sanmachi-Suji) เป็นเขตเมืองเก่าที่มีการอนุรักษ์บ้านเรือนในสมัยเอโดะที่มีอายุกว่า 300 ปี ไว้ได้เป็นอย่างดี การสร้างบ้านสไตล์ญี่ปุ่นแท้ ใช้เฉพาะโทนสีน้ำตาลหรือสีดำเท่านั้น ในปัจจุบันนี้ถ้าใครจะสร้างบ้านหลังใหม่ก็จะต้องใช้แค่ 2 สีนี้เท่านั้น เพื่อไม่ให้โดดหรือดูแปลกแยกออกมาจากบ้านหลังอื่น ย่านนี้มีร้านค้าหลากหลาย เช่น ร้านผลิตและจำหน่ายเหล้าสาเก ร้านทำมิโสะ ร้านซูชิ ไอศกรีม ของหวาน ฯลฯ รวมไปถึงสามารถเลือกซื้อของที่ระลึก สินค้าพื้นเมืองเฉพาะถิ่น เช่น ซารุโบะโบะ หรือ ตุ๊กตาทารกลิงตัวสีแดงไม่มีหน้าตา ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของเมืองทาคายาม่า หรือ ถ่ายรูปกับสะพาน Nakabashi Bridge สะพานสีแดงที่ทอดข้ามแม่น้ำมิยากาวะซึงเป็นสัญลักษณ์ของเมืองทาคายาม่าอีกด้วย อิสระเก็บภาพความประทับใจเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย แทนโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของท่านเป็นหลัก และไม่แจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้าทุกกรณี

เดินทางสู่ เมืองฮาคุบะ (Hakuba) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) เป็นเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดนากาโน่ ประเทศญี่ปุ่น ที่ขึ้นชื่อเรื่องความงดงามของธรรมชาติเพราะล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น ทำให้เกิดวิวทิวทัศน์ที่สวยงามทุกฤดูตลอดทั้งปี

เย็น รับประทานอาหารเย็น 

ที่พัก: Hakuba Onsen 3* หรือระดับใกล้เคียงกัน (ชื่อโรงแรมที่ท่านพัก ทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วัน ก่อนเดินทาง)

Highlight! มาทั้งทีควรได้ลองสัมผัสการแช่ ออนเซ็น (Onsen) ซึ่งเป็นวัฒนธรรมการอาบน้ำที่เก่าแก่และเป็นที่นิยมอย่างมาก เพื่อพักผ่อนหย่อนใจและบำบัดร่างกายคลายความเมื่อยล้าอีกด้วย

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม 

จุดชมวิวบนเขาที่โด่งดังจนต้องมาเห็นกับตาที่ Hakuba Iwatake Mountain Resort พร้อมนั่ง Gondola lift ขึ้นสู่จุดชมวิวบนภูเขาอิวาทาเกะ (Mt. Iwatake) ที่จะมอบทิวทัศน์สุดตระการตา 360 องศา ด้านบนมีไฮไลท์ระเบียง Hakuba Sanzan ที่สามารถชมวิวภูเขาต้นไม้ หรือถ่ายภาพเก็บบรรยากาศ และยังมีกิจกรรมอื่นๆ เช่น ปั่นจักรยานเสือภูเขา หรือ Yoo-Hoo! SWING นั่งชิงช้าลอยฟ้าขนาดใหญ่ พร้อมทั้งยังมีร้านเบอเกอรี่คาเฟ่บริการ ท่านสามารถเลือกซื้อขนมหรือเครื่องดื่ม จิบชมวิว ทำให้ผ่อนคลายและดื่มด่ำกับธรรมชาติได้ดียิ่งขึ้น (ค่าทัวร์รวมค่าขึ้น Gondola lift ขึ้นและลง ไม่รวมค่ากิจกรรมต่างๆ ในบริเวณ Hakuba Iwatake Mountain Resort)

