สิกขิม ดินแดนในอ้อมกอดหิมาลัย
สิกขิม (Sikkim) ดินแดนในอ้อมกอดแห่งขุนเขา เรื่องราวของอาณาจักรแห่งเทพนิยาย มนต์เสน่ห์ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาสัมผัสและเปิดประสบการณ์การเดินทางใหม่ๆ ในดินแดนที่ได้ชื่อว่าเป็น “สวิสเซอร์แลนด์แห่งแดนตะวันออก”
สิกขิม (Sikkim) ดินแดนในอ้อมกอดแห่งขุนเขา เรื่องราวของอาณาจักรแห่งเทพนิยายถือกำเนิดเกิดขึ้นในปี 1642 ด้วยความสวยงาม เงียบสงบแบบสโลว์ไลฟ์ของดินแดนที่ท้องฟ้าจรดภูเขา บวกกับความยิ่งใหญ่อลังการของธรรมชาติ ทำให้สิกขิมเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยว และนักผจญภัยมาสัมผัสและเปิดประสบการณ์การเดินทางใหม่ๆ จนได้ชื่อว่าเป็น “สวิสเซอร์แลนด์แห่งแดนตะวันออก”

สิกขิม ตั้งอยู่บนที่ราบเนินสูงท่ามกลางเทือกเขาหิมาลัย อยู่ภายใต้ปกครองของราชวงศ์นัมเกลมาอย่างยาวนานถึง 333 ปี แม้จะรอดพ้นจากการปกครองของอังกฤษ แต่รัฐอิสระอย่างสิกขิมได้ถูกผนวกเข้ากับอินเดียและเปลี่ยนสถานะเป็นรัฐหนึ่งของประเทศอินเดีย (State of India) ในปี 1975 โดยตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ในจุดสูงที่สุดของประเทศอินเดีย โดยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลเฉลี่ย 1,600 เมตร มีพรมแดนติดกับทิเบต เนปาล และภูฏาน สิกขิมเป็นชื่อเรียกที่หมายถึง “บ้านใหม่” ของชาวเลปชาที่อพยพจากทิเบตมาตั้งถิ่นฐานในดินแดนแห่งนี้
แม้ในอดีตประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวเลปชา แต่ความใกล้ชิดกับเพื่อนบ้านอย่างเนปาล ทำให้สิกขิมมีประชากรเชื้อสายเนปาลีถึงร้อยละ 75 และด้วยความผสมผสานอย่างกลมกลืน และความเป็นจุดกึ่งกลางที่ห้อมล้อมด้วยเพื่อนบ้านหลากหลายชาตินี้เอง ทำให้สิกขิมได้รับอิทธิพลทั้งด้านศาสนา วัฒนธรรม มีความหลากหลายและการใช้ชีวิตที่มีความเป็นเอกลักษณ์อย่างน่าค้นหา กังต็อก (Gangtok) คือ เมืองหลวงสำคัญของรัฐสิกขิม เป็นเมืองที่อยู่ด้านล่างของเทือกเขาหิมาลัย จากหมู่บ้านเล็กๆ ที่ถือกำเนิดเกิดในปี 1716 พัฒนาจนกลายเป็นศูนย์กลางของนักแสวงบุญ และในที่สุดหมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการสถาปนาเป็นเมืองหลวงแห่งสิกขิมในปี 1894 โดยกษัตริย์ผู้ปกครองสิกขิม ธูทอบ นัมเกล (Thutob Namgyall) ปัจจุบัน
สิกขิมเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาสัมผัสความเงียบสงบ และความสวยงามของธรรมชาติ การเดินทางสู่อ้อมกอดแห่งหิมาลัยอาจไม่ง่ายเท่าการบินตรงสู่สวิสเซอร์แลนด์ แต่การเดินทางสู่ดินแดนบนเนินเขาสูงแห่งนี้ ก็ทำให้ชีวิตการเดินทางน่าค้นหาและมีความหมายมากขึ้น
