ทัวร์ยุโรป สวิตเซอร์แลนด์ เซอร์แมท นั่งรถไฟขึ้นเขากรอนเนอร์แกรต อาเล็ทช์อารีนา เลาเทอร์บรุนเน่น 8 วัน 6 คืน สายการบินสวิสแอร์

10.20 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ สายการบินสวิสแอร์ โดยมีเจ้าหน้าที่ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
13.10 น. ออกเดินทางสู่สวิสเซอร์แลนด์ โดยสายการบินสวิส แอร์ เที่ยวบิน LX 181
19.25 น. เดินทางถึงสนามบินซูริค (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร นำท่านเดินทางสู่ที่พัก
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก HARRY’S HOME หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นเดินทางต่อสู่ เมืองซุก (Zug) เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบที่สวยงามราวกับเทพนิยายตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนบนของประเทศ โดยนอกจากความสวยงามของทัศนียภาพแล้ว เมืองนี้ยังมีอัตราการเก็บภาษีที่ค่อนข้างต่ำจึงถือเป็นที่ตากอากาศที่นิยมของเหล่าเศรษฐี คนดังสำคัญระดับโลกมากมายมาเยือน ท่านอาจจะเห็นซูเปอร์คาร์จอดเรียงรายอยู่ 2 ข้างทาง จนเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย
นำท่านชมเมืองชมหอนาฬิกาเมืองซุก (Clock Tower) แลนด์มาร์กที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง ด้วยความสูงของหอถึง 52 เมตรและความโดดเด่น ของหลังคาซึ่งเป็นสีน้ำเงินขาวโดนเด่นตัดกับสีหลังคาสีน้ำตาลของบ้านเมืองสวยงามอย่างยิ่ง มีเวลาให้ท่านเดินขึ้นบันไดสู่จุดชมวิวด้านบนของหอนาฬิกา ที่ท่านจะสามารถเห็นวิวที่สวยงามโดยรอบของเมืองซุก
นำท่านเข้าชมโบสถ์เซนท์ออสวอร์ล (St Oswald's church) โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญของเมือง ตัวโบสถ์สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1478 ใช้เวลาการก่อสร้างนานถึง 6 ปี ถือเป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่สำคัญที่สุดในช่วงโกธิคตอนปลายแห่งหนึ่งในสวิตเซอร์แลนด์ นอกจากนี้ ชาวสวิสยังมีความเชื่ออีกว่า ถ้าใครมีเรื่องทุกข์ร้อนใดๆ หรือเจ็บป่วย ถ้าได้มาขอพรกับโบสถ์แห่งนี้ จะช่วยบรรเทาให้ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว (กรณีถ้ามีพิธีภายในโบสถ์ อาจไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าชม)
นำท่านเข้าชมร้านทำทองที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป (The Oldest house of goldsmiths in Europe) ของครอบครัว Lohri เปิดทำการตั้งแต่สมัยศัตวรรษที่ 16 ภายในตัวอาคารมีการตกแต่งในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยจักวรรดินโปเลียน มีซุ้มประตูและเสาโรมัน มีรูปปั้นและจิตรกรรมฝาผนัง ด้วยการวาดลายหินอ่อนด้วยมือ ในปี 1971 ได้เปิดร้านนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายาก และบางชิ้นมีเพียงชิ้นเดียวในโลก มีเวลาให้ท่านเดินชื่นชมอาคาร งานศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายากแล้ว ในส่วนของ Lohri Store ยังมีนาฬิกาชั้นนำระดับโลกให้ท่านเลือกซื้อเลือกชมอาทิ เช่น Patek Philippe, Franck Muller Cartier , Piaget, Parmigiani Fleurier, Panerai, IWC , Omega, Jaeger-LeCoultre, Blancpain, Tag Heuer ฯลฯ และไม่ควรพลาดเค้กเชอร์รี่ Zug Cherry Cake (Zuger Kirschtorte) จากร้าน Speck เค้กที่มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และมีขายมากว่าร้อยปี มีบุคคลที่มีชื่อเสียงมากมายต่างเคยลิ้มลองเค้กจากร้านนี้ เช่น Charlie Chaplin, Winston Churchill หรือสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส โดยเมืองซุกนี้มีการทำฟาร์มผลไม้ ทั้งสตอเบอร์รี่, บูลเบอร์รี่, ราสเบอร์รี่,ลูกแพร์ ฯลฯ รวมทั้ง เชอร์รี่ ที่มีปลูกมากกว่า 40,000 ต้น
นำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองแองเกิลเบิร์ก (Engelberg) เพื่อขึ้นกระเช้า “Titlis Rotair” กระเช้าลอยฟ้าทันสมัยระบบใหม่ล่าสุด ที่สามารถหมุนได้ 360 องศารอบตัวเอง ท่านสามารถรับชมทัศนียภาพอันตระการตาได้รอบทิศทางตามเส้นทางขึ้นสู่ ยอดเขาทิตลิส (Titlis) จากนั้นนำท่านเข้าชมถ้ำน้ำแข็ง (Ice Grotto) ถ้ำน้ำแข็งที่ไม่เคยละลาย เชิญเพลิดเพลินสนุกสนานกับการเล่นหิมะบนลานสกี สุดแสนประทับใจเป็นอย่างยิ่ง ชมทิวทัศน์ของยอดเขาต่างๆ ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะอันขาวโพลนสร้างความงดงามให้กับขุนเขาเป็นอันมาก มีเวลาให้ท่านได้เดินข้าม "The Titlis Cliff Walk" สะพานแขวนที่ตั้งอยู่สูงที่สุดของทวีปยุโรป ที่ความสูง 3,041 เมตรจากระดับน้ำทะเล สะพานมีความยาว 100 เมตร ท่านจะได้ชมทัศนียภาพที่สวยงามของเทือกเขาแอลป์ อันสวยงามแบบกว้างไกลสุดสายตา (สะพานแขวนอาจจะปิด ในกรณีถ้าสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนยอดเขา
นำท่านเดินทางสู่เมืองลูเซิร์น (Lucerne) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา จากนั้นพาท่านชมสิงโตหินแกะสลัก (Dying Lion of Lucerne) ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิสที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 ชมสะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ำรอยส์ (Reuss River) อันงดงามซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิส ตลอดแนวสะพาน จากนั้นให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าของสวิส เช่น ช็อคโกแลต, เครื่องหนัง, มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่น Rolex, Omega, Tag Heuer เป็นต้น หลังจากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่เมืองซูริค
ค่ำ อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก HARRY’S HOME หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ออกเดินทางสู่ เมืองกรินเดอวาลด์ (Grindelwald) เมืองตากอากาศที่สวยงาม เพื่อขึ้นกระเช้าEiger Express กระเช้าลอยฟ้าตัวใหม่ สู่สถานี Eigergletscher โดยกระเช้าตัวนี้นอกจากจะให้ท่านได้เห็นวิวความสวยงามของจุงเฟราโดยรอบแล้วยังจะช่วยให้ท่านลดเวลาลงกว่า 40 นาที เมื่อเทียบกับการขึ้นสู่ยอดเขาแบบเดิม
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางต่อด้วยรถไฟเพื่อขึ้นสู่ สถานีรถไฟจุงเฟรายอร์ค (Jungfraujoch) สถานีรถไฟที่อยู่สูงที่สุดในยุโรป (Top of Europe) ระหว่างเส้นทางขึ้นสู่ยอดเขาท่านจะได้ผ่านชมธารน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่ โดยเมื่อปี คศ.2001 องค์การยูเนสโกประกาศให้ยอดเขาจุงเฟรา เป็นพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของยุโรป มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 11,333 ฟุตหรือ 3,454 เมตร หลังจากนั้นนำท่านเข้าชมถ้ำน้ำแข็ง (Ice Palace) ที่แกะสลักให้สวยงาม อยู่ใต้ธารน้ำแข็งลึกถึง 30 เมตร อิสระให้ท่านได้สนุกสนานกับการถ่ายรูป เล่นหิมะบนยอดเขาและเพลิดเพลินกับกิจกรรมบนยอดเขา และที่ไม่ควรพลาดกับการส่งโปสการ์ดโดยที่ทำการไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในยุโรป
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนยอดเขา
