19.00 น. สมาชิกทุกท่านพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 เคาน์เตอร์ H/J สายการบินไทย แอร์เวย์ พร้อมเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยดูแลเช็คสัมภาระและบัตรที่นั่งบนเครื่อง

22.20 น. ออกเดินทาง สู่ สนามบินซิดนีย์, ประเทศออสเตรเลีย โดยสายการบินไทย แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ TG 471

10.20 น. เดินทางถึง สนามบินนานาชาติเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย หลังผ่านการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว

(ออสเตรเลียเป็นประเทศที่ห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารจากสัตว์และพืชมีโทษทั้งปรับและจำคุก)

นำท่านเข้าสู่เมือง“ซิดนีย์ นำท่าน“ล่องเรือสำราญอ่าวซิดนีย์” ชมโรงละครโอเปร่าเฮ้าส์ (OPERAHOUSE) ซิดนีย์ โอเปร่า เฮาส์ (Sydney Opera House) เป็นโรงละครที่มีรูปร่างสุดแปลกตา หนึ่งในมรดกโลกที่ภาคภูมิใจของชาวออสเตรเลีย ตั้งอยู่บนอ่าวซิดนีย์ ตัวโรงละครถูกสร้างให้ทอดยาวลงไปในน้ำบริเวณท่าเรือซิดนีย์ ซึ่งภายในโอเปร่าเฮาส์จะประกอบด้วย สถานที่แสดงคอนเสิร์ต ห้องแสดงละคร ห้องฉายภาพยนตร์ และร้านอาหารต่าง ๆอีกมากมาย ระหว่างล่องเรือท่านจะได้สัมผัสกับบรรยากาศโดยรอบ รวมทั้งสะพานฮาร์เบอร์ ที่เชื่อมต่อระหว่างซิดนีย์ เข้าด้วยกัน และยังมีเรือใบต่างๆ มากมายประชันกันอย่างสวยงาม

นำท่านเดินทางสู่ เดอะ ร็อคส์ (THE ROCKS) เป็นย่านชุมชนที่เก่าแก่และมีเสน่ห์อีกแห่งของเมืองซิดนีย์ แถวนี้จะเต็มไปด้วยอาคารเก่าๆ มากมาย บางจุดถูกดัดแปลงกลายเป็นร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์ และ ART GALLERY มีผลงานของเหล่าศิลปินชาวออสเตรเลีย จัดแสดงอยู่อย่างหลากหลาย

ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร

จากนั้น นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก

พักที่ : MERCURE HOTEL SYDNEY / หรือที่พักระดับใกล้เคียง

เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก 

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ สนามบิน

………. น. ออกเดินทางจากสนามบินเมลเบิร์นสู่ สนามบินโฮบาร์ต โดยสายการบิน............................... เที่ยวบินที่...............

……….. น. เดินทางถึงสนามบินโฮบาร์ต

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย  นำท่านเดินทางชมเมืองโฮบาร์ต (HOBART) เมืองหลวงของรัฐแทสมาเนียที่เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดลำดับที่สอง รองลงมาจากซิดนีย์จากการก่อตั้งเมืองในออสเตรเลียเมื่อปี ค.ศ.1803 สำหรับชาวอังกฤษแล้ว แวนดีเมนส์แลนด์ หรือที่รู้จักในชื่อเกาะแทสเมเนีย ดูเหมือนเป็นดินแดนที่สิ้นสุดของโลก เป็นสถานที่ที่เหมาะอย่างยิ่งในการส่งนักโทษไปและบรรเทาความกดดันจากระบบเรือนจำที่แออัดในประเทศอังกฤษ เมืองโฮบาร์ตตั้งอยู่คร่อมสองฝั่งของ ปากแม่น้ำเดอร์เวนท์(DERWENT RIVER)โดยมีภูเขาเวลลิงตัน (MT.WELLINGTON) เป็นฉากหลัง ทั้งนี้โฮบาร์ตอุดมไปด้วยมรดกจากยุคอาณานิคม ความงามของธรรมชาติและบรรยากาศของเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยความรื่นเริงของบาร์และร้านอาหารในเมืองยามค่ำคืน