เส้นทางการเดินทางทัวร์สิกขิม ทริปนี้เราจะเริ่มจากบินตรงสู่ เมืองกัลกัตตา (Kolkata ชื่อเดิม Calcutta) เมืองที่แม่น้ำคงคาอันศักดิ์สิทธิ์ของอินเดียไหลมาบรรจบกับมหาสมุทรอินเดียที่อ่าวเบงกอล ก่อนต่อเครื่องภายในประเทศบินข้ามเส้นละติจูดขึ้นสู่ เมืองบักโดกรา (Bagdogra) ภาพภูเขาทอดตัวยาว คือเส้นทางที่นักเดินทางจะได้สัมผัสตลอดระยะเวลากว่า 4 ชั่วโมงกับการนั่งรถลัดเลาะสันเขาโค้งสู่ เมืองกังต็อก (Gangtok) จุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่อ้อมกอดของหิมาลัย กังต็อก เป็นเมืองบนเขาที่มีทิวทัศน์สวยงาม สิ่งที่พลาดไม่ได้สำหรับการมาเยือนที่นี่ คือการแวะ จุดชมวิวตาชิ (Tachi Viewpoint) เพื่อสัมผัสความสวยงามของ ยอดเขากันเจนชุงคา (Kanchenjunga) ยอดเขาที่สูงที่สุดเป็นอันดับสามของโลก รองจากยอดเขาเอเวอเรสต์ และยอดเขาเคทู กันเจนชุงคา สูง 8,586 เมตรเหนือน้ำทะเล ทอดกั้นพรมแดนสิกขิม เนปาล และภูฏาน
ชาวสิกขิมเชื่อว่า ยอดเขากันเจนชุงคาเป็นยอดเขาศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่สถิตของเทพเจ้าและเป็นที่เก็บสัญลักษณ์ทั้ง 5 ไว้คือ เกลือ อัญมณี คัมภีร์ ยา และชุดเกราะ ความเชื่อของชาวสิกขิม ยังแสดงออกผ่านความศรัทธาทางศาสนา ภาพกงล้อแห่งชีวิต (The Wheel of Life) ที่มักพบตามทางเข้าวัดในสิกขิม สื่อถึงแนวคิดและปรัชญาพื้นฐานตามแบบพุทธศาสนาที่เกี่ยวข้องกับการเวียนว่ายตายเกิดที่เกิดจากกรรมและการกระทำของมนุษย์ ห่างออกไปจากกังต็อกอีก 3 ชั่วโมงสำหรับการเดินทางด้วยรถ เราจะพบอีกบรรยากาศสวยงามของวิวหมู่บ้านที่ปลูกตามไหล่เขาเรียงรายเป็นขั้นบันได และความอลังการของไร่ชาขนาดใหญ่แห่งเมืองดาร์จิลิ่ง (Darjeeling) เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็น “ราชินีแห่งภูเขา”
ดาร์จิลิ่ง (Darjeeling) เป็นเมืองที่หันหน้าเข้าหาเทือกเขาหิมาลัย เป็นเมืองตากอากาศที่สวยงาม อยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเล 2,134 เมตร มาที่นี่ ต้องไม่พลาดนั่งชิลจิบชาเลิศรส กลิ่นหอมละมุ่น ดื่มด่ำบรรยากาศแห่งขุนเขา ซึ่งเป็น Signature ของเมืองที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นเป็นแหล่งปลูกชาที่ดีที่สุดในโลก
