ทัวร์เอเชีย ปากีสถาน ธารน้ำแข็งพาสสุ ธารน้ำแข็งฮอปเปอร์ ยอดเขาเลดี้ฟิงเกอร์ ล่องเรือชมทะเลสาบอัตตาบัต 11 วัน 9 คืน สายการบินไทย

16.00 น. คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิชั้น 4 ประตู 4 เคาน์เตอร์ H การบินไทย กรุณาสังเกตป้าย COOL SUMMER PAKISTAN
19.00 น. ออกเดินทางจาก กรุงเทพฯ สู่กรุงอิสลามาบัด โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 349 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
23.20 น. เดินทางถึง อิสลามาบัด (Islamabad) เวลาท้องถิ่น(ช้ากว่าไทย 2 ชั่วโมง) ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง รับกระเป๋าเรียบร้อยแล้วนำท่านเดินทางเข้าสู่เมืองอิสลามาบัด
พักโรงแรมระดับดาว Ramada by Wyndham เมืองอิสลามาบัด หรือเทียบเท่า (1)
เช้ารับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- เช็คเอ้าท์โรงแรมเพื่อเดินทางสู่สนามบิน
09.30 น. ออกเดินทางสู่ สการ์ดูโดยสายการบิน Pakistan International Airlines เที่ยวบินที่ PK 451 ชมความงามแนวเทือกเขาหิมาลัย และ คาราโครัม
หมายเหตุ: ในกรณีเที่ยวบินมีการยกเลิก เนื่องจาก หลายสาเหตุ เช่น สภาพของอากาศ ปิด แปรปรวน และ อื่นๆ ทางบริษัทฯจะปรับเป็นการนั่งรถแทนการบิน
10.30 น. ถึงสนามบิน เมืองสการ์ดู (Skardu) รับกระเป๋าเรียบร้อย นำท่านสู่เมืองสการ์ดูที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและศูนย์กลางของนักท่องเที่ยวที่นิยมปีนเขาเดินป่าในภาคเหนือของปากีสถาน มีภูเขาที่มีความสูงเกินกว่า 8,000 เมตรถึง14 ยอด รวมถึงยอดเขา K2 ที่สูงเป็นอันดับสองของโลกที่ความสูง 8,611 เมตร รองจากยอดเขาเอเวอร์เรสต์ (สูง 8,840 เมตร) จึงเป็นที่ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวและนักปีนเขาจากทั่วโลก
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน
บ่าย จากนั้นนำท่านชมความงามของ ทะเลทรายซาฟรารังกา Sarfaranga Cold Desert หรือ Katpana Desert ทะเลทรายเย็นที่สูงที่สุดในโลก ที่นี่จะมีกิจกรรมหลากหลายให้ท่านเลือกเล่น รถจิ๊บลุยทะเลทราย ขี่ม้า Atv และพาราไกด์ดิ้ง (ไม่รวมในราคาทัวร์) ชมความงามของแสงสะท้อนจากต้นไม้หลากสีที่สะท้อนกับแม่น้ำอินดุส อิสระให้เดินเล่นในหมู่บ้าน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
พักโรงแรม3ดาวมาตราฐานท้องถิ่น Himalaya Hotel หรือเทียบเท่า เมืองสการ์ดู (2)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชม ป้อมปราการชิกาห์ (Shigar Fort Palace) สร้างขึ้นโดย ข่าน ฮัสซันที่ปกครองในช่วงต้นศตวรรษที่17 สร้างอยู่บนเนินที่สูง 5 เมตรจากพื้นดินและส่วนหนึ่งล้อมรอบด้วยหินรูปทรงกรวยขนาดยักษ์ (จึงเป็นที่มาของชื่อ Fong-Khar หรือ “Palace on Rock”) ส่วนที่เป็นโครงสร้างเก่าแก่ที่สุดมีอายุกว่า 400 ปี ชมห้องโถงใหญ่ ห้องพักอาศัยที่ได้รับการบูรณะโครงสร้างให้ยังคงเป็น สถาปัตยกรรมแบบเดิมให้มากที่สุด