นำท่านขึ้นสู่ “ยอดเขาเวลลิงตัน” (MOUNT WELLINGTON) ยอดเขาที่ตั้งอยู่ในเมืองโฮบาร์ต เมืองหลวงรัฐแทสเมเนีย ยอดเขาแห่งนี้ มีความสูงที่ 1,271 เมตรจากระดับน้ำทะเล จึงทำให้พื้นที่แห่งนี้

จากนั้น เข้าสู่ “ย่านแบตเตอรี่พอยท์” (BATTERY POINT) ย่านท่าเรือเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 18 อีกทั้งยังเป็นหมู่บ้านที่อยู่ติดทะเลชื่อ แบตเตอรี่ พอยท์ ที่ได้มาจากการสร้างปืนใหญ่ไว้ตรงที่จุดนี้ เมื่อปี ค.ศ.1818 ได้เวลาอันสมควร

นำท่านเดินทางแวะชมซาลาแมนกาเพลส (SALAMANCA PLACE) ชุมชนเล็ก ๆของชาวแทสมาเนีย ที่เรียงรายไปด้วย ตึกเก่าและอาคารโบราณในยุคอาณานิคมอังกฤษ

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร  

ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก

พักที่ : CROWNE PLAZA HOBART, AN IHG / หรือที่พักระดับใกล้เคียง

20.00 น. นำท่านล่าแสงใต้ (AURORA AUSTRALIAS) โดยแสงใต้เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามมากที่สุด ในการชมแสงใต้ ทางบริษัทไม่สามารถรับประกันได้ว่า จะเห็นหรือไม่เห็นแสงใต้ เนื่องจากเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ช่วงเวลาที่เห็นได้ชัดที่สุด คือช่วงเวลาที่เห็นได้ชัดคือ 20.00 น. - 03.00 น.

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ พอร์ตอาเธอร์ (PORT ARTHUR) (ระยะทาง 90 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.) เดินทางเข้าชม “สวนอนุรักษ์แทสมาเนียนเดวิล” (TASMANIAN DEVIL CONSERVATION PARK) ชมความน่ารักของสัตว์ท้องถิ่นของเกาะแทสมาเนียอย่างใกล้ชิดแทสมาเนียนเดวิลได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสัตวคุ้มครองมาตั้งแต่ปีค.ศ.1941ถึงแม้ว่าแทสมาเนียนเดวิลจะสามารถตกลูกคราวละประมาณ 30 ตัว แต่จะมีเพียงประมาณ 4 ตัวเท่านั้นที่มีชีวิตรอด โดยแทสมาเนียนเดวิลตัวเมียสามารถมีลูกในกระเป๋าหน้าท้องได้สูงสุดถึง 6 ตัว ในระยะเวลานาน 3 เดือน นอกจากนี้ยังมีข้อสันนิษฐานว่าแทสมาเนียนเดวิลได้สูญพันธุ์ไปจากแผ่นดินใหญ่ของออสเตรเลียเมื่อประมาณ 3,000 ปี มาแล้ว

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย นำท่านเดินทางสู่พอร์ตอาร์เธอร์” (PORT ARTHUR HISTORICAL SITE) ศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ของเกาะแทสมาเนีย ซึ่งมีการจัดแสดงเกี่ยวกับการเรียนรู้ชีวิตนักโทษในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ซึ่งเคยถูกใช้จองจำนักโทษอุกฉกรรจ์กว่า 1,000 ชีวิต ในช่วงปี พ.ศ. 2347 ถึง พ.ศ. 2396 มีนักโทษถึง 76,000 คน ถูกส่งมาคุมขังในเกาะแทสเมเนีย

นำท่านผ่านชมโรงนอน ห้องพักนักโทษ ห้องสมุด โบสถ์ ซึ่งปัจจุบันเป็นหนึ่งในสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศออสเตรเลีย 