**กรณีที่ Hakuba Iwatake Mountain Resort นั่ง Gondola lift ไม่ได้ เนื่องจากสถานที่ถูกประกาศปิดเลื่อนการเปิด ภัยพิบัติทางธรรมชาติ รวมไปถึงเหตุขัดข้องอื่นๆ ที่ทำให้ไม่สามารถไปได้ ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ เปลี่ยนไป ขึ้นกระเช้าชินโฮตากะ (Shin-Hotaka Ropeway) พาทุกท่านชมวิวที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 2,156 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเทือกเขาแอลป์ รวมไปถึงภูเขาต่างๆ และธรรมชาติของญี่ปุ่นได้อย่างสวยงาม (ค่าทัวร์รวมค่ากระเช้า)แทนโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของท่านเป็นหลัก และไม่แจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้าทุกกรณี

อีกหนึ่งจุดเช็คอินที่พลาดไม่ได้กับ Starbucks Coffee-Snow peak Land Station Hakuba สถาปัตยกรรมโดดเด่นจากสถาปันนิกที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆของญี่ปุ่น พร้อมไปกับบรรยากาศดี จิบเครื่องดื่มรสชาติดีๆ ชมวิวที่สวยเกินคำบรรยาย หรือจะเดินเล่นชิวๆ ถ่ายรูป มุมไหนก็สวยไปหมด คุ้มค่าแก่การพักผ่อนมันคือ Vibe ที่ดีมากจริงๆ (ค่าทัวร์ไม่รวมค่าอาหารและเครื่องดื่ม)

เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง เมนูพิเศษ ปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น Yakiniku Highlight! Yakiniku Buffet! ปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น สวรรค์ของคนรักปิ้งย่าง ทานอาหารไป ได้พูดคุยกัน คงจะ Moment ที่ดีและฟินไม่น้อย

เดินทางสู่ จังหวัดนากาโน่ (Nagano) (ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 45 นาที) เป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม มีความสวยงามของธรรมชาติและสถาปัตยกรรมที่สวยงาม แวะพักชมวิวทะเลสาบซูวะ (Lake Suwa) ทะเลสาบแห่งนี้เป็นทะเลสาบที่เงียบสงบ เป็นต้นน้ำของแม่น้ำเทนยุ ซึ่งไหลผ่านเมืองโอคายะไปยังพื้นที่ต่างๆ และที่นี่ถือเป็นจุดพักรถที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมีทัศนียภาพที่สวยงามของทะเลสาบซูวะแบบพาโนรามาที่มีทิวทัศน์ที่สวยงาม

Highlight! หลายคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตา กับทะเลสาบซูวะ เพราะนี่คือ 1 ในฉากของอนิเมะชื่อดังเรื่อง Your Name

เดินทางสู่ จังหวัดยามานาชิ (Yamanashi) (ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 2 ชั่วโมง) เป็นที่รู้จักจากทัศนียภาพทางธรรมชาติที่สวยงาม รวมถึงภูเขาไฟฟูจิอันโดดเด่น หากมีโอกาสต้องมาสักครั้ง สัมผัสความสวยงามของดอกไม้ที่ สวนยามานาคะโกะ ฮานะโนะมิยาโกะ (Yamanakako Hana no Miyako Park) จะมีการปลูกดอกไม้นานาพันธุ์ผลัดเปลี่ยนกันไปตามฤดูกาล โดยมีภูเขาไฟฟูจิลูกใหญ่อยู่เป็นฉากหลัง สามารถเพลิดเพลินกับความงามของดอกไม้ได้ในทุกฤดูกาลและถ่ายภาพความประทับใจ (ค่าทัวร์รวมค่าเข้าชม)

Highlight! ทุ่งดอกไม้หลากสีสันที่อาจจะได้เจอในแต่ละช่วงฤดูกาล

• ฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมีนาคม-พฤษภาคม) ชมดอกทิวลิปและดอกไม้ฤดูใบไม้ผลิอื่นๆ

• ฤดูร้อน (เดือนมิถุนายน-สิงหาคม) ชมดอกป๊อปปี้ ดอกบานชื่น และดอกทานตะวัน

• ฤดูใบไม้ร่วง (เดือนกันยายน-พฤศจิกายน) ชมดอกคอสมอสและใบไม้เปลี่ยนสี

เย็น รับประทานอาหารเย็น  พิเศษบุฟเฟ่ต์ขาปู!! ชนิดของขาปูขึ้นอยู่กับการนำเข้าของโรงแรม