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน
บ่าย นำท่านชมความงามของทะเลสาบคาชูรา Upper Kachura Lake หนึ่งในสถานที่สวยงามมาก แห่งหนึ่งของ และมีความลึกถึง 60 เมตร ให้ท่านได้นั่งเรือชมทะเลสาบ จากนั้นให้สัมผ้สกับอีกบรรยากาศที่ Shangri la resort ซึ่ง เป็น รีสอร์ต ริมทะเลสาบ คาชูรา ล่าง Lower Kachura Lake อิสระเก็บภาพ
นำชม Manthal Buddha Rock เป็นแผ่นหินแกะสลักเป็นรูปพระพุทธองค์ ในช่วงที่พุทธศาสนา เจริญรุ่งเรืองในเขตนี้ และมีอักษรจารึกอยู่
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
พักโรงแรม3ดาวมาตราฐานท้องถิ่น Himalaya Hotel เมืองสการ์ดู หรือ เทียบเท่า (3)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- เช็คเอ้าท์โรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ ทุ่งหญ้าดิโอซาย (Deosai Plain) แวะถ่ายรูปทะเลสาบซัดโปรา Satpora lake เป็นทะเลสาบที่สวยงามในหุบเขาที่เกิดจาก การละลายของหิมะจาก เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
นำท่านสู่ อุทยานแห่งชาติดิโอซาย (Deosai National Park) เป็นที่ราบสูงที่มีความสูงเฉลี่ย 4,114 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ทำให้เป็นที่ราบสูงที่สูงเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากที่ราบสูงทิเบตฉางถัง อุทยานแห่งชาตินี้ครอบคลุมพื้นที่ 843 ตร.กม. เป็นแหล่งของพืชและสัตว์ที่อุดมสมบูรณ์ในเชิงนิเวศของที่ราบสูงอัลไพน์ ในฤดูใบไม้ผลิจะปกคลุมไปด้วยดอกไม้ป่าและผีเสื้อนานาชนิด ในช่วงฤดูร้อนจะมีไฮไลท์คือทุ่งดอกไม้ สีแดง สีชมพู สีเหลือง สีขาว สีฟ้า ตลอดเส้นทาง และ มีสัตว์ป่าอย่าง Mamot ให้เห็นตลอดเส้นทางโดยเฉพาะในช่วงเช้าๆ หรือ เย็นๆ และถ้าหากเราโชคดีก็จะเจอ หมีหิมาลัยสีน้ำตาล หรือ Himalayan Brown Bear (เป็นการตะลุยป่าเขาด้วยรถขับเคลื่อน 4 ล้อในอุทยาน)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันแบบปิคนิค
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองกิลกิต (Gilgit) ซึ่งเป็นเมืองสำคัญในอดีตเพราะเคยเป็นเมืองที่มีเส้นทางสายไหมตัดผ่านและเป็นเส้นทางเผยแพร่พุทธศาสนาไปยังเมืองต่าง ๆ ปัจจุบันกลายเป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญไปตามทางหลวงโคราคารัม (KARAKORAM) ที่มีเส้นทางเชื่อมต่อไปยังเมืองสการ์ดู, เมืองจิตราล, เมืองเปศวาร์อิสลามาบัด และประเทศจีน เราจะเดินทางไปตามถนนหลวงคาราโครัม ท่านจะได้พบกับความสวยงามของแม่น้ำฮุนซ่ารวมถึงหมู่บ้านต่างๆ ริมทางขนานกับเส้นทางสายไหมเก่า (OLD SILK ROAD) ซึ่งในอดีตเป็นเส้นทางการค้าและวัฒนธรรม