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
 

 ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางกลับสู่โรงแรมที่พัก

พักที่: CROWNE PLAZA HOBART, AN IHG / หรือที่พักระดับใกล้เคียง

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

หลังรับประทานอาหารเช้า นำท่านเดินทางสู่ท่าเรือพอร์ต อาร์เทอร์เป็นจุดที่มีฉลามชุกชุมมากที่สุด

 นำท่านลงเรือสู่เกาะแทสมัน (TASMAN ISLAND) เกาะตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของหมู่เกาะแทสมันและอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแทสมัน อุทยานแห่งชาติที่เต็มไปด้วยหินและหน้าผาอันสวยงาม และอยู่ห่างจากโฮบาร์ต เมืองหลวงของรัฐแทสมาเนียไปทางตะวันออกเฉียงใต้เป็นรู้จักกันดีถึงหน้าผาริมทะเลที่สูงลิบและหินที่มีรูปทรงขนาดใหญ่สวยงามแปลกตาท่านจะได้ชมความงามของแทสมันอาร์ก (TASMAN ARCH) อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยว ที่มีความโดดเด่นทางด้านลักษณะภูมิประเทศของอุทยานแห่งชาติแทสมัน หน้าผารูปทรงแปลกซึ่งมีลักษณะเป็นถ้ำหรืออุโมงค์ขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นโดยการกระทำของคลื่นทะเลซัดเข้ากระแทกนานนับศตวรรษ แรงดัน มหาศาลของคลื่นประกอบกับบีบอัดอากาศที่เกิดจากการกระแทกหน้าผา ได้ส่งผลให้เกิดรอยแตกแยกจนกลายเป็นลักษณะภูมิประเทศที่แสนมหัศจรรย์สร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือนเป็นอย่างมาก

นำท่านผ่านชม โบลว์โฮล (BLOW HOLE) หน้าผาชั้นหินทรายที่ถูกแรงคลื่นจากทะเลซัดจนทะลุเป็นโพรงใต้น้ำ พอคลื่นจากทะเลซัดเข้าหาโพรงจะเกิดมวลน้ำ พวยพุ่งขึ้นสูงราวกับน้ำพุและเดวิล คิทเช่น (DEVIL KITCHEN)หน้าผารูปทรงแปลกตาจนเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้พบกับความน่ารักของสัตว์นานาชนิด อาทิ แมวน้ำ, ปลาโลมา และนกชนิดต่าง ๆ เป็นต้น

*การล่องเรือขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ในกรณีที่มีพายุหรือลมแรง ไม่สามารถล่องเรือได้ บริษัทฯ ขออนุญาตคืนค่าล่องเรือให้ในราคากรุ๊ปทัวร์ที่จองเอาไว้ และสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 4 ขวบไม่อนุญาตให้ขึ้นเรือเพื่อความปลอดภัย*

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ “อุทยานแห่งชาติเฟรซิเนท์” (FREYCINET NATIONAL PARK) ซึ่งตั้งชื่อตามนักเดินทางชาวฝรั่งเศส อุทยานแห่งชาติแห่งนี้มียอดเขาหินแกรนิตสีชมพูอันสวยงามตระการตา อ่าวอันเงียบสงบ ชายหาดทรายขาว และสัตว์ป่ามากมาย มีเส้นทางเดินไปยังอ่าวและชายหาด ในขณะที่น้ำทะเลเชิญชวนให้ว่ายน้ำ ดำน้ำตื้น และพายเรือคายัค พื้นที่หลักครอบคลุมบริเวณปลายสุดด้านใต้ของคาบสมุทรเฟรย์ซิเนต แต่ยังทอดยาวไปตามชายฝั่งตะวันออกของคาบสมุทร โดยมีชายหาดเฟรย์ซิเนตและทอดยาวเกือบถึงเมืองชายฝั่งบิเชโน อุทยานแห่งชาติเฟรย์ซิเนตเป็นอุทยานแห่งชาติที่เก่าแก่ที่สุดของแทสเมเนีย ร่วมกับภูเขาฟิลด์

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

พักที่: FRECINET LODGE / หรือที่พักระดับใกล้เคียง
 

หมายเหตุ อิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย ในค่ำคืนนี้ ท่านสามารถชมแสงใต้ได้จากบริเวณที่พัก ซึ่งแสงใต้ (AURORA AUSTRALIS) เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามมากที่สุด และจะปรากฏ ให้เห็นตามธรรมชาติในเวลาพลบค่ำ และ ช่วงเวลาที่เห็นได้ชัด คือช่วงเวลา 20.00-03.00 น. 