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่เมืองอินเทอร์ลาเกน (Interlaken) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่าง ทะเลสาบทูน (Lake Thun) และทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) อิสระให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติแบบสวิตเซอร์แลนด์ในเมืองเล็กๆ
สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านเลาเทอร์บรุนเน่น (Laterbrunnen) หมู่บ้านเล็กๆ อันเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย ที่ซ่อนตัวอยู๋ในอ้อมกอดของหุบเขาอันสวยงาม ซึ่งหมู่บ้านแห่งนี้มีน้ำตกมากถึง 72 แห่ง ที่คอยอวดโฉมให้ได้ชม โดยน้ำตกมีชื่อเสียงที่สุดชื่อว่า น้ำตกชเตาบ์บาค (Staubbach waterfall) มีความสูง 297 เมตร และเป็นหนึ่งในน้ำตกที่ตกลงมาแบบม้วนเดียวจบที่สูงที่สุดในยุโรป หลังจากนั้นำท่านเดินทางกลับสู่ซูริค
เย็น รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก HARRY’S HOME หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ สถานีเมืองคูร์ (Chur) เพื่อโดยสาร รถไฟกลาเซียร์เอ็กซ์เพรส (Glacier Express) “รถไฟด่วนที่วิ่งช้าที่สุดในโลก” หนึ่งในรถไฟท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ด้วยที่นั่งแบบเฟิร์สคลาส (First Class) เบาะใหญ่ นั่งสบาย พร้อมกระจกชมวิวบานใหญ่โดยรถไฟวิ่งข้ามผ่านภูมิประเทศที่น่าตื่นตาตื่นใจของสวิตเซอร์แลนด์ ผ่านเทือกเขาแอลป์, หน้าผา, หุบเขา, ธารน้ำแข็ง, ทะเลสาบ และ แม่น้ำ ที่เรียกได้ว่าสวยงามตระการตานอกจากท่านจะได้เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพอันสวยงามของสองข้างทางแล้ว ยังให้ท่านสัมผัสรสชาติอาหารสวิต ที่มาเสริฟให้ท่านถึงที่นั่ง
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ บนรถไฟกลาเซียร์เอ๊กเพรซ พร้อมชมวิวสุดอลังของสวิตเซอร์แลนด์ระหว่างทานอาหาร
นำท่านเดินทางถึงสถานีเมืองบริก โดยเมืองบริก (Brig) นั้น เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่ในรัฐวาเล่ส์ มีอายุมากกว่า 800 ปี ด้วยความตัวเมืองอยู่ใกล้ชายแดนระหว่างสวิตเซอร์แลนด์และอิตาลีนั้น ทำให้ในอดีตเมืองบริกมีความสำคัญเพราะเป็นทางผ่านของเส้นทางขนส่งสินค้าระหว่าง สวิตเซอร์แลนด์และอิตาลี
นำท่านถ่ายรูปคู่กับ ปราสาทสต็อกคัลเปอร์ (Stockalper Palace) สัญลักษณ์สำคัญของเมืองบริกเป็นปราสาทสไตล์บาร๊อคซึ่งสร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 17 โดยพ่อค้าชื่อ Kaspar Stockalper โดยเริ่มก่อสร้างจากการเป็นบ้านมาก่อน ก่อนจะต่อยอดพัฒนามาเป็นปราสาทดังเช่นในปัจจุบัน ในอดีตปราสาทสต็อกคัลเปอร์ถูกนับว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่ไม่ใช่ที่สาธารณะที่ใหญ่ที่สุด (Largest Private Construction) นอกจากนี้แล้วเมืองบริกนั้นเป็นเมืองที่เป็นต้นกำเนิดของเมนูกอร์ดองเบลอ (Cordon Bleu) หรือเนื้อห่อแฮมชีสทอด อีกด้วย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (เมนูพิเศษ หมูกอร์ดองเบลอ เมนูชื่อดังระดับโลกที่มีต้นกำเนิดจากเมืองบริก เริ่มค้นพบตั้งแต่ช่วงปีที่ 1940 โดยคาดว่าดัดแปลงมาจาก Pork Schnitzel ที่มีชื่อเสียงของประเทศออสเตรีย โดยเมนูกอร์ดองเบลอนั้นเป็นการนำเนื้อ(หมู)มาแล่ให้บางๆ ขนาดพอดีคำ พร้อมห่อด้วยแฮมชีสและนำไปชุบไข่พร้อมเกล็ดขนมปังและนำไปทอดร้อนๆ จนสุกพอดี ข้างนอกกรอบ ข้างในชีสเยิ้มๆ นิยมทานคู่กับมายองเนส ,ซอสบาร์บีคิวหรือซอสมะเขือเทศ)