ระหว่างทาง แวะถ่ายภาพจุดชมวิว นันการ์ พาบัด (Nanga Parbat) (8,125เมตร), ราคาโปชิ (Rakaposhi) (7,788เมตร) และ ฮาราโมช (Haramosh) (7,409เมตร)
แวะถ่ายรูป ชมวิวสวยงามอลังการของจุดบรรจบของเทือกเขา 3 เทือกที่ได้ชื่อว่าสูงที่สุดในโลก คือเทือกเขาฮินดูกูช เทือกเขาหิมาลัย และเทือกเขาคาราโครัม และยังเป็นจุดบรรจบของแม่น้ำ 2 สาย คือแม่น้ำกิลกิต (Gilgit River) และแม่น้ำสินธุไหลมาบรรจบกันก่อเกิดเป็นแม่น้ำสินธุ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
พักที่ พักโรงแรม5ดาวมาตราฐานท้องถิ่น Serena Gilgit Hotel เมืองกิลกิต หรือเทียบเท่า (4)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- เช็คเอ้าท์โรงแรม นำท่านชม พระพุทธรูปคาร์กาห์ (Kargah Buddha) มรดกแห่งพุทธศาสนาที่ยังคงเหลืออยู่ใน “ปากีสถาน” พระพุทธรูปยืนถูกแกะสลักไว้บนหน้าผาในหุบเขาคาร์กาห์ ในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 7 พระพุทธรูปมีลักษณะเป็นองค์พระยืน ในลักษณะแบบนูนต่ำ องค์พระมีความสูง 50 ฟุต ปรากฏเด่นอยู่บนหน้าผาหินตั้งชัน ถูกค้นพบในช่วงปี ค.ศ. 1938 – 1939 ห่างจากองค์พระไปประมาณ 400 เมตร ยังค้นพบเจดีย์ 3 องค์ด้วยเช่นกัน มีตำนานที่เกี่ยวกับพระพุทธรูปแกะสลักคาร์กาห์นี้ที่ถูกเล่าขานโดยชาวบ้านในท้องถิ่น ตามตำนานระบุว่าครั้งหนึ่ง บริเวณแถบนี้มียักษ์กินคนตนหนึ่งอาศัยอยู่ เรียกกันว่า “ยักษิณี” (YAKHSNI) ชาวบ้านนั้นได้รับความเดือดร้อนจากยักษ์ตนนี้ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากนักบวชที่ผ่านทางมาและนักบวชก็ได้ตรึงนางยักษิณีตนนี้ไว้ที่ก้อนหินเพื่อไม่ให้สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านอีก (จากจุดจอดรถจะต้องเดินเข้าไปประมาณ 15 นาที)
จากนั้นนำท่านเดินชมตัวเมืองกิลกิต ผ่านย่านร้านค้า ตลาดพื้นเมืองสุเหร่า รวมทั้งสนามแข่งโปโล ซึ่งเป็นกีฬาที่นิยมมากในทางเหนือของปากีสถาน อิสระให้ท่านช๊อปปิ้งสินค้าพื้นเมือง ของที่ระลึกที่ตลาดพื้นเมืองกิลกิต (Gilgit Bazaar) ชม สะพานแขวนกิลกิต (Gilgit Suspension Bridge)ซึ่งเป็นสะพานแขวนในสมัยโบราณที่ยังคงใช้งานอยู่ในปัจจุบัน เป็นสะพานแขวนที่รถสามารถวิ่งผ่านได้ สร้างโดยกองทัพอังกฤษในช่วงค.ศ.ที่ 19
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน
บ่าย ชมวิว ราคาโพชิ (Rakaposhi View Point) เป็นภูเขาที่ได้ฉายาว่า“ราชินีแห่งปากีสถาน” มีความสูงถึง7,788 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลและถูกจัดอันดับความสูงอยู่ในอันดับที่ 27 ของโลก ได้ชื่อว่าเป็นภูเขาหิมะที่สวยสง่างดงามมาก