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
 

นำท่านเข้าสู่ จุดชมทิวทัศน์อันงดงาม ณ จุดชมวิวเหนืออ่าวไวน์กลาสเบย์ (WINEGLASS BAY) ที่เทือกเขาสีเขียว น้ำทะเลสีฟ้าและหาดทรายสีขาวมาบรรจบกัน อิสระให้ท่านเดินเล่นพร้อมเก็บภาพความประทับใจ ระหว่างทางท่านสามารถได้พบกับนกทะเลชนิดต่าง ๆ ดอกไม้ป่าของแทสมาเนียนานาชนิด และน้ำใสแจ๋วในแอ่งหินอย่างใกล้ชิด

นำท่านเดินทางสู่ ประภาคารเคปตูร์วิลล์ (CAPE TOURVILLE LIGHT HOUSE) ซึ่งตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ FREYCINET บนชายฝั่งตะวันออกของรัฐแทสเมเนีย มีทางเดินระยะสั้นไม่ไกล ไปยังประภาคาร CAPE TOURVILLE ด้วยทิวทัศน์ชายฝั่งอันน่าทึ่งและการได้ชมประภาคารอย่างใกล้ชิด อุทยานแห่งชาติFREYCINET ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของคาบสมุทร FREYCINET และมองเห็นทะเลแทสมัน ที่อุทยานแห่งชาติFREYCINET ท่านสามารถเห็นยอดเขาหินแกรนิตสีชมพูอันน่าทึ่งอ่าวอันเงียบสงบ หาดทรายสีขาวและอ่าวไวน์กลาสอันเป็นเอกลักษณ์

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บ่าย

นำท่านเดินทางสู่ “เมืองบิเชโน” (BICHENO) สถานที่พักผ่อนยอดนิยมสำหรับชาวแทสเมเนีย เป็นหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ อันเงียบสงบบนชายฝั่งตะวันออกของแทสมาเนีย ขึ้นชื่อในเรื่องชายหาดสีขาวละเอียดที่สวยงาม ซึ่งเรียงรายไปด้วยหินแกรนิตอันโดดเด่นที่มีไลเคนสีส้มขึ้นปกคลุม ชีวิตสัตว์ป่าที่น่าค้นหา และอาหารทะเลสดใหม่ในท้องถิ่น บิเชโนเป็นเมืองชายหาดบรรยากาศสบายที่มีเสน่ห์ในแบบของตัวเองเหมาะเป็นที่พักตากอากาศ

17.00 น. นำท่านเดินทางไปชมเพนกวินนางฟ้า (FAIRY PENGUINS) ที่อาศัยอยู่ในพุ่มไม้ใกล้ทะเลของเมืองบิเชโน เพนกวินเหล่านี้จะขึ้นจากทะเลไปยังโพรงของพวกมัน นกเพนกวินตัวน้อยกลับมาหลังจากค่ำจากการกินอาหารในท้องทะเล การได้เห็นเพนกวินน้อยน่ารักเหล่านี้อย่างใกล้ชิด ถือเป็นประสบการณ์พิเศษอย่างแท้จริงของผู้ได้ชม เพนกวินจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สงบ และรู้สึกปลอดภัยดังนั้นนักท่องเที่ยวจะต้องไม่ใช้เสียงหรือรบกวนพวกมัน ในช่วงฤดูหนาวเพนกวินจะมุ่งเน้นไปที่การรักษาโพรงของพวกมัน สร้างรังและปรับปรุงให้ดีขึ้น และหยุดพกัจากความเครียดตลอดเวลา

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
 

พักที่ : DIAMOND ISLAND RESORT, RESTAURANT & BAR AND PENGUIN SHOW หรือที่พักระดับใกล้เคียง
 

หมายเหตุ อิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย ในค่ำคืนนี้ ท่านสามารถชมแสงใต้ได้จากบริเวณที่พัก ซึ่งแสงใต้ (AURORA AUSTRALIS) เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามมากที่สุด และจะปรากฏ ให้เห็นตามธรรมชาติในเวลาพลบค่ำ และ ช่วงเวลาที่เห็นได้ชัด คือช่วงเวลา 20.00-03.00 น. 