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองซิยง ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก MOXY SION หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านขึ้น กระเช้าสู่ยอดเขาเอกกิสฮอร์น (Eggishorn) ยอดเขาเอกกิสฮอร์นนั้นเป็นยอดเข้าที่ตั้งอยู่ในเขตของ Jungfrau-Aletsch-Bietschhorn รัฐ Valais มีความสูงของยอดเขาอยู่ที่ 2,927 เมตร โดยยอดเขาเอกกิสฮอร์นนั้นเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวในการมาชมวิวธารน้ำแข็งยักษ์อาเล็ทช์ กลาเซียร์ เพราะเนื่องจากเป็นจุดชมวิวที่ตั้งอยู่สูงสุดที่จะสามารถชมวิวธารน้ำแข็งยักษ์ อาเล็ทช์ กลาเซียร์ ได้ โดยทั่วไปแล้วการขึ้นชม อาเล็ทช์ กลาเซียร์ นั้นสามารถขึ้นชมได้ทั้งหมด 3 ทาง
ซึ่งจะมีระดับความสูงจะลดหลั่นกันไปตามแต่ละจุดดังนี้
1. จุดชมวิว Moosfluh มีความสูงอยู่ที่ 2,333 เมตร
2. จุดชมวิวBettmerhorn มีความสูงอยู่ที่ 2,647 เมตร และ
3.จุดชมวิว Eggishorn มีความสูงอยู่ที่ 2,869 เมตร ** ในกรณีที่ไม่สามารถขึ้นจุดชมวิว Eggishorn ได้ ทางบริษัทจะเปลี่ยนไปจุดชมวิวอื่นแทน **
นำท่านชม มหาธารน้ำแข็งยักษ์อาเล็ทช์ กลาเซียร์ (Aletsch Glacier) ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่สุดในเทือกเขาแอลป์ มีความยาวประมาณ 23.6 กิโลเมตร พื้นที่โดยรวมกว่า 100 กิโลเมตร ถูกค้นพบเมื่อช่วงศตวรรษที่ 19 โดยธารน้ำแข็งนี้เกิดขึ้นจากการบรรจบกันของธารน้ำแข็งขนาดย่อย 4 สาย อันได้แก่ ธารน้ำแข็งโกรเซอร์อาเล็ทช์เฟียร์น (Grosser Aletschfirn), ธารน้ำแข็งจุงเฟราเฟียร์น (Jungfraufirn) , ธารน้ำแข็งเอวิกชเนเฟ็ลท์ (Ewigschneefäld) และธารน้ำแข็งกรุนเน็คเฟียร์น (Grüneggfirn) ให้ท่านได้สัมผัสกับความงดงามของมหาธารน้ำแข็งสีขาวที่มาบรรจบกับท้องฟ้าสีฟ้า ประกอบกับทิวทัศน์อันสวยงามที่โอบล้อมด้วยเทือกเขาแอลป์ โดยในวันที่อากาศดีท่านอาจจะได้เห็นยอดเขาที่มีชื่อเสียงต่างๆของสวิตเซอร์แลนด์ เช่น ยอดเขาจุงเฟราหรือยอดเขามัตเตอร์ฮอร์นอีกด้วย โดยสถานที่แห่งนี้ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงลำดับต้นๆของสวิตเซอร์แลนด์และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติของประเทศสวิตเซอร์แลนด์เมื่อปีค.ศ. 2001
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเซอร์แมท (Zermatt) เมืองแห่งสกีรีสอร์ท ยอดนิยมที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากเป็นเมืองที่ปลอดมลพิษทางอากาศเพราะยานพาหนะในเมืองไม่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง แต่ใช้แบตเตอรี่เท่านั้น และยังมีฉากหลังของตัวเมืองเป็นยอดเขาแมททอร์ฮอร์น (Matterhorn) ที่ได้ชื่อว่าเป็นยอดเขาที่มีรูปทรงสวยที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์
นำท่านนั่งรถไฟฟันเฟืองสู่ สถานีรถไฟกรอนเนอร์แกรต (Gornergrat railway) เดินทางสู่จุดชมวิวที่ท่านจะได้เห็นทัศนียภาพที่สวยงามของยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์นที่สวยงาม โดยท่านสามารถเดินเท้าสู่บริเวณทะเลสาบที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 2,757 เมตร โดยบริเวณทะเลสาบนี้เป็นเงาสะท้อนภาพเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn's reflect) อันสุดสวยงามยิ่งนัก (โดยปกติน้ำในทะเลสาบ จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำฝน และ สภาพอากาศ ถ้าช่วงฤดูหนาวทะเลสาบจะกลายเป็นน้ำแข็ง)