นำท่านชม ป้อมปราการบัลทิต (Baltit Fort) ตั้งอยู่ในหุบเขาฮุนซ่าใกล้เมืองคาริมาบัดทางตอนเหนือของปากีสถาน โดยได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกตั้งแต่ปี ค.ศ. 2004 ป้อมปราการมีความเก่าแก่ถึง 700 ปี ในอดีตเคยเป็นพระราชวังหลวงที่มีสถาปัตยกรรมรูปแบบผสมผสาน ระหว่างแคชเมียร์กับทิเบต พระราชวังได้มีการปรับปรุงและต่อเติมในส่วนต่าง ๆ เพิ่มขึ้น จนมีรูปแบบเหมือนดังเช่นปัจจุบัน ทางขึ้นของป้อมปราการนั้นรถไม่สามารถขึ้นไปได้ จะต้องเดินเท้าขึ้นไป
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
พักโรงแรม4ดาวมาตราฐานท้องถิ่น Darbar Hotel เมืองฮุนซ่า หรือเทียบเท่า (5)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น นำท่านนั่งรถจี๊ปเดินทางสู่ หุบเขานากา (Nagar Valley) ในฮอปเปอร์วัลเล่ย์ Hoper Valley หุบเขานากาเคยเป็นเมืองหลวงของอดีตรัฐนากา ในอดีตเคยเป็นรัฐที่ปกครองพื้นที่โดยรอบยาวนานถึง1,200 ปีจนกระทั่งล่มสลายลงใน ค.ศ.1974 เป็นสถานที่นิยมสำหรับชื่นชมทัศนียภาพของยอดเขาโดยรอบทั้งยอดเขา ราคาโปชิ Rakaposhi ยอดเขาดิราน Diran และอื่น ๆ กว่า 30 ยอดเขาและ Hoper Valley เป็นจุดชมวิวที่สวยงามจุดนึงของหุบเขานากา
นำท่านชม ธารน้ำแข็งฮอปเปอร์ (Hopper Glacier) เป็นธารน้ำแข็งที่มีความเก่าแก่จากการทับถมของหิมะที่มีมาอย่างยาวนาน จากหิมะจนกลายเป็นหิน มีบันทึกว่าธารน้ำแข็งแห่งนี้ เคลื่อนไหวเร็วที่สุดในโลก จุดที่เราจะเข้าไปชมนั้นจะเป็นจุดที่ใกล้ธารน้ำแข็งมากที่สุด
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านสู่ หมู่บ้านกานิช (Ganish Village) หมู่บ้านโบราณ ซึ่งในอดีตนั้นมีความเฟื่องฟูเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นทางผ่านของเส้นทางสายไหมจึงทำให้คนจากหลายเมืองผ่านมาพักที่หมู่บ้านแห่งนี้ หมู่บ้านกานิชได้รับรางวัล Unesco’s Asia–Pacific Heritage Award ในฐานะเป็นหมู่บ้านที่อนุรักษ์ความเก่าแก่โบราณไว้ได้เป็นอย่างดี บ้านส่วนใหญ่สร้างด้วยหิน และดินเหนียวผสมซีเมนต์ ซึ่งได้รับการอนุรักษ์ไว้แบบดั้งเดิม
จากนั้นนำท่านชม ป้อมอัลติท (Altit Fort) เป็นป้อมปราการโบราณในหุบเขาฮุ่นซ่า เดิมเป็นบ้านของผู้ปกครองในตระกูล Hunza ซึ่งได้รับฉายาว่า Mir แม้ว่าพวกเขาจะย้ายไปอยู่ที่ป้อม Baltit ที่อายุน้อยกว่าในอีก 3 ศตวรรษต่อมา ผ่านชมหมู่บ้านอายุกว่า 1,000 ปี ชนเผ่าที่มีอายุยืนมากที่สุดในโลก ซึ่งถือได้ว่าเป็นชุมชนแรกๆ ในแคว้นกิลกิต- บัลติสถาน ลักษณะโดยทั่วไปจะเป็นคนผิวขาวมีในตาสีฟ้า หน้าคม เหมือนคนชาวยุโรป เพราะเป็นลูกหลานของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่กรีฑาทัพไปตีชมพูทวีป เมื่อประมาณ 326 ปีก่อนคริสตกาล