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ “เมืองเซนต์เฮเลน” (ST.HELENS) (ระยะทาง 13 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) หนึ่งในเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงทางตอนเหนือของเกาะแทสมาเนีย นอกจากนี้ยังมีชื่อเสียงด้านการจัดการแข่งขันตกปลาประจำเมืองอีกด้วย

นำท่านเดินทาง ชมเบย์ออฟไฟร์ (BAY OF FIRE) ตั้งชื่อโดยกัปตันโทเบียส เมื่อปีค.ศ.1773เมื่อเขาพบเห็นการก่อกองไฟที่ชายหาดโดยชนพื้นเมืองชาวอะบอริจิน ชายหาดนี้มีชื่อเสียงขึ้นชื่อด้วยความขาวของหาดทราย น้ำทะเลสีฟ้าใส และหินแกรนิตสีน้ำตาล ซึ่งสีน้ำตาลเหล่านี้เกิดจากการเกาะตัวของไลเคน

นำท่านเดินทางแวะเก็บภาพกับอนุสรณ์ไม้แกะสลักแด่ผู้ล่วงลับ (LEGERWOOD CARVED MEMORIAL TREE) (ระยะทาง 106 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.) ในชุมชนเล็ก ๆของเมืองเลเกอร์วู้ด (LEGERWOOD) ซึ่งรูปแกะสลักไม้ต่าง ๆนั้น ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ทหารผู้เสียชีวิตจากสงครามโลกครั้งที่1

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย นำท่านเดินทางสู่ หุบเขาทามาร์ (TAMAR VALLEYTAMAR VALLEY) เป็นหุบเขาที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในรัฐแทสเมเนีย ประเทศออสเตรเลีย วิ่งไปทางตะวันตกเฉียงเหนือจากเมืองลอนเซสตัน ทางตอนเหนือไปยังชายฝั่งด้านใดด้านหนึ่งของแม่น้ำ ทามาร์ที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องไร่องุ่นและโรงเก็บไวน์

นำท่านเดินทาง ชมไร่องุ่น (MOORES HILL ESTATE) ให้ท่านได้ลองชิมไวน์ ณ ไร่องุ่นแห่งนี้ ไวน์ในไร่นี้ ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ 100% เป็นแห่งแรกของรัฐแทสเมเนีย ผลิตไวน์หลากหลายชนิดรสชาติยอดเยี่ยม อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อไวน์เพื่อเป็นของฝาก

นำท่านเดินทางสู่ เมืองลอนเซสตัน (LAUNCESTON) เมืองเล็กๆทางตอนเหนือของเกาะ แทสมาเนียที่ถูกโอบล้อมด้วยภูเขาเขียวขจี เป็นเมืองที่มีธรรมชาติสวยงามมาก ได้เวลาสมควร นำท่านเข้าสู่ที่พัก

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักที่: MERCURE HOTEL LAUNCESTON  หรือที่พักระดับใกล้เคียง

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
 

นำท่าน ชมเมืองลอนเซสตัน (LAUNCESTON) ซึ่งเต็มไปด้วยอาคารสถาปัตยกรรมเก่าแบบโกธิก โบสถ์ประจำ เมืองอาคารรัฐสภา โรงเบียร์เก่าใจกลางเมือง หรือที่ทำการไปรษณีย์เก่าแก่ที่มีหอนาฬิกาบอกเวลาอยู่บนหอคอย จากนั้นชมดอกไม้หลากสีสันในซิตี้ปาร์ค สวนพฤกษศาสตร์ของเมืองนี้ซึ่งมีดอกวิสทีเลีย ที่ได้ชื่อว่าเป็นไม้เลื้อยที่สวยและหอมที่สุดในโลกในสวนแห่งนี้