เย็น อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก GORNERGRAT DORF หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองมองเทรอซ์ (Montreux) เมืองตากอากาศเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา ได้ชื่อว่า “ริเวียร่าของสวิส” ให้ท่านได้ชมความสวยงามของทิวทัศน์ บ้านเรือน ริมทะเลสาบ นำท่านเข้าชมปราสาทชิลยอง (Chillon castle) โดยปราสาทแห่งนี้ เป็นปราสาทโบราณอายุกว่า 800 ปี สร้างขึ้นบนเกาะหินริมทะเลสาบเจนีวา ตั้งแต่ยุคโรมันเรืองอำนาจโดยราชวงศ์ SAVOY โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อควบคุมการเดินทางของนักเดินทางและขบวนสินค้าที่จะสัญจรผ่านไปมาจากเหนือสู่ใต้หรือจากตะวันตกสู่ตะวันออกของสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากเป็นเส้นทางเดียวที่ไม่ต้องเดินทางข้ามเทือกเขาสูงชัน ปราสาทแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนด่านเก็บภาษีซึ่งเอาเปรียบชาวสวิสมานานนับร้อยปี
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองโลซานน์ (Lausanne) ซึ่งตั้งอยู่ตอนเหนือของทะเลสาบเจนีวา เมืองโลซานน์นับได้ว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์โดยธรรมชาติมากที่สุดเมืองหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ มีประวัติศาสตร์อันยาวนานมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 ในสมัยที่ชาวโรมันมาตั้งหลักแหล่งอยู่บริเวณริมฝั่งทะเลสาบที่นี่ เมืองโลซานน์มีความสวยงามโดยธรรมชาติ ทิวทัศน์ที่สวยงาม และอากาศที่ปราศจากมลพิษ จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาพักผ่อนตากอากาศที่นี่
จากนั้นนำท่านชม สวนสาธารณะที่มีรูปปั้นลิง 3 ตัว ปิดหู ปิดปาก ปิดตา อันเป็นสถานที่ทรงโปรดของในหลวงเมื่อทรงพระเยาว์นำท่านเดินทางสู่ กรุงเบิร์น (Bern) ซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1863 นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี ค.ศ.2010 ละถ่ายรูปกับ ศาลาไทย ที่รัฐบาลไทยส่งไปตั้งในสวนสาธารณะของเมืองโลซานน์
เย็น รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOLIDAY INN BERN WESTSIDE หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชมบ่อหมีสีน้ำตาล (Bear Park) สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น นำท่านเดินลัดเลาะสู่ถนนจุงเคอร์นกาสเซ (Junkerngasse) ถนนที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีในย่านเมืองเก่า มีบ้านอาคารสไตล์บาโรกตอนปลาย
นำท่านแวะถ่ายรูปกับวิหารเบิร์น (Bern’s Minster) วิหารสไตล์โกธิคที่สูงที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1421 ประตูจะมีภาพที่บรรยายถึงการตัดสินครั้งสุดท้ายของพระเจ้า จากนั้นเดินสู่ถนนแครมกัซเซอ (Kramgasse) นำถ่ายรูปกับบ้านไอน์สไตน์ (Einsteinhaus) บ้านเลขที่ 49 ที่อัลเบิร์ตไอน์สไตน์เคยอาศัยอยู่ที่นี่ เมื่อครั้งมาทำงานเป็นผู้ตรวจสอบของสำนักงานสิทธิบัตรของสวิส ช่วงปี ค.ศ.1902-1905
จากนั้นชมหอนาฬิกาดาราศาสตร์ (Zytglogge) อายุ 800 ปี ที่มี “โชว์” ให้ดูทุกๆชั่วโมงในการตีบอกเวลาแต่ละครั้ง
นำท่านเดินชมมาร์กาสเซ(Marktgasse) ที่เต็มไปด้วยร้านดอกไม้และบูติค เป็นย่านที่ปลอดรถยนต์ จึงเหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคารเก่าอายุ 200-300 ปี
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
หลังจากนั้น นำท่านเดินทางสู่สนามบินซูริค เพื่อทำคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี (Duty Free) ภายในสนามบิน
18.00 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพ โดยเที่ยวบินที่ LX 180
10.40 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