Highlight! เมนูที่มาญี่ปุ่นแล้วต้องได้ลิ้มลองคงไม่พ้น ขาปูยักษ์ แล้วให้ทานเป็นแบบไม่อั้นบุฟเฟ่ต์อีก !! ขาปูที่เนื้อแน่น สดใหม่ ลองกินกับน้ำจิ้มสไตล์ ญี่ปุ่นสักครั้งคงจะฟินไม่น้อย หลังจากมื้ออาหาร ยังมี ออนเซ็น (Onsen)ให้แช่ เพื่อคลายความเหนื่อยล้าจากการเดินทางหรือความเครียดในเรื่องต่างๆ โอ้โห คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม !!

ที่พัก: Fujisan Garden Hotel Onsen 3* หรือระดับใกล้เคียงกัน (ชื่อโรงแรมที่ท่านพัก ทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วัน ก่อนเดินทาง)

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม 

จุดเช็คอินใหม่แถมชมวิวสุดว้าวที่ ทะเลสาบยามานากาโกะ (Yamanakako communication plaza kirara) ที่นี่มีบรรยากาศที่เงียบสงบ แห่งหนึ่งในบริเวณทะเลสาบยามานากะโกะและจุดนี้ถือเป็นจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยงาม เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ หรือถ่ายภาพสวยๆ กับจุดห้ามพลาดคือสะพานทางเดินไม้ ให้ฟีลเหมือนฉากในซีรีส์ ถ่ายมาสวยเก๋แน่นอน (การมองเห็นวิวทิวทัศน์ของภูเขาไฟฟูจิขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละวัน)

ช้อปปิ้งที่ ดิวตี้ฟรี (Duty free) แหล่งช้อปปลอดภาษี ที่รวบรวมสินค้าราคาพิเศษ และมีชื่อเสียงที่เห็นแล้วต้องรู้ว่ามาจากประเทศญี่ปุ่นเช่น โฟมถ่านหินภูเขาไฟ วิตามิน อาหารเสริม ครีมต่างๆ ขนมญี่ปุ่นหลากหลายชนิด รวมไปถึงชาเขียว ผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของญี่ปุ่น เป็นต้น ให้ทุกท่านสามารถเลือกซื้อเป็นของฝาก

เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง 

เดินทางสู่ โตเกียว (Tokyo) (ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 2 ชั่วโมง) มหานครที่คึกคัก เต็มไปด้วยวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และความทันสมัย เมืองนี้มีอะไรให้ดูและทำมากมาย ตั้งแต่ชมวัดวาอารามโบราณ ไปจนถึงช้อปปิ้งในย่านแฟชั่นสุด

วัดพุทธที่เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคคันโต วัดอาซากุสะ (SENSOJI TEMPLE) กราบสักการะขอพรจากองค์ เจ้าแม่กวนอิมทองคำที่เป็นทองสัมฤทธิ์ มีขนาดเล็กเพียง 5.5 เซนติเมตร ให้ท่านถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับ คามินาริมง (ประตูฟ้าคำรณ) ซึ่งมีโคมไฟสีแดงขนาดยักษ์ที่มีความสูงถึง 4.5 เมตร โคมไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลกแขวนอยู่ เลือกชมและเช่าเครื่องรางอันศักดิ์สิทธิ์ของวัดแห่งนี้

Highlight! ขอพร 5 เยน เพราะญี่ปุ่นเชื่อว่า 5 เยน นั้น เป็นเหรียญที่มีรูตรงกลาง สิ่งเลวร้าย สิ่งที่ไม่ดี จะลอดผ่านจากรูนี้ออกไป หากขอพรกับเจ้าแม่กวนอิมเสร็จให้โยนเหรียญ 5 เยน ลงจุดโยนเหรียญ เชื่อว่าพรที่ขอไปจะสมหวังทุกประการ สาธุ.