นำท่านเดินทางชมโบสถ์อัครสาวก (THE CHURCH OF THE APOSTLES) เป็นโบสถ์คาทอลิกในเมืองลอนเซสตัน รัฐแทสเมเนีย สังกัดอัครสังฆมณฑลโฮบาร์ต โบสถ์ สไตล์ฟื้นฟูโกธิก ที่มีโดเลอไรต์แบบชนบทและแต่งด้วยฟรีสโตน มีหลังคาหินชนวนมีไม้กางเขนหินอยู่ที่ปลายจั่ว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในปี1886 ได้รับการออกแบบโดย ALEXANDER NORTH

นำท่านเดินทางเข้า ชมผลิตภัณฑ์นมแอชโกรฟ (ASHGROVE DAIRY DOOR) (ระยะทาง 64กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) ตั้งอยู่ในบนเส้นทางท่องเที่ยว อยู่ห่าง LAUNCESTONไปทางตะวันตก 40 นาทีมีทุกสิ่งสำหรับผู้รักชีสทุกคน เพลิดเพลินกับอาหารเช้าหรืออาหารกลางวันด้วยเมนูอาหารจากทุ่งหญ้าแสนอร่อย รวมถึงขนมปังปิ้งชีสดีลกัซ์5 ชิ้นและเจลาโต้ที่ทำสดใหม่ชมการทำงานของผู้ผลิตชีส และเรียนรู้เกี่ยวกับปรัชญาการทำชีสอันเป็นเอกลักษณ์ของ ASHGROVE ท่านสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารรสเลิศ เช่น นมที่ได้รับรางวัล ชีสชนิดพิเศษ ของขบเคี้ยวชีสแฟนซีและผลิตผลแทสเมเนียแสนอร่อย

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย นำท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติเครเดิลเมาน์เทน (CRADLE MOUNTAIN) ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ CRADLE MOUNTAIN-LAKE ST CLAIR ที่ระดับความสูง 1,545 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ถือเป็นภูเขาที่สูงเป็นอันดับ 6 ในรัฐแทสเมเนีย อุทยานแห่งชาติ CRADLEMOUNTAIN เป็นพื้นที่ที่มีทัศนียภาพอันโดดเด่นและมีเส้นทางเดินให้เลือกหลากหลาย เป็นพื้นที่สวยงามและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก มีความงามตามธรรมชาติอันโดดเด่นใจ ตั้งอยู่ใจกลางพื้นที่มรดกโลกป่าดิบชื้นแทสเมเนีย (TWWHA) ปกคลุมไปด้วยมอสส์ มีหุบเขา, แม่น้ำลึกไปจนถึงยอดเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ ทุ่งหญ้าบนภูเขาสูงชัน และทะเลสาบน้ำแข็ง อุทยานแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่ามีทิวทัศน์ที่หลากหลายและสวยงามจับใจ Cradle Mountain เป็นชื่อที่บ่งบอกถึงธรรมชาติ ป่าดงดิบ และทุกสิ่งที่บริสุทธิ์ สัตว์ป่ามีมากมายในอุทยานแห่งชาติอันสวยงามแห่งนี้ คุณอาจมีโอกาสพบกับแทสเมเนียนเดวิล, ควอลล์, ตุ่นปากเป็ด, อีคิดนา วอมแบต
 

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักที่ : CRADLE MOUNTAIN HOTEL  หรือที่พักระดับใกล้เคียง 

หมายเหตุ อิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย ในค่ำคืนนี้ ท่านสามารถชมแสงใต้ได้จากบริเวณที่พัก ซึ่งแสงใต้ (AURORA AUSTRALIS) เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามมากที่สุด และจะปรากฏ ให้เห็นตามธรรมชาติในเวลาพลบค่ำ และ ช่วงเวลาที่เห็นได้ชัด คือช่วงเวลา 23.00-03.00 น. 