ราชินีแห่งภูเขา ยังคงวิถีชีวิตดั้งเดิมที่ควบคู่ไปกับภาพการเดินทางโดยรถไฟสายเก่าที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1879 รถไฟแห่งดาร์จิลิ่ง ยังคงใช้หัวจักรไอน้ำแล่นบนรางเล็กพิเศษ เป็นรถไฟสายสั้น วิ่งในระยะทางเพียง 88 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถไฟขนาดเล็กไต่ภูเขาสูงระดับ 4,000-5,000 ฟุตสู่ดาร์จีลิ่ง เพราะความขลังของขบวนรถไฟสายเก่านี้ Darjeeling Himalayan Railway หรืออีกนิคเนมหนึ่งคือ Toy Train จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้ ก่อนอำลาดาร์จีลิ่ง การได้ดื่มด่ำบรรยากาศของเทือกเขาหิมาลัยที่ ไทเกอร์ฮิล (Tiger Hill) เป็นอีกจุดไฮไลท์ที่สามารถดูยอดเขาคันชังจุงก้าได้ชัดเจนและสวยงามที่สุด
แต่การเดินทางค้นหามนต์เสน่ห์แห่งสิกขิมยังไม่จบเพียงเท่านี้ เป้าหมายสู่อ้อมกอดหิมาลัยยังรออยู่ที่ Zero Point แห่งหมู่บ้านลาชุง (Lachung) เมืองเล็กๆ แสนสงบตอนเหนือของสิกขิม หมู่บ้านลาชุง ห่างจากเมืองหลวงกังต็อกกว่า 120 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง บน North Sikkim Highway มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศจีน และเป็นจุดสุดท้ายในภาคเหนือที่ทางการอนุญาตให้พักแรมค้างคืนได้ในการท่องเที่ยวสิกขิม ประชากรที่นี่ส่วนใหญ่เป็นชาวเลปซา และชาวทิเบต การเดินทางสู่ Zero Point จากหมู่บ้านลาชุงใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
ตลอดเส้นทางจะผ่านหุบเขา ลำธาร และถนนที่ปกคลุมด้วยหิมะ ความตื่นเต้นในการเดินทางที่ต้องลุ้นตลอดเส้นทาง กำลังจะแลกมาด้วยความสวยงามอลังการการของหุบเขาหิมะแห่งหิมาลัย และเมื่อภาพหิมะขาวโพลนผสมกับธารน้ำแข็งกราเซียกว้างใหญ่บน Zero Point ปรากฏขึ้น ความอลังการเบื้องหน้าเหมือนมีมนต์สะกดให้หัวใจเราหยุดเต้น บนความสูงกว่า 4,600 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ภาพสวิสเซอร์แลนด์แห่งดินแดนตะวันออกค่อยๆ เผยโฉมผ่านความงามทางธรรมชาติของหุบเขาหิมะที่โอบล้อมด้วยท้องฟ้าใส
และเราก็พบว่า... เราอยู่ในอ้อมกอดของหิมาลัยแล้ว... หิมาลัยยังคงตระหง่าน และรอคอยผู้มาเยือน ทุกเส้นทางของการเดินทางที่ผ่านมา เหมือนเป็นบททดสอบว่าหัวใจที่มุ่งมั่นจะแปรเปลี่ยนอุปสรรคให้เป็นความท้าทาย เพื่อพิชิตถึงเป้าหมายที่อยู่เบื้องหน้าได้ ขอบคุณการเดินทางสู่สิกขิม... ดินแดนในอ้อมกอดของหิมาลัย ที่ทำให้รู้ว่าเราทุกคนล้วนเข้มแข็งพอที่จะผ่านอุปสรรค เพื่อสัมผัสถึงความสวยงามอันยิ่งใหญ่ที่ยังเหลือเป็นของขวัญให้กับโลกใบนี้...
**การท่องเที่ยวสิกขิมในช่วงเดือนเมษายน – พฤษภาคม จะเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิที่เต็มไปด้วยดอกไม้ป่าที่บานสะพรั่ง และในช่วงกลางเดือนตุลาคม - กลางเดือนกุมภาพันธ์ จะเหมาะสำหรับการเดินทางไปเที่ยวชมบรรยากาศของภูเขาหิมะ เลือกสรรโปรแกรมทัวร์เที่ยวสิกขิม ดาร์จิลิ่ง หรือ ทัวร์อินเดีย ดีดีกับทีมงานมืออาชีพได้ที่ไทยทราเวลเซ็นเตอร์**