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
พักโรงแรม4ดาวมาตราฐานท้องถิ่น Darbar Hotel เมืองฮุนซ่า หรือเทียบเท่า (6)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- เช็คเอ้าท์โรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ท่าเรือ เพื่อ นั่งเรือชมทะเลสาบอัตตาบัต (Attabad Lake) (จะใช้เวลาประมาณ 30 นาที) ท่านจะได้ชมความงดงามของทะเลสาบสีฟ้าราวกับเทอร์ควอยซ์ตัดกับเทือกเขาที่มีหิมะปกคลุม ทะเลสาบตั้งอยู่ในหุบเขาฮุนซ่า เกิดจากดินถล่มเพราะแผ่นดินไหวเมื่อปี 2010 ลงมาปิดกั้นการไหลของน้ำในแม่น้ำฮุนซ่าจึงเกิดเป็นทะเลสาบแห่งนี้ ทะเลสาบมีความยาว 21 กิโลเมตร และลึก 103 เมตร ทางการจีนได้ช่วยสร้างอุโมงค์ผ่านภูเขาเพื่อเชื่อมกับถนนคาราโครัมใหม่ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน
บ่าย นำท่านชมวิว ธารน้ำแข็งพาสสุ (Passu Glacier) ธารน้ำแข็งที่มีอายุกว่า 900 ปี เกิดจากหิมะที่ตกสะสมจนหนา 50-60 เมตร เคลื่อนตัวลงมาตามไฟลเขาอย่างช้าๆ ทำให้เกิดการสึกกร่อนลึกลงไป เพราะความหนักของหิมะ
นำท่านสู่ สะพานฮุซเซนี (Hussaini Suspension Bridge) หรือ สะพานวัดใจ เป็นสะพานแขวนมีอายุนับร้อยปี ถูกจัดให้เป็นสะพานที่น่ากลัวที่สุดในโลก สะพานมีลักษณะถูกขึงด้วยสลิงพาดด้วยไม้แบบห่างๆสร้างขึ้นเพื่อให้ชาวบ้านใช้ในการสัญจรและขนของต่างๆ ข้ามแม่น้ำกุลจีราฟที่ไหลมารวมกับแม่น้ำชิมเชา
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
พักที่ พักโรงแรม3ดาวมาตราฐานท้องถิ่น Passu Tourist Lodge เมืองพาสสุ หรือเทียบเท่า (7)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- เช็คเอ้าท์โรงแรม
นำท่านเดินทาง ช่องเขาคุนจีราบ (Khunjerab Pass) ใส่เสื้อกันหนาวหนาๆ วันนี้เราจะขึ้นไปที่คุนจีราบพาส ความสูงระดับ 4,693 เมตร จากระดับน้ำทะเล เป็นจุดยุทธศาสตร์บนพรมแดนตอนเหนือของประเทศปากีสถาน ตลอดเส้นทางเป็นเทือกเขาหิมะสลับซับซ้อนบรรยากาศราวสวิสเซอร์แลนด์ ช่องเขาคุนจีราบ (Khunjerab Pass) ตั้งอยู่ในช่วงเขตพรมแดนระหว่างปากีสถานและจีน จุดบรรจบแห่งอารยธรรมโบราณบนเส้นทางสายไหมที่เชื่อมเอเชียกลางสู่ยุโรป และสามารถพบเห็นสัตว์หายาก เช่นตัว Ibex หรือ แพะภูเขา, Yak, แกะพันธ์มาโคโปโล ที่อาศัยอยู่ตามไหล่เขาสูง นำท่านสู่จุดสุดท้ายที่ด่านพรมแดนที่สูงที่สุดในโลก เป็นจุดที่มีความสูงที่สุดของถนนหลวงลอยฟ้าคาราโครัมย์ไฮเวย์ ในสมัยก่อนเป็นเส้นทางสายไหมระหว่างประเทศจีน อินเดีย และอัฟกานิสถานเพื่อทำการค้าขาย ให้ทุกท่านเก็บภาพถ่ายวิวสวยๆกับ ชายแดนปากีสถาน
จากนั้นนำท่านเดินทางกลับเมืองฮุนซ่า (หมายเหตุ: การขึ้นสู่จุดด่านพรมแดนคุนจีราบขึ้นอยู่กับสภาพอากาศวันนั้นด้วยเช่นกัน บริษัทฯของสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนรายการตามความเหมาะสม)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน