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติเครเดิลเมาน์เทน(CRADLE MOUNTAIN) ชมความงามของยอดเขา CRADLE MOUNTAIN ที่สูงตระหง่านขณะเดินไปตามทางเดินไม้เพื่อลัดเลาะตามริมน้ำ ใสบริสุทธิ์ของทะเลสาบที่เกิดจากหิมะที่จับตัวกันเป็นน้ำแข็งแห่งนี้ท่านจะได้สัมผัสกับทะเลสาบโดฟ (DOVE LAKE) ล้อมรอบด้วยเส้นทางเดินและเส้นทางธรรมชาติสั้นๆ หลายจุดที่กระจายออกไปถึงจุดชมวิวต่างๆ ลองเดินขึ้นไปที่แนวชายฝั่งของทะเลสาบ DOVE และชมวิวทิวทัศน์อันตระการตาที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา เส้นทางเดินรอบทะเลสาบส่วนใหญ่เป็นทางเดินไม้และท่านสามารถเดินไปทางใดก็ได้ตามใจชอบ

จากนั้นนำท่านชมโรงเรือเก่าแก่ที่อยู่บนชายฝั่งด้านตะวันตกเฉียงเหนือโรงเรือแห่งนี้สร้างขึ้นในปี1940 นอกป่า KING BILLY PINE ซึ่ง ปัจจุบันไม่มีคนอยู่อาศัยและเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับนักถ่ายภาพ แวะถ่ายภาพโรงเรือที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวโดยมี CRADLE MOUNTAIN และผืนป่าโดยรอบเป็นฉากหลัง เส้นทางเดินรอบทะเลสาบ DOVE มีระยะทางยาว 5.7 กิโลเมตรต่อเที่ยวและใช้เวลาเดินทั้งสิ้นราว 2 ชั่วโมง

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บ่าย

นำท่านเดินทางสู่ “เมืองเชฟฟิลด์” (SHEFFIELD) (ระยะทาง 63กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.10 ชม.) เมืองขนาดเล็กทางตอนเหนือของแทสมาเนีย เป็นที่รู้จักในฐานะ เมืองแห่งจิตรกรรมฝาผนัง (TOWN OF MURALS) โดยท่านจะเพลิดเพลินไปกับภาพวาดที่สร้างสรรขึ้นอย่างบรรจงบนกำแพงและอาคารต่าง ๆ ทั่วทั้งเมือง พร้อมฟังเล่าเรื่องเล่าทางประวัติศาสตร์ผ่านงานศิลปะในขณะที่ท่านเดินเล่นผ่านแกลเลอรี่ศิลปะกลางแจ้ง ได้เวลาอันสมควร

นำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือดาเวนพอร์ท (DEVANPORT) เพื่อเช็คอินลงเรือเฟอร์รี่สู่เมืองจีลอง(เมลเบิร์น) พักในเรือเฟอร์รี่ ห้องพักวิวทะเล(Seaview)
 

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ร้านอาหารในเรือ
 

SPIRIT OF TASMANIA พักในเรือ: SPIRIT OF TASMANIA

06.00 น. เรือเทียบท่า ณ ท่าเรือจีลอง (PORT OF GEELONG)

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคาร

ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ เมืองเมลเบิร์น (MELBOURNE) ชม “นครเมลเบิร์น” เป็นเมืองที่มีความตื่นตาตื่นใจด้วยการผสมผสานทั้งความเก่าและความใหม่เข้าด้วยกัน เป็นเมืองหลวงที่ตั้งอยู่บนริมฝั่งแม่น้ำ YARRA มีสวนสาธารณะริมน้ำ มีสถาปัตยกรรมของยุคตื่นทองในสมัยกลางศตวรรษที่ 18 คละเคล้ากับตึกสูงระฟ้าในสมัยปัจจุบันทำให้มีภูมิทัศน์ของเมืองที่ไม่เหมือนใคร แม่น้ำตั้งอยู่ใจกลางเมืองอันเป็นเสน่ห์ของเมลเบิร์น
 