หากพอมีเวลาแนะนำให้ท่านอิสระเดินเล่นชม สวนสุมิดะ (Sumida Park) ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสุมิดะ (Sumida River) เป็นสวนสาธารณะที่มีวิวแม่น้ำเป็นฉากหลังจึงเกิดวิวทิวทัศน์ที่สวยงามสุดโรแมนติกและนับว่าที่นี่เป็นจุดยอดนิยมแห่งหนึ่งของโตเกียวเลยก็ว่าได้

จะชิมจะช้อป ย่านกินซ่า (Ginza) เอาอยู่ !! ที่นี่มีทั้งห้างสรรพสินค้า ร้านค้า เต็มไปด้วยสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมที่รวมตัวกันอยู่อย่างมากมายเอาใจสายช้อปปิ้ง และสายกินก็พลาดไม่ได้กับร้านซูชิระดับมิชลินสตาร์ไปจนถึงร้านราเม็ง ซูชิ ขาปูหรือเนื้อย่างก็น่าลอง รวมไปถึงร้านขนมหวาน ไม่ว่าจะเป็นมองบลัง มาการอง ชูครีม หรือเค้กต่างๆ ที่น่าชิมไม่น้อย

เย็น อิสระอาหารเย็น ตามอัธยาศัย เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาของท่าน

เดินทางสู่ นาริตะ (Narita) (ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 1.30 ชั่วโมง) ยังมีเสน่ห์อีกมากมายที่ซ่อนอยู่ ทั้งวัดเก่าแก่ ศาลเจ้าชินโต และธรรมชาติที่สวยงาม ทำให้นาริตะเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยว

ที่พัก: The Hedistra Narita 3* หรือระดับใกล้เคียงกัน (ชื่อโรงแรมที่ท่านพัก ทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนเดินทาง)

หลังจากเข้าเช็คอินเข้าสู่โรงแรมที่พักเรียบร้อย แนะนำให้ท่านอิสระเพลิดเพลินเดินเล่นห้าง Aeon Mall ที่มีสินค้ามากมายหลากลาย ทั้งของแฟชั่นเสื้อผ้า รวมไปถึงอาหารคาวหวาน จะซูชิหรือขนมปังก็มีให้เลือกมากมาย หรือจะแวะชิมอาหารสไตล์ญี่ปุ่นแถวบริเวณที่พักก็มีร้านอาหารคอยให้บริการ

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม หรือบริการอาหาร แบบกล่อง SET BOX กรณีที่ พักอยู่ห่างจาก สนามบินหรือกรณีห้องอาหารโรงแรมเปิดช้า

06.00 น. นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับ ประเทศไทย

09.15 น. เดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง ประเทศไทย โดยสายการบิน AIR ASIA X (XJ) เที่ยวบินที่ XJ601 (ค่าทัวร์ไม่รวมค่าอาหารบนเครื่อง บนเครื่องมีจำหน่าย)

14.35 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ

 

หมายเหตุ

**โปรแกรมการเดินทางและมื้ออาหารที่ระบุในโปรแกรม อาจจะมีการสลับปรับเปลี่ยนขึ้นอยู่กับความเหมาะสมเป็นหลัก รบกวนแจ้งเซลล์ก่อนทำการจองทุกครั้งเพื่ออัพเดทโปรแกรม ณ ปัจจุบัน ในวันนั้นๆโดยจะคำนึงถึงประโยชน์ของผู้เดินทางเป็นสำคัญ**

***ในกรณีที่ลูกค้าต้องออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (เครื่องบิน ,รถทัวร์ ,รถไฟ) กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ เพื่อเช็คว่ากรุ๊ปมีการคอนเฟิร์มเดินทางก่อนทุกครั้ง เนื่องจากสายการบินอาจมีการปรับเปลี่ยนไฟล์ทบิน หรือเวลาบิน โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทางบริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใด ๆ ในกรณี ถ้าท่านออกตั๋วภายในโดยไม่แจ้งให้ทราบและหากไฟล์ทบินมีการปรับเปลี่ยนเวลาบิน เพราะถือว่าท่านยอมรับในเงื่อนไขดังกล่าว***