บ่าย นำท่านถ่ายรูปสะพานสีรุ้ง (Rainbow Bridge) สะพานหลากสีข้าแม่น้ำสีฟ้าที่มีฉากหลังเป็นแนวเทือกเขาคาราโรรัม และถ่ายรูจุดเช็คอินที่เป็นสัญลักษณ์ของถนนคาราโครัมที่มีฉากหลังเป็นเทือกเขาคาราโครัม จากนั้นนำท่านสู่หมู่บ้านพาสสุ Passu Village หมู่บ้านเล็กๆ เห็นวิวของ Passu Peak จากนั้นทำท่านเดินทางกลับสู่เมืองฮุนซ่า
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
พักที่ พักโรงแรม4ดาวมาตราฐานท้องถิ่น Eagle Nest Hotel เมืองฮุนซ่า หรือเทียบเท่า (8)
เช้าตรู่ นำท่านไปชมแสงแรกของวันที่ ยอดเขา เลดี้ ฟิงเกอร์ (Lady finger) หรือ ยอดเขาทะลุทะเลเมฆ ยอดเขารูปทรงประหลาด สะกดทุกสายตาที่ได้พบเห็น ตื่นเช้ามาด้วยความสดชื่นท่ามกลางบรรยากาศยามเช้าของหุบเขากลางเทือกเขาหิมาลัย ชมแสงแรกของพระอาทิตย์ขึ้นเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง ให้ท่านได้เก็บภาพบรรยากาศแสงพระอาทิตย์กระทบยอดเขาหิมะ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- เช็คเอ้าท์โรงแรม
นำท่านเดินทางสู่หุบเขานาราน กากัน Naran Kaghan (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6-7 ชั่วโมง) หุบเขาที่สวยงามอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเขต Mansehraหุบเขา Naran Kaghan โดยคณะจะแวะถ่ายรูปไปเรื่อยๆตามจุดธรรมชาติอันสวยงาม ผ่านหุบเขาที่สวยงามของ Kaghan เป็นที่รู้จักกันดีว่ามีทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงาม เป็นภูเขาสูงและป่าไม้และทุ่งหญ้าเป็นภูเขา (ในกรณีที่ถนนเส้นนี้ปิด คณะจะใช้อีกเส้นทางไปบิชามเรียบริมแม่น้ำสินธุ และถนนคาราโครัม)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน
นำท่านเยือน Naran Bazaar มีคนจำนวนมากมาตลาดแห่งนี้ในช่วงฤดูร้อน มีโรงแรมและร้านอาหารให้บริการมากมาย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
พักที่ พักโรงแรม3ดาวมาตราฐานท้องถิ่น One Naran เมืองนาราน หรือเทียบเท่า (9)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางสู่ เมืองตักศิลา (Taxila) อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐปัญจาบ เป็นที่ตั้งของอดีตราชธานีอันยิ่งใหญ่แห่งแคว้นคันธาระ เมืองตักศิลา อดีตเป็นนครหลวงแห่งแคว้นคันธาระ (Ghandara)เมืองมหาวิทยาลัย ศูนย์กลางการศึกษาศิลปะและวิทยาการแขนงต่าง ๆ ของอินเดียโบราณตั้งแต่ก่อนพุทธกาลเดิมชื่อว่า ตักชาศิลา-Takshasila เป็นภาษาสันสกฤต ต่อมาเมื่ออเล็กซานเดอร์มหาราชรุกรานอินเดียเมื่อ 326 ปีก่อนคริสตกาล ได้มาหยุดพักที่เมืองนี้แล้วเปลี่ยนชื่อเป็นตักศิลา...