ผ่านชม อาคารรัฐสภาแห่งเมลเบิร์น (PARLIAMENT HOUSE MELBOURNE)

นำท่านชม สวนฟิตซรอย สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ เป็นที่ตั้ง กระท่อมกัปตันคุ้ก นำท่านเข้าชมภายในกระท่อมบ้านพักของนักสำรวจชาวอังกฤษคนสำคัญของโลก ผู้ค้นพบทวีปออสเตรเลียและซีกขั้วโลกใต้ กระท่อมนี้ได้ถูกย้ายมาเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองนครเมลเบิร์นในวาระครบรอบ 100 ปี

จากนั้นให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าช้อปปิ้ง ห้างเดวิด โจน์ ห้างมายเออร์ ในย่านถนน Swanston Street และ Elizabeth Street ที่เต็มไปด้วยร้านเสื้อผ้าแฟชั่นหลากหลายสำหรับบุรุษและสตรีหรือช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองในไชน่าทาวน์ หรือจะเลือกซื้อสินค้าแบรนแนมมากมายในย่านใจกลางเมืองที่มีอาคารบ้านเก่าสร้างตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 19 ด้วยบรรยากาศแบบชาวจีนและชาวเอเชียหรือ

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
 

บ่าย นำท่าน เก็บภาพกับโบสถ์เซนต์แพทริค (ST.PATRICK CATHEDRAL) โบสถ์โรมันคาทอลิกสไตล์โกธิก สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ.1858 มียอดหอคอยสวยงามสูงกว่า 105 เมตร นอกจากนี้พระสันตะปาปาโป๊ปจอห์นปอลที่สองเคยเสด็จมาเยือนโบสถ์แห่งนี้ เมื่อปีค.ศ.1986 จากนั้น

นำท่านเดินทางสู่ ตลาดควีนวิกตอเรีย (QUEEN VICTORIA MARKET) ตลาดใจกลางเมืองบนพื้นที่กว่า 17 เอเคอร์ ซึ่งนับเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในซีกโลกใต้ (SOUTHERN HEMISPHERE) ภายในตลาดแบ่งเป็นโซนอย่างชัดเจน ทั้งตลาดผลไม้ตามฤดูกาลนานาชนิด ซึ่งมีทั้งผลไม้ท้องถิ่น นำเข้าจากต่างประเทศ ตลาดเนื้อและปลา ซึ่งพ่อค้านำมาขายแบบสดๆเกือบทุกวัน นอกจากนี้ยังมีร้าน เบเกอรี่ร้านขายสินค้าพื้นเมืองของฝากต่าง ๆ มากมายอิสระให้ท่านเดินเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย
 

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

หลังรับประทานอาหาร นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานเมลเบิร์น

23.30 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพมหานคร โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 462

 06.00 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
 

หมายเหตุ

**โปรแกรมการเดินทางและมื้ออาหารที่ระบุในโปรแกรม อาจจะมีการสลับปรับเปลี่ยนขึ้นอยู่กับความเหมาะสมเป็นหลัก รบกวนแจ้งเซลล์ก่อนทำการจองทุกครั้งเพื่ออัพเดทโปรแกรม ณ ปัจจุบัน ในวันนั้นๆโดยจะคำนึงถึงประโยชน์ของผู้เดินทางเป็นสำคัญ**

***ในกรณีที่ลูกค้าต้องออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (เครื่องบิน ,รถทัวร์ ,รถไฟ) กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ เพื่อเช็คว่ากรุ๊ปมีการคอนเฟิร์มเดินทางก่อนทุกครั้ง เนื่องจากสายการบินอาจมีการปรับเปลี่ยนไฟล์ทบิน หรือเวลาบิน โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทางบริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใด ๆ ในกรณี ถ้าท่านออกตั๋วภายในโดยไม่แจ้งให้ทราบและหากไฟล์ทบินมีการปรับเปลี่ยนเวลาบิน เพราะถือว่าท่านยอมรับในเงื่อนไขดังกล่าว***