นำท่าน เยี่ยมชมเมืองโบราณตักศิลา (Taxila) และซากพุทธสถานโบราณ รวมทั้งอารามพุทธจูเลียนตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 2 ถึง พุทธศตวรรษที่ 5 สถูปธรรมราจิกา (ศตวรรษที่ 2 ถึง ค.ศ. 5) ชม พิพิธภัณฑ์ตักศิลา (Taxila Museum) เก็บรวบรวมหลักฐานความเป็นอยู่และภูมิปัญญาของชาวตักศิลายุคต่าง ๆ รวมถึงซากสถูปเจดีย์ วัดวาอาราม เหรียญกรีกในยุคสมัยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช และพระพุทธรูปสมัยคันธาระจำนวนมาก
นำท่านเดินทางสู่ กรุงอิสลามาบัด (Islamabad) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศปากีสถาน
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน
บ่าย นำท่านชม มัสยิดไฟซาล (Fisal Mosque)เป็นจุดศูนย์กลางของเมืองอิสลามาบัด ชาวมุสลิมจะเข้ามาใช้เพื่อประกอบศาสนกิจ มัสยิดแห่งนี้เปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อปี ค.ศ. 1987 สร้างโดยกษัตริย์ซาอุดิอาระเบีย King Faisal จึงนำพระนามของพระองค์ใช้เป็นชื่อมัสยิดแห่งนี้ มัสยิดไฟซาลสามารถจุจุคนได้ถึง 100,000 คน และบริเวณรอบนอกจุได้อีกกว่า 200,000 คน (การเข้าชมควรแต่งกายสุภาพ มิดชิด ไม่ส่งเสียงดัง และก่อนถ่ายภาพควรขอขออนุญาตก่อนทุกครั้ง)
นำท่านไปยัง อนุสาวรีย์ปากีสถาน (Pakistan Monument) เป็นอนุสาวรีย์แห่งชาติตั้งอยู่บริเวณเนินเขาชาการ์ปาเรียนทางตะวันตก ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคีของชาวปากีสถาน อนุสาวรีย์นั้นถูกสร้างให้เหมือนรูปกลีบดอกไม้สี่กลีบ สร้างขึ้นจากหินแกรนิต โดยแต่ละกลีบนั้นเป็นตัวแทนแคว้นสำคัญของปากีสถานทั้ง 4 แห่งได้แก่ แคว้นบาลูจิสถาน,แคว้นสินธ์,แคว้นปัญจาบ และแคว้นไคเบอร์ปัคตูนควา โดยแต่ละกลีบจะมีภาพแกะสลักของ สถานที่สำคัญของประเทศทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ มัสยิดแบดชาฮิ, ป้อมเมืองลาฮอร์, ช่องเขาไคเบอร์ และมินาร์ เอ ปากีสถาน ในใจกลางของอนุสาวรีย์จะมีประติมากรรมรูปสามเหลี่ยมที่มีฐานเป็นดาวห้าแฉก ล้อมรอบไปด้วยน้ำ ที่แสดงถึงบุคคลสำคัญอย่าง มูฮัมหมัด อาลี จินนาห์ บิดาแห่งปากีสถานและมูฮัมมัด อิกบาล กวีและนักปรัชญาที่มีชื่อเสียงแห่งปากีสถาน ซึ่งดวงดาวและพระจันทร์ยังเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาอิสลามอีกด้วย
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติ อิสลามาบัต เพื่อเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ
23.20 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG-350
06.25น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ
กำหนดการ : 11-22 มิ.ย. , 14-25 มิ.ย. , 18-29 มิ.ย. | ||
---|---|---|
ลักษณะการเข้าพัก | ราคาทัวร์ รวมตั๋ว(บาท/ท่าน) | ราคาทัวร์ ไม่รวมตั๋ว(บาท/ท่าน) |
ผู้ใหญ่ พักห้องคู่ ราคาท่านละ | 79,900 | - |
เด็ก พักกับผู้ใหญ่ 1 ท่าน ราคาท่านละ | 79,900 | - |
เด็ก พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (มีเตียง) ราคาท่านละ | 79,900 | - |
เด็ก พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (ไม่มีเตียง) ราคาท่านละ | 79,900 | - |
ผู้ใหญ่ ต้องการพักห้องเดี่ยว ราคาท่านละ | 91,900 | - |
ผู้ใหญ่ 3 ท่าน พัก 1 ห้อง ราคาท่านละ | 79,900 | - |
เดือนมิถุนายน 68 | ผู้ใหญ่ | เด็ก | ||||
---|---|---|---|---|---|---|
วันที่เดินทาง | พักคู่ ท่านละ | พักเดี่ยว ท่านละ | พักสาม ท่านละ | เด็ก ท่านละ | มีเตียง ท่านละ | ไม่มีเตียง ท่านละ |
79,900 | 91,900 | 79,900 | 79,900 | 79,900 | 79,900 | |
79,900 | 91,900 | 79,900 | 79,900 | 79,900 | 79,900 | |
79,900 | 91,900 | 79,900 | 79,900 | 79,900 | 79,